Tuesday, May 8, 2012

อนุ กมธ.สภาฯ แฉงบน้ำท่วมส่อโกงยันข้าวกล่อง

อนุ กมธ. เผยงบน้ำท่วม มท.มีการเรียกเก็บหัวคิว 35% งงรัฐเรียกคืนเงินทั้งที่ช่วยชาวบ้านยังไม่ทั่ว ฉะรัฐเปิดทางทุจริตไม่แจ้งราคากลางแถมใช้วิธีพิเศษ พบพิรุธ พม.ส่องาบงบข้าวกล่องร่วม 30 ล้าน เชื่อมีนักการเมืองร่วมเอี่ยวร่วมกับข้าราชการระดับสูง...

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ คณะอนุกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (งบน้ำท่วม) สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า จากการที่คณะอนุกรรมาธิการฯ ตรวจสอบการใช้งบประมาณเพื่อช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 1.2 แสนล้านบาท พบว่าโครงการต่างๆ มีการเบิกจ่ายงบไปเพียง 10% เท่านั้น ถือว่ามีความล่าช้ามาก และงบในส่วนของกระทรวงมหาดไทยที่จะให้เบิกจ่าย พบว่ามีคนไปเรียกเก็บค่าหัวคิว 35% ซึ่งเรื่องนี้รองปลัดกระทรวงมหาดไทยยอมรับว่ามีคนไปแอบอ้างเรียกเก็บค่าหัวคิว แต่เมื่อตรวจสอบไปแล้วพบว่าเป็นเรื่องจริง ซึ่งทางคณะอนุกรรมาธิการฯ จะตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไปว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้าง

อีกทั้งเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ครม.ได้มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยาฟื้นฟู และป้องกันการเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการที่มีโครงการหรือรายการที่ยังไม่ได้มีการจัดซื้อจัดจ้างในขั้นตอนการประกวดราคา หรือกรณีดำเนินการเองที่ยังไม่ได้เริ่มปฏิบัติงานภายในวันที่ 30 เม.ย.ให้ส่งคืนงบประมาณดังกล่าวให้สำนักงบฯ ในวันที่ 3 พ.ค. ซึ่งเรื่องนี้มีความผิดปกติว่า ทำไมต้องเรียกงบประมาณคืน ใครเป็นคนสั่งให้ดำเนินการแบบนี้ จากกรณีดังกล่าวหมายความว่าประชาชนอีกจำนวนมากที่ประสบอุทกภัยจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือและเดือดร้อนมาก ทั้งๆ ที่ความจริงปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นความผิดของประชาชน แต่เป็นความผิดพลาดจากหน่วยงานราชการที่ดำเนินการล่าช้าจนต้องเรียกเงินคืน

นายชาญชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นยังพบว่าโครงการต่างๆ ไม่มีการแจ้งราคากลาง ทั้งๆ ที่ ป.ป.ช. มีระเบียบว่าต้องแจ้งราคากลางและทำตามกฎหมาย แต่รัฐบาลกลับส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังพิจารณาเรื่องนี้ จึงเห็นว่ารัฐบาลพยายามที่จะปฏิเสธไม่ให้มีการเปิดเผยบุคคลหรือราคากลางโครงการต่างๆ เพราะได้มีมติ ครม.ออกมาว่าไม่ควรแสดงรายชื่อคณะกรรมการกำหนดราคากลาง เกรงจะมีผลกระทบทางสังคมต่อผู้นั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่โปร่งใสในการทำงานของรัฐบาล โดยมีการใช้วิธีพิเศษในการจ้างงานทั้งสิ้น

ที่ผ่านมาทางคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้เชิญกรมทางหลวงและกรมชลประทานมาชี้แจงเกี่ยวกับงบประมาณที่ได้รับไปประมาณ 1 พันล้านบาทนั้น พบว่ากรมทางหลวงมีแผนการสร้างสะพาน จำนวน 500 ล้านบาท และ 350 ล้านบาท ในหลายจุด โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่ฟลัดเวย์ ซึ่งน่าแปลกที่มีการระบุในการใช้งบว่าเป็นงบฉุกเฉินที่ต้องสร้างให้เสร็จภายใน 3-6 เดือน แต่ในสัญญาว่าจ้างกำหนดให้แล้วเสร็จในปี 2556 โดยทางกรมชลประทานได้ยอมรับว่าพื้นที่ฟลัดเวย์ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะใช้พื้นที่ใดกันแน่ แต่กลับมีการอนุมัติงบประมาณให้สร้างสะพานหลาย 10 จุด ซึ่งรัฐบาลต้องตอบว่าหน่วยงานใดเป็นคนสั่งให้สร้าง กยอ.หรือนายกฯ ที่สั่งให้สร้าง ทั้งนี้เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นแรงจูงใจที่จะทำให้เกิดการทุจริตได้ จึงต้องติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป โดยการประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ วันที่ 16 พ.ค.นี้ จะเชิญกรมชลประทานมาชี้แจงความชัดเจนของพื้นที่ฟลัดเวย์เพื่อระบายน้ำอีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ ยังพบข้อพิรุธในการจัดซื้อข้าวกล่องช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ใน 4 เขต กทม.ได้แก่ ลาดกระบัง มีนบุรี หนองจอก และคลองสามวา ส่อไปในทางทุจริตเรื่องงบประมาณ เพราะมีการเบิกจ่ายงบจำนวน 61 ล้านบาท โดยอ้างว่ามีผู้จ่ายเงินสดล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ระดับผู้อำนวยการพื้นที่เขตในสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นผู้เบิกเงินสดจากกระทรวงไปจ่ายย้อนหลังให้ผู้รับจ้างทำข้าวกล่อง ซึ่งตามปกติจะเบิกจ่ายเป็นเช็ค แต่สำหรับครั้งนี้เบิกจ่ายเป็นเงินสดครั้งละ 9-10 ล้านบาท โดยทางดีเอสไอ และป.ป.ท.ได้ลงไปตรวจสอบและพบพิรุธว่า ร้านค้าที่รับทำข้าวกล่องไม่มีการเสียภาษี โดยผู้ผลิตข้าวกล่องยืนยันว่า ตัวเองไม่ได้รับงาน แต่ถูกว่าจ้างให้ดำเนินการวันละ 200 บาทเท่านั้น และไม่ได้เป็นผู้รับเงินค่าจ้างย้อนหลังตามที่มีการเบิกจ่ายย้อนหลัง

“จากการตรวจสอบรายชื่อผู้ที่จ่ายเงินล่วงหน้า เป็นที่น่าสงสัยว่า อาจมีการสวมสิทธิ์รายชื่อผู้มีสิทธิ์ทำข้าวกล่องมาเบิกจ่ายงบ อีกทั้งอาจมีการทุจริตถึง 30 ล้านบาท จากเงินที่ได้มีการเบิกจ่าย เชื่อว่าเงินจำนวน 61 ล้านบาท ที่อ้างนั้นน่าจะมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน นอกจากนี้เรื่องดังกล่าวยังเกี่ยวข้องตั้งแต่ ผอ.เขต 8 สำนักงานพัฒนาสังคม และอาจโยงไปถึงอธิบดี รองอธิบดีและผู้ใหญ่ในกระทรวง" นายชาญชัย กล่าว

:: อนุ กมธ.สภาฯ แฉงบน้ำท่วมส่อโกงยันข้าวกล่อง
:: ไทยรัฐออนไลน์ 3 พฤษภาคม 2555

No comments:

Post a Comment