นักเศรษฐศาสตร์ให้รัฐบาลสอบตกบริหารศก.
โพลมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เผยนักเศรษฐศาสตร์ให้คะแนนรัฐบาลบริหารเศรษฐกิจ3.83เต็ม10 ด้านบริหารจัดการราคาพลังงานแย่สุด
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 26 แห่ง จำนวน 63 คนในหัวข้อ ประเมินผลงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลในรอบ 9 เดือน ระหว่างวันที่ 20 - 25 เม.ย. ที่ผ่านมา พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ประเมินผลงานการบริหารเศรษฐกิจในภาพรวมของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยให้คะแนน 3.83 คะแนน จากเต็ม 10
ผลโพลยังระบุถึงคะแนนที่รัฐบาลได้รับในการบริหารเศรษฐกิจแต่ละด้านดังนี้ การเติบโตของ GDP ได้ 5.00 คะแนน (เต็ม 10 คะแนน) ด้านการนำพาเศรษฐกิจไทยในช่วงหลังวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ ได้ 4.53 คะแนน (เต็ม 10 คะแนน) ด้านการบริหารจัดการหนี้สาธารณะได้ 3.75 คะแนน (เต็ม 10 คะแนน) ด้านการสร้างความเป็นธรรมในสังคม ลดความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ ได้ 3.47 คะแนน (เต็ม 10 คะแนน) ด้านการแก้ปัญหา/ดูแลเสถียรภาพของราคาสินค้า ได้ 3.17 คะแนน (เต็ม 10 คะแนน) ด้านการบริหารจัดการราคาพลังงาน 3.03 คะแนน (เต็ม 10 คะแนน)
ขณะที่ผลงานในการดำเนินโครงการตามที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน พบว่า โครงการที่นักเศรษฐศาสตร์เห็นว่ามีผลงานอยู่ในระดับในระดับยอดเยี่ยม มีดังนี้อันดับ 1.โครงการขจัดยาเสพติดใน12 เดือน 54.9% อันดับ 2.โครงการคืนภาษีให้ผู้ซื้อรถคันแรก 35.3% อันดับ 3.โครงการ30 บาทรักษาทุกโรคได้จริง 33.3%
ส่วนโครงการที่เห็นว่ามีผลงานอยู่ในระดับในระดับยอดแย่ มีดังนี้ อันดับ 1. โครงการยกเลิกกองทุนน้ำมัน (การลดราคาน้ำมันเบนซินและดีเซล) 43.5% อันดับ 2.โครงการจำนำข้าวเปลือกเจ้าเกวียนละ 15,000 บาท และข้าวหอมมะลิเกวียนละ 20,000 บาท 40.3% อันดับ 3.คือโครงการแจกแท็บเลต พีซี ให้เด็กนักเรียน และโครงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ภายใน 90 วัน ได้ 38.7% เท่ากัน
:: การเงิน- นักเศรษฐศาสตร์ให้รัฐบาลสอบตกบริหารศก.โพสต์ทูเดย์ดอทคอม วันอังคารที่ 01 พฤษภาคม 2555
=========================
ตาแหก-แหกตา
รายงานข่าวโดย: ณ กาฬน่าเบื่อเหลือทน กับบรรดาคำพูดของ ฯพณฯ ผู้มีอำนาจปกครองบ้านเมือง พ่นออกมาได้ทุกวัน ของไม่แพง ชาวบ้านวิตกจริต คิดไปเองเสียมากกว่า
มันน่าเหนื่อยใจจริง กับการนอนหลับไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็น กับความเดือดร้อนของชาวบ้าน
รัฐบาลนี้มีนโยบายสำคัญในการแก้ปัญหาของแพงก็คือ โครงการร้านค้าถูกใจ หรือโชห่วยช่วยชาติ ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งล้มเหลวไม่เป็นท่า จนกระทั่งถึงโครงการใหม่ที่เพิ่งทำมาและเป็นผลสำเร็จ
นั่นคือ มหกรรมแหกตา...มาหาเธอ
เพราะตัวเลขของแพงที่กระทรวงพาณิชย์เที่ยวนำเสนอทั่วบ้านทั่วเมืองนั้น เอาเข้าจริง มันแตกต่างจากสิ่งที่ชาวบ้านเจออยู่
สินค้าหลายชนิดที่กระทรวงพาณิชย์จัดทำเป็นราคาแนะนำ ราคาต่ำกว่าความเป็นจริงมากโข
ข้อมูลปรากฏกันซึ่งหน้า เมื่อ ยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นำพานักข่าวไปตระเวนตามตลาดเตาปูน และพบว่า ราคาสินค้าเกือบทุกชนิดสูงกว่าราคาแนะนำของกระทรวงพาณิชย์
สภาพเช่นนี้ไปดูได้ เป็นกันเกือบทุกตลาด ไม่ว่าจะเฉพาะตลาดใดตลาดหนึ่งเท่านั้น
อย่างเนื้อหมู ราคาแนะนำของกระทรวงพาณิชย์กิโลกรัมละ 123.50 บาท แต่ที่ชาวบ้านไปซื้อหากันจริงอยู่ที่ 135-140 บาท หรือแพงกว่ากันนับ 10%
เนื้อไก่ ราคาแนะนำที่กิโลกรัมละ 68.99 บาท ขณะที่ในตลาด 80 บาท
แตงกวา ราคาแนะนำของกระทรวงพาณิชย์ 22.64 บาทต่อกิโลกรัม แต่ตลาดขายถึง 40 บาท
ถั่วฝักยาว ราคาแนะนำ 30 บาท แต่ของจริงอยู่ที่ 60 บาท แพงกว่ากันเท่าตัว
น่าเสียดาย พลาดไปอีก 1 สินค้าที่ไม่มีการสำรวจ นั่นคือ น้ำยาล้างตา ป่านนี้คงแพงหูฉี่ ขาดตลาด เพราะถูกกว้านซื้อไปแก้อาการตาแหกเพราะถูกแหกตา
ที่สำคัญข้อมูลสินค้าเหล่านี้ก็ส่งไปให้ ฯพณฯ ที่อยู่บนหอคอยงาช้าง เพื่อสนับสนุนการป่าวประกาศของไม่แพง ทั้งๆ ที่กระเป๋าชาวบ้านเกลี้ยงแล้วเกลี้ยงเล่า
ปัญหาของแพงเป็นเสียงที่ดังระงมทั่วบ้านทั่วเมือง มีแต่บรรดาผู้มีอำนาจทั้งหลาย ไม่รู้ไม่เห็นเท่านั้นเอง
ถ้าหูไม่หนวก ตาไม่บอด ก็แสดงให้เห็นว่า แต่ละคนไม่เดือดร้อน ไม่รู้จักว่าของแพงเป็นอย่างไร สาเหตุอาจด้วยกำลังอิ่มแปล้ พุงกาง จากสารพัดโครงการ ที่ล้วนแล้วแต่น่ารับประทานทั้งสิ้น
แหม...กินกันกำลังเพลิน ไม่เห็นว่ามันแพงตรงไหนเลยพับผ่า
:: โพสต์ทูเดย์ดอทคอม 03 พฤษภาคม 2555
No comments:
Post a Comment