ร้องไห้เป็นเรื่องธรรมชาติที่ติดตัวคนเราตั้งแต่เกิดมา เมื่อยังเป็นแค่เด็กทารก เราร้องไห้เมื่อรู้สึกหิว เมื่อง่วงนอน เหนื่อย หงุดหงิด รู้สึกไม่สบายเนื้อตัว
เมื่อโตขึ้นสักหน่อย น้ำตารินไหลเมื่อไม่มีใครสนใจ เมื่อกลัว เมื่อถูกผู้ใหญ่ตำหนิลงโทษ หรือเมื่อหกล้มลง แต่นั่นก็ในเวลาไม่นานนัก แค่ไม่กี่นาทีเราก็กลับมาวิ่งเล่นเป็นเด็กปกติได้เหมือนเคย
มิต้า พาน Mita Bhan นักบำบัดองค์รวมชาวอินเดีย เธอเขียนข้อแนะนำ "เดอะ ฮีลลิ่ง เพาเวอร์ ออฟเทียร์" ลงเว็บไซต์ บอกว่า
พอคนเราเริ่มโตขึ้น ก็ถูกสอนว่าให้เก็บกดอารมณ์ของตัวเองไว้ ไม่แสดงออกถึงความไม่พอใจหรือความเจ็บปวดออกมาได้โดยง่าย เรากลายเป็นคนโตๆ ที่ต้องไม่ร้องไห้ แล้วพวกครู และพ่อแม่ผู้ปกครองก็พร่ำสอนเราอยู่เรื่อยๆ ว่าอย่าร้องไห้ไปเลยคนเก่ง หยุดร้องเสียเถอะคนดี
แต่ข้อเท็จจริงที่สำคัญยิ่งกว่านั้นที่พวกเรา พึงทราบก็คือว่า คนเราทุกคนต้องร้องไห้ ไม่ด้วยเรื่องใดก็เรื่องหนึ่งในชีวิต ในช่วงที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แถมนักวิทยาศาสตร์ยังพบด้วยว่าคนที่ร้องไห้อยู่บ่อยๆ นั้น ยังทำให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
มาดูกันว่าการร้องไห้ช่วยเยียวยาหัวใจให้แข็งแรงได้อย่างไร คุณมิต้า พาน เธอสรุปเป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้
-การร้องไห้ช่วยปลดปล่อยความเครียด และสารพิษท็อกซินในอารมณ์เครียด ออกไปจากร่างกาย หลังจากร้องไห้ ยกใหญ่แล้วเราจะรู้สึกว่าอารมณ์โปร่งโล่งเบาขึ้น
-น้ำตาซึ่งถูกขับ ออกมานั้น จะมีปริมาณของ โปรตีนและเบต้าเอนโดรฟินสูง ช่วยลดความเจ็บปวดตามธรรมชาติลงได้ น้ำตายังฆ่าแบคทีเรีย และหล่อลื่นดวงตาให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น
-มีรายงานว่าคนที่ร้องไห้บ่อยกว่าคนอื่นจะมีความเจ็บป่วยทางกายน้อยกว่าคนที่ชอบเก็บงำเอาไว้
-การร้องไห้ช่วยให้รู้สึกสงบอยู่ข้างใน เราจะสามารถมองเห็นสถานการณ์ต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น หลังจากได้ร้องไห้หนักๆ ไปแล้ว
พึงระลึกไว้ว่า การเป็นคนเก่งและกล้าหาญไม่จำเป็นต้องเก็บกดอารมณ์เสมอไป
ที่มา: ไลฟ์สไตล์ ไทยรัฐออนไลน์ 9 ตุลาคม 2553
===จริง ๆ เรื่อง น้ำตาให้พลังเยียวยาหัวใจ นี้มีคนกล่าวเยอะ ทำวิจัยแยะ Mita Bhan เพียงสรุปข้อมูลของคนอื่นเท่านั้น=======
The Healing Power of Tears ให้น้ำตาเยียวยาหัวใจ
Crying has come naturally to us since the day we were born. When we were infants, we bawled when we were hungry, sleepy, tired, frustrated, dirty, you name it. As we grew a little older, our tears rolled when we felt ignored, scared, reprimanded by adults, or we fell down. The tears didn't last for too long, and within a few minutes we were back to our normal active, curious, childlike selves.
But what happened as we grew older? We learnt to repress our emotions. Not show our disappointment or pain so easily. We became big boys and big girls, and our parents and teachers reminded us again and again to stop crying over this or that and to be brave.
But fact of the matter is we all have to cry even as adults at some point or the other in our lives. And scientists have discovered that those who have a good cry periodically actually lead healthier lives.
Here's how crying can heal you:
1. Release tension and the toxins of emotional stresses from the body. After a good bawl, don't we all feel a little lighter?
2. Tears which flow with emotion actually contain higher amounts of protein and beta endorphin - natural pain relievers. Tears also kill bacteria, lubricate our eyes and help us see better.
3. Those who cry more often than others report less physical illnesses than those who keep it inside.
4. Crying aids inner calm and peace. We can view the situation more clearly and calmly after a good session.
Being strong and brave is not about suppression of emotions. It's about clarity, willingness to face whatever life offers our way. And knowing the power of release. So the next time you feel the tears well up, go get the box of tissues and cry your heart out. You'll feel better in more ways than one.
Mita Bhan is a US Certified Psychic Tarot Reader and Holistic Healing Practitioner based in DLF City, India น้าน โม้เข้าไป เก่งจริงสาวน้อยนางนี้
Source: idiva.com
No comments:
Post a Comment