Thursday, March 8, 2012

เร่งหาหลักฐานเครือข่ายค้ายาแก้หวัดชงเป็นคดีพิเศษ

ดีเอสไอเร่งหาหลักฐานเครือข่ายค้ายาแก้หวัด ก่อนชงคดีพิเศษ เผยเตรียมขยายผลอีกหลายรพ. รวมถึงบริษัทผู้ผลิตสอบหาความเชื่อมโยงขบวนการค้ายา

วันที่ 8 มี.ค.2555 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีพบการลักลอบนำยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของซู โดอีเฟรดีนซึ่งเป็นสารตั้งต้นผลิตยาบ้าและยาไอซ์ออกจาก รพ. ของรัฐหลายแห่งว่า ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบเชิงลึกร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และองค์การอาหารและยา (อย.)เกี่ยวกับฐานข้อมูลการผลิตและเส้นทางการกระจายยาไปยังรพ.แต่ละแห่ง จำนวนเท่าใดบ้าง จะได้ติดตามว่ายาถูกนำออกไปนอกระบบมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจากการตรวจสอบรพ. 2 แห่ง คือรพ.ศูนย์อุดรธานี และรพ.ทองแสนขันธ์ จ.อุตรดิตถ์ พบว่ามีการลักลอบนำยาออกจากระบบจริงและเชื่อว่ายังมี รพ.อีกหลายแห่ง ที่มีพฤติกรรมลักษณะเดียวกัน แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่นอนได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขและดีเอสไออยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบไปยังเป้าหมาย อีกหลายรพ. ทั้งนี้หากมีข้อมูลว่ามีการกระทำความผิดในลักษณะเป็นเครือข่ายชัดเจน ดีเอสไอจะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพื่อมีมติรับเป็นคดีพิเศษต่อไป โดยกรณีดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายความผิด 2 ข้อหา คือฐานครอบครองและใช้ยาควบคุมโดยผิดกฎหมายและความผิดฐานผลิตยาเสพติด เนื่องจากมีการนำยาไปผลิตเป็นยาเสพติด

นายธาริต กล่าวต่อว่า เบื้องต้นมีข้อมูลน่าเชื่อว่ายาแก้หวัดที่ลักลอบนำออกจากระบบถูกนำไปสารตั้ง ต้นในการผลิตยาบ้าและยาไอซ์ เนื่องจากยาแก้หวัด 1 เม็ดสามารถนำไปผลิตเป็นยาบ้า 3 เม็ด ซึ่งมีแหล่งผลิตยาเสพติดหลายแห่งใช้ยาที่มีส่วนประกอบของซูโดอีเฟรดีนในการ ผลิตยาเสพติดจริง โดยการลักลอบนำไปยาแก้หวัดออกไปมี 2 ช่องทางคือ การลักลอบออกจากระบบของโรงพยาบาลและการลักลอบเข้ามานอกระบบโดยผ่านด่านตรวจ ค้นทั้ง ทางท่าอากาศยานและตามแนวชายแดน อย่างไรก็ตาม นอกจากการตรวจสอบโรงพยาบาลต่างๆ แล้วดีเอสไอยังมีเป้าหมายที่จะขยายผลสอบไปยังบริษัทผลิตยาโดยประสานกับ อย.ที่มีฐานข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว

ที่มา: เร่งหาหลักฐานเครือข่ายค้ายาแก้หวัดชงเป็นคดีพิเศษ เดลินิวส์ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2555

No comments:

Post a Comment