น่าเศร้า! โพลแฉคนไทยหลอกตัวเองใช้ชีวิต “พอเพียง” แต่ไม่เพียงพอ โดยหนึ่งในปัจจัยสำคัญคือ ทัศนคติยอมรับรัฐบาลที่ทุจริตคอรัปชั่นแต่ขอให้ตนเองได้ผลประโยชน์ด้วย...
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน (ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง การใช้ชีวิตพอเพียง กับความสุขของประชาชน กรณีศึกษาประชาชนที่มี อายุ 18-60 ปี ใน 17 จังหวัดของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,270 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการวันที่ 1 - 18 สิงหาคม ที่ผ่านมาพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.6 ตอบว่า ตนเองใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง แต่เมื่อวิเคราะห์ดัชนีการใช้ชีวิตของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.2 ไม่ได้ใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง มีเพียงร้อยละ 28.8 ที่ใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง
ดร.นพดล กล่าวต่อว่า ผลสำรวจพบ 5 เหตุปัจจัยของการใช้ชีวิตแบบ “ไม่” พอเพียงของประชาชน ได้แก่ ทัศนคติยอมรับรัฐบาลที่ทุจริตคอรัปชั่นแต่ขอให้ตนเองได้ผลประโยชน์ด้วย โดยพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.0 คิดว่า การทุจริตคอรัปชั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดาในการทำธุรกิจ และร้อยละ 55.2 คิดว่ารัฐบาลทุกรัฐบาลทุจริตคอรัปชั่นด้วยกันทั้งนั้น แต่บางรัฐบาลทุจริตคอรัปชั่นแล้ว ตนเองได้รับผลประโยชน์ด้วย ก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้
ในขณะที่ร้อยละ 43.2 คิดอยากจะซื้ออะไรก็ซื้อ ไม่ต้องวางแผนจับจ่ายใช้สอยอะไร ร้อยละ 43.0 หลังซื้อสินค้ามาแล้วมักพบว่าตนเองไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์เท่าใดนัก และร้อยละ 43.0 ระบุในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมายังเล่นพนัน ซื้อหวยใต้ดิน และอบายมุข อื่นๆ
ผอ.ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 63.5 จะเดือดร้อนต้องพึ่งพาคนอื่น ถ้าไม่มีรายได้เดือนนี้ ในขณะที่ร้อยละ 36.5 ระบุไม่เดือดร้อนยังอยู่ได้ด้วยตนเอง ที่น่าสนใจ พบว่า กลุ่มคนที่ใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง จะมีความสุขมากกว่า คนที่ไม่ใช้ชีวิตแบบพอเพียงแท้จริง มีความสุขสูงกว่าถึง 4 เท่า
ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2554
No comments:
Post a Comment