(Credit : วิสูตร แสงอรุณเลิศ , งานไม่ประจำทำเงินมากกว่า)
ผมมีความลับช็อคโลกมาแฉครับ !
คุณรู้มั้ยครับว่าไทเกอร์ วู้ดส์ เคยเล่นกอล์ฟไม่เป็นมาก่อน
ส่วนเลดี้กาก้า เคยร้องเพลงแย่และเต้นไม่เป็นมาก่อน
มิคาเอล ชูมัคเกอร์ นักแข่งรถ F1 เคยขับรถไม่เป็นมาก่อน
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก นี่ยิ่งทุเรศใหญ่ สร้าง facebook แท้ๆ แต่เคยเล่นคอมพิวเตอร์ไม่เป็นมาก่อน
แม้กระทั่งคนไทยอย่างพวกเซียนหุ้นใน stock2morrow
อย่าง ป๋ากิ้ง ป๋าแพ้ท ป๋าหยง ป๋าปุย ก็เล่นหุ้นไม่เป็นมาก่อน
อะไรกันเนี่ย ?! ผมนึกว่าพวกเขาจะเก่งมาตั้งแต่เกิด
ประเด็นที่ผมอยากจะบอกก็คือ
คุณไม่มีทางเล่นกีตาร์เก่งได้ในวันเดียว
คุณไม่มีทางพูดภาษาอังกฤษได้ปร๋อได้ในคืนเดียว
คุณไม่มีทางเล่นหุ้นเป็นในการเทรดครั้งเดียว
แต่คุณสามารถทำทั้งหมดที่ว่ามา (หรืออะไรก็ไดที่คุณอยากทำเป็น)
เพียงแค่ค่อยๆ ให้เวลากับมันอย่างสม่ำเสมอทุกวัน
เคล็ดลับจึงอยู่ที่เล็กน้อย...แต่สม่ำเสมอ
สละเวลาฝึกทำอะไรก็ได้อย่างน้อยวันละหนึ่งชั่วโมงที่คุณอยากฝึกมัน
แค่ปีเดียว คุณก็จะเก่งเกินมาตราฐานคนส่วนใหญ่แล้ว
ถ้าห้าปี คุณจะเชี่ยวเชาญในสิ่งนั้น
และถ้าสิบปี คุณมีโอกาสที่จะเป็นลำดับต้นๆของคนที่ทำสิ่งนั้นได้เลยล่ะครับ
-----------------------------
ชีวิตเป็นของเรา จะดีหรือเลว อยู่ที่เราเลือก
**
Key of Success
ความอดทนพากเพียรคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
หนทางที่จะนำพาบุคคลไปสู่ความสำเร็จ มีกุญแจอยู่หลายดอก แต่มีกุญแจดอกหนึ่งซึ่งมีความสำคัญ.....
บุคคลที่ต้องการประสบความสำเร็จไม่ว่าอาชีพใด จะต้องมีกุญแจดอกนี้ กุญแจดอกนี้ก็คือ "ความอดทนพากเพียร"
ชีวิตเป็นของเรา จะดีหรือเลว อยู่ที่เราเลือก
**
Key of Success
ความอดทนพากเพียรคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
หนทางที่จะนำพาบุคคลไปสู่ความสำเร็จ มีกุญแจอยู่หลายดอก แต่มีกุญแจดอกหนึ่งซึ่งมีความสำคัญ.....
บุคคลที่ต้องการประสบความสำเร็จไม่ว่าอาชีพใด จะต้องมีกุญแจดอกนี้ กุญแจดอกนี้ก็คือ "ความอดทนพากเพียร"
บุคคลที่ประสบความสำเร็จ มักมีความอดทนพากเพียรอยู่ในหัวใจ อยู่ในจิตวิญญาณ ดังตัวอย่างเช่น
- โทมัส อัลวา เอดิสัน เคยมีคนไปถามว่า อัจฉริยะเกิดจากอะไร เขาตอบกลับไปโดยไม่คิดว่า “อัจฉริยะเกิดจากแรงบันดาลใจเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ อีก 99 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากความอดทนพากเพียร ทำไม่หยุด”
- ยอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ นักประพันธ์บทละครที่มีชื่อเสียงชาวไอริส กล่าวไว้ว่า “เมื่อตอนหนุ่มๆ เขาสังเกตว่า 9 ใน 10 ของสิ่งที่ผมทำไปนั้นเรียกได้ว่า ล้มเหลว แต่ผมไม่ยอมแพ้ ฉะนั้นผมจึงได้อดทนพากเพียรขึ้นไปอีก 10 เท่า"
- ซิเซโร กว่าจะเป็นนักพูดที่ยิ่งใหญ่ของกรุงโรม เขาต้องอดทนพากเพียรโดยการพูดต่อหน้าเพื่อนๆหรือพูดตามชายหาดทะเล ทุกวันเป็นเวลาถึง 30 ปี กว่าที่จะมีคนยอมรับว่าเขาเป็นนักพูดที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก
- เซอร์ ไอแซค นิวตัน กว่าจะค้นพบกฎของแรงโน้มถ่วงของโลก เขาต้องอดทนพากเพียรทำงาน เขาไม่เคยนอนก่อนตีสองเลย ในการทำงานของเขาเพื่อที่จะค้นพบกฎที่ยิ่งใหญ่เพื่อมอบให้แก่มนุษยชาติ
เป็นต้นๆ......
ความอดทนพากเพียร มักขื่นขม แต่ผลของมันมักหวานชื่นเสมอ คนที่มีความอดทนพากเพียรมักเป็นคนที่มีความขยันขันแข็ง ไม่เกียจคร้าน ซึ่งการปลูกฝังความขยันขันแข็งเราสามารถปลูกฝังได้ดังต่อไปนี้.....
1.ฝืนใจทำงานในระยะแรก งานบางอย่างเป็นสิ่งใหม่และยาก จนบางคนไม่อยากที่จะลงมือทำ แต่คนที่ขยันขันแข็ง เขามักที่จะควบคุมตนเองและฝืนใจที่จะทำงานนั้น
2.ทำอย่างสม่ำเสมอ คนที่มีความขยันขันแข็งมักเป็นคนที่ทำอะไร สม่ำเสมอ เขาจะไม่ทำแล้วหยุด เขาจะทำงานด้วยความสม่ำเสมอ ดังคำว่าเปรียบเทียบว่า “ น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน ” ที่หินกร่อนไม่ใช่เพราะอนุภาพของหยดน้ำที่แรงหรือมีพลัง แต่ก็ด้วยความสม่ำเสมอของหยดน้ำต่างหาก
3.มีเป้าหมายในการทำงาน คนที่มีเป้าหมายในการทำงานมักจะทำงานด้วยความขยันขันแข็ง กระตือรือร้น ในการทำงาน ดังนั้น การตั้งเป้าหมายในการทำงานจึงมีความสำคัญ
4.รู้จักความสำคัญของเวลา คนที่มีความขยันมักเป็นคนที่รู้จักความสำคัญของเวลา เขามักจะบริหารเวลาเป็น อีกทั้งรู้จักที่จะจัดลำดับความสำคัญของงานที่ตนเองได้ทำลงไป
- โทมัส อัลวา เอดิสัน เคยมีคนไปถามว่า อัจฉริยะเกิดจากอะไร เขาตอบกลับไปโดยไม่คิดว่า “อัจฉริยะเกิดจากแรงบันดาลใจเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ อีก 99 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากความอดทนพากเพียร ทำไม่หยุด”
- ยอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ นักประพันธ์บทละครที่มีชื่อเสียงชาวไอริส กล่าวไว้ว่า “เมื่อตอนหนุ่มๆ เขาสังเกตว่า 9 ใน 10 ของสิ่งที่ผมทำไปนั้นเรียกได้ว่า ล้มเหลว แต่ผมไม่ยอมแพ้ ฉะนั้นผมจึงได้อดทนพากเพียรขึ้นไปอีก 10 เท่า"
- ซิเซโร กว่าจะเป็นนักพูดที่ยิ่งใหญ่ของกรุงโรม เขาต้องอดทนพากเพียรโดยการพูดต่อหน้าเพื่อนๆหรือพูดตามชายหาดทะเล ทุกวันเป็นเวลาถึง 30 ปี กว่าที่จะมีคนยอมรับว่าเขาเป็นนักพูดที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก
- เซอร์ ไอแซค นิวตัน กว่าจะค้นพบกฎของแรงโน้มถ่วงของโลก เขาต้องอดทนพากเพียรทำงาน เขาไม่เคยนอนก่อนตีสองเลย ในการทำงานของเขาเพื่อที่จะค้นพบกฎที่ยิ่งใหญ่เพื่อมอบให้แก่มนุษยชาติ
เป็นต้นๆ......
ความอดทนพากเพียร มักขื่นขม แต่ผลของมันมักหวานชื่นเสมอ คนที่มีความอดทนพากเพียรมักเป็นคนที่มีความขยันขันแข็ง ไม่เกียจคร้าน ซึ่งการปลูกฝังความขยันขันแข็งเราสามารถปลูกฝังได้ดังต่อไปนี้.....
1.ฝืนใจทำงานในระยะแรก งานบางอย่างเป็นสิ่งใหม่และยาก จนบางคนไม่อยากที่จะลงมือทำ แต่คนที่ขยันขันแข็ง เขามักที่จะควบคุมตนเองและฝืนใจที่จะทำงานนั้น
2.ทำอย่างสม่ำเสมอ คนที่มีความขยันขันแข็งมักเป็นคนที่ทำอะไร สม่ำเสมอ เขาจะไม่ทำแล้วหยุด เขาจะทำงานด้วยความสม่ำเสมอ ดังคำว่าเปรียบเทียบว่า “ น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน ” ที่หินกร่อนไม่ใช่เพราะอนุภาพของหยดน้ำที่แรงหรือมีพลัง แต่ก็ด้วยความสม่ำเสมอของหยดน้ำต่างหาก
3.มีเป้าหมายในการทำงาน คนที่มีเป้าหมายในการทำงานมักจะทำงานด้วยความขยันขันแข็ง กระตือรือร้น ในการทำงาน ดังนั้น การตั้งเป้าหมายในการทำงานจึงมีความสำคัญ
4.รู้จักความสำคัญของเวลา คนที่มีความขยันมักเป็นคนที่รู้จักความสำคัญของเวลา เขามักจะบริหารเวลาเป็น อีกทั้งรู้จักที่จะจัดลำดับความสำคัญของงานที่ตนเองได้ทำลงไป
5.ปลูกความรักในงานที่ตนเองทำ คนที่ขยันมักที่จะมีความสนใจ ความรัก ความชอบในงานที่ตนเองทำ เขาถึงได้ทำงานนั้นด้วยความสนใจ อีกทั้งทุ่มเทในการทำงานนั้นๆ
6.ฝึกนิสัย ทำทันที(ททท.) สิ่งใดที่เราสามารถทำได้ ก็ให้ลงมือทำทันทีไม่ควรผัดวันประกันพรุ่ง
7.ฝึกความกระตือรือร้น กระฉับกระเฉง ในการทำงาน ไม่ควรทำงานด้วยความเฉื่อยชา แต่หากว่าเหน็ดเหนื่อยก็ให้หยุดพัก แล้วจึงเริ่มทำงานใหม่ การหยุดพักไม่ได้หมายถึงการหยุดพักก็ด้วยเพราะความขี้เกียจ
8.ฝึกหลักคำสอน อิทธิบาท 4 มาใช้ คือ ฉันทะ มีความรักในงานที่ตนเองทำ , วิริยะ มีความพากเพียรในการทำงาน , จิตตะ มีความเอาใจใส่ในงานที่ตนเองทำ และวิมังสา คือ มีความใคร่ครวญในงานที่ตนเองได้ทำลงไป
ดังนั้น หากท่านเป็นอีกผู้หนึ่งที่ต้องการประสบความสำเร็จ ท่านควรฝึกความอดทน ฝึกความพากเพียร และฝึกความขยันขันแข็ง เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นกุญแจที่จะนำพาท่านไปสู่ความสำเร็จ เพราะบุคคลที่ยิ่งใหญ่ บุคคลคนที่สำคัญของโลก ที่มีผลงานมากมายก็ล้วนแล้วแต่เกิดจากหยาดเหงื่อแรงกาย แรงความคิดและแรงใจ ด้วยแท้"
"ธรรมดาความเกียจคร้านย่อมทำอาการเหมือนเป็นมิตร
6.ฝึกนิสัย ทำทันที(ททท.) สิ่งใดที่เราสามารถทำได้ ก็ให้ลงมือทำทันทีไม่ควรผัดวันประกันพรุ่ง
7.ฝึกความกระตือรือร้น กระฉับกระเฉง ในการทำงาน ไม่ควรทำงานด้วยความเฉื่อยชา แต่หากว่าเหน็ดเหนื่อยก็ให้หยุดพัก แล้วจึงเริ่มทำงานใหม่ การหยุดพักไม่ได้หมายถึงการหยุดพักก็ด้วยเพราะความขี้เกียจ
8.ฝึกหลักคำสอน อิทธิบาท 4 มาใช้ คือ ฉันทะ มีความรักในงานที่ตนเองทำ , วิริยะ มีความพากเพียรในการทำงาน , จิตตะ มีความเอาใจใส่ในงานที่ตนเองทำ และวิมังสา คือ มีความใคร่ครวญในงานที่ตนเองได้ทำลงไป
ดังนั้น หากท่านเป็นอีกผู้หนึ่งที่ต้องการประสบความสำเร็จ ท่านควรฝึกความอดทน ฝึกความพากเพียร และฝึกความขยันขันแข็ง เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นกุญแจที่จะนำพาท่านไปสู่ความสำเร็จ เพราะบุคคลที่ยิ่งใหญ่ บุคคลคนที่สำคัญของโลก ที่มีผลงานมากมายก็ล้วนแล้วแต่เกิดจากหยาดเหงื่อแรงกาย แรงความคิดและแรงใจ ด้วยแท้"
"ธรรมดาความเกียจคร้านย่อมทำอาการเหมือนเป็นมิตร
ให้ความสุขในต้นมือ หลอกลวงคนโง่ให้หลง
ภายหลังให้ความทุกข์ไม่มีที่สิ้นสุด
ส่วนความหมั่นเพียรนั้น ย่อมทำอาการอย่างประหนึ่งว่าเป็นข้าศึก
ให้ความทุกข์ในต้นมือ
แต่ที่จริงกลับเป็นมหามิตรอย่างประเสริฐ
ภายหลังให้ความสุขไม่มีที่สิ้นสุด"
Cr: Force
ภายหลังให้ความทุกข์ไม่มีที่สิ้นสุด
ส่วนความหมั่นเพียรนั้น ย่อมทำอาการอย่างประหนึ่งว่าเป็นข้าศึก
ให้ความทุกข์ในต้นมือ
แต่ที่จริงกลับเป็นมหามิตรอย่างประเสริฐ
ภายหลังให้ความสุขไม่มีที่สิ้นสุด"
Cr: Force
No comments:
Post a Comment