Monday, January 10, 2011

งีบหลับ 'นาทีทอง' ช่วยสมองจำดี

เมื่อไม่อาจทานทนกับความง่วงและหนังตาหนักๆ จงงีบหลับเสียเถิด สมองจะได้รับประโยชน์ แถมตื่นแล้วยังกระปี้กระเปร่า ซึ่ง นพ.กฤษดา ศิรามพุช,พบ.(จุฬาฯ) ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ American Board of Anti-aging medicine บอกเล่าเอาไว้ตั้งแต่คืนวาน อย่างนี้ไปติดตามภาคต่อกันเลย

@@@

เพราะความนึกคิดและความจำของคนนี้จะถูก “ป้อน” ใส่เข้าในช่องสมองอย่างแนบแน่นขึ้นใน “ช่วง” ระหว่าง “หลับลึก(Deep sleep)” กับ “ฝัน(Dreaming sleep)” ช่วงนี้เปรียบเสมือน “นาทีทอง” ที่ต้องรู้ไว้เพราะเป็นหัวใจที่ทำให้การงีบหลับกลางวันมีความหมายขึ้น จะได้ใช้แก้ตัวกับนายได้

เพราะอาสาสมัครที่ได้นอนเป็นเวลาชั่วโมงครึ่งก็ตื่นขึ้นมาทำข้อสอบได้ดียิ่ง กว่าคนที่ไม่ได้นอน โดยงานวิจัยได้ตัดตัวช่วยอื่นๆเช่นความสบายไม่เหนื่อยล้าจากการได้นอนออกไป จนรู้ได้ว่าผลดีที่กล่อมสมองให้เป็นของอัศจรรย์ได้นั้นมาจากการงีบโดยตรง

ที่สำคัญ การงีบหลับยังทำสมองให้เหมือนช่องเก็บ “จดหมาย”

สูตรสำเร็จการงีบที่ดีก็น่าจะเป็น หนึ่งชั่วโมงครึ่งตามงานวิจัย แต่ในความเห็นผมว่าไม่เสมอไปครับ ควรจะปรับให้ได้ตามไลฟสไตล์ของเราแต่ละคนมากกว่า พูดง่ายว่า “ไม่มีสูตรสำเร็จ”

บางคนนอนเบ็ดเสร็จ 20 นาทีก็กะปรี้กะเปร่าเพราะหลับลึกได้ ผิดกับคนที่ “นอนได้” เหมือนกันแต่ไม่ลึกและมีฝันว้าวุ่นก็จะรู้สึกว่านอนก็เหมือนไม่ได้นอน ขาดทุนนิทราไป

เพราะการนอนที่ดูเหมือนเรื่องง่ายเอาเข้าจริงก็มีกฏ กติกา มารยาทต้องรู้ไว้อยู่บ้าง เช่นว่าถ้านอนไม่หลับเกิน 15 นาทีให้ลุกขึ้นมาดีกว่า อย่าออกกำลังกายก่อนนอน และที่สำคัญคือการนอนไม่สามารถชดเชยได้ทั้งต้นและดอก ไม่มีบอกนอนดึกแล้วมานอนซ่อมวันรุ่งขึ้น สมองจะไม่รับรู้ด้วย ดังที่ ดร.แม็ทธิว วอล์คเกอร์หนึ่งในผู้วิจัยได้กล่าวไว้ว่าสมองจะใช้เวลาเรียนรู้ในแต่ละวันมาก หากได้นอนกลางวันมันจะเหมือนกับการ “จัดระเบียบ” ข้อมูลข่าวสารให้เข้าที่เข้าทางขึ้นในติ่งหนึ่งของสมองที่เรียกว่า “ฮิปโปแคมปัส(Hippocampus)”

เจ้าติ่งสมองส่วนนี้ผมชอบเรียกว่า “ม้าน้ำ” เพราะหน้าตามันเหมือนใช่หยอกอยู่ดูจากรูปที่หามาให้ดูได้ครับ

ซึ่งผมเองหลับตานึกตาที่ท่านอาจารย์วอล์คเกอร์แห่งตักสิลา เอ๊ย...ยูซีเบิร์กลีย์ท่านบอกแล้วก็เห็นภาพ “ตู้จดหมาย” ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ หรือท่านจะลองนึกถึงช่องเก็บจดหมายในอีเมลท่านก็ได้ครับ

สมองมีช่องเก็บจดหมายย่อมๆไว้ตู้หนึ่ง ซึ่งถ้าเก็บไว้ทุกอย่างตั้งแต่เกิด ตั้งแต่โน้ตขอตังค์แม่, เมลง้อแฟน, เมลอ้อนกิ๊ก, แผ่นพับโฆษณา,ซองกฐินผ้าป่า,เปียแชร์และอีกสารพัด ตู้จะต้องรับภาระแออัดขนาดไหน คงล้นแล้วล้นอีกไม่มีทีเก็บ บุรุษไปรษณีย์มาก็ส่ายหน้าเพราะว่าจดหมายเก่าก็ยัง “ปลิ้น” ออกมายังไม่ได้ล้างป่าช้า หนำซ้ำของใหม่ก็ทยอยเข้ามามาก ชวน “บ้า” ได้ง่ายๆ

เมื่อมันเป็นในหัวคนถึงทำให้บางคนถึงขั้น “สติแตก” ไปไงครับ เพราะเหลือที่จะรับข้อมูลข่าวสารที่กระหน่ำเข้ามาจนแม้ขณะลมหายใจนี้ เลยสำแดงออกมาแบบบ้าๆบอๆ

เพราะสมองรวนโอเวอร์โหลด แต่ก็มีผู้ที่เข้ามาโปรดเอาไว้ก่อนไม่ให้สัญญาวิปลาสไปเสียก่อนนั่นก็คือ “การนอน” ที่ว่านี้ เดชะบุญที่ธรรมชาติสร้างการนิทราเข้ามาเป็นพระเอกในหัวใจเรา ให้เข้ามาเป็นฮีโร่ยามสมองร้องขอ

เพราะว่าถ้าได้ “หลับลึก” ดีเป็นระยะก็จะทำให้สมองได้จัด “ช่องจดหมาย” ของ ตัวได้ว่าจะเอาเรื่องไหนเข้าเรื่องไหนออก เหมือนกับช่องรังนกเก็บจดหมายในออฟฟิศ เรื่องกระจิริดก็เอาออก แยกไปใส่โฟลเดอร์สัพเพเหระจิปาถะมโนสาเร่ ก็ว่าไป ส่วนเรื่องไหนสำคัญต้องการการ “ตกผลึก” ก็จะฝึกให้เก็บเอาไว้ในแฟ้มสมองอย่างมีระเบียบพร้อมที่จะเรียกใช้ได้

ทั้งหลายทั้งปวงนี้เกิดขึ้นขณะ “นิทรา” เท่านั้นเอง

ซึ่งถึงตอนนี้บางท่านอาจสงสัยว่าแล้วทำไมต้องเป็น “กลางวัน” ซึ่งเป็นเวลาที่อาจไม่สะดวกนักเพราะเจ้านายไม่รักไม่ปลื้ม

ขออย่าลืมครับว่าการนอนกลางคืนของคนปัจจุบันนั้นมัน “คุณภาพด้อย” กว่าแต่ก่อนมาก มีทั้งเสียง,แสงแยงตาแถมยังนอนดึกแล้วมีเครียดอีก หลายท่านจึงมีอาการนอนไม่หลับเป็นเสมือนเพื่อนสนิท ซึ่งพิษมันจะออกในช่วงกลางวันให้หนักหัว เหนื่อยง่าย ง่วงหาวนอนตอนประชุมหรือที่น่ากลัวสุดก็คือ “หลับใน” ตอนขับรถ

ซึ่งการได้งีบกลางวันอย่างมีคุณภาพจะเหมาะกับท่านเหล่านี้มากหรือแม้แต่คน ที่หัวถึงหมอนตอนกลางคืนหลับฟื้ดีอยู่แล้ว ถ้าได้นอนกลางวันอีกสักนิดก็จะคิดอ่านการงานได้ดีขึ้น ช่วย “จัดกลุ่ม” ความจำได้เป็นระยะ

เหมือนกับคอมพิวเตอร์ที่ต้องคอยกด “บันทึก(Save)” งาน ไว้เป็นระยะกันหาย สมองจะจดจำได้ง่ายครับถ้ามีช่วงพักเบรกให้นอนกลางวันด้วย และก็ช่วยท่านที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองได้นอนกลางคืนหลับดีหรือเป็นสมาชิกชมรม นิทราชาคริตคือหลับๆตื่นๆ ก็จะได้ฟื้นศักยภาพสมองอีกครั้งเมื่อได้นอนกลางวัน

วิธีสังเกตง่ายๆว่าท่านต้องการ “งีบกลางวัน” เพื่อ จัดสรรช่องจดหมายในสมองหรือไม่ให้ดูจากอาการ “ง่วง” ก็ได้ครับ สำหรับคนที่ไม่ได้หาเรื่องนอนจริงๆถ้ายิ่งง่วงกลางวันบ่อยๆก็แปลว่าสมองร้อง ขอแล้ว อย่ารอเพิกเฉยทีเดียวครับ สงสารสมองที่เหมือนเครื่องร้อนต้องการผ่อนบ้าง แม้จะไม่ได้จ้างมานอนก็ตาม

@@@

takecareDD@gmail.com


ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์ วันอังคารที่ 11 มกราคม 2554

No comments:

Post a Comment