Saturday, October 9, 2010

ลูกศิษย์ VS ลูกค้า: ข้อคิดจากภาพยนตร์ The Karate Kid (2010)

เรียนภาษาอังกฤษพร้อมได้ข้อคิดจาก หนังเรื่อง The Karate Kid (2010):
1. Mr. Han says "Kung Fu is for knowledge, defense. Not to make war but to create peace." การเรียน กังฟู เพื่อเป็นความรู้ เพื่อป้องกันตัว ไม่ใช่เพื่อทำร้ายทำสงครามกัน แต่เพื่อสร้างสันติ สร้างความสงบสุข

2.Dre กล่าวตอบว่า "That's not definitely what they are taught" นั่นแน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาได้รับการสอนมา

3. คำตอบ Mr. Han states "no such thing as bad student. Only bad teacher, teacher say, student do.ไม่มีหรอกที่ว่า นักเรียนห่วย นักเรียนแย่ มีเพียงครูที่ไม่ได้เรื่อง ครูมีหน้าที่อบรมสั่งสอน นักเรียนมีหน้าที่ปฏิบัติ(ตามคำสอน)

คุณหล่ะคิดอย่างไร แต่ก่อนจะพูดอะไรต่อ ขอให้อ่านข้อความข้างล่าง

===Gene ได้กล่าวไว้ในบอร์ดของ KarateCafe.com ===
เรื่องที่พูดต่อไป เป็นการกล่าวที่เกี่ยวข้องกันการเรียน(คาราเต้)

1.คุณ Kyoshi บ่อยครั้งได้แยกแยะความแตกต่างระหว่าง "นักเรียน(ลูกศิษย์)" กับ "ลูกค้า" เราลองมาพิจารณานิยามความหมายของคำทั้งสองนี้ - Kyoshi has often differentiated between a "student" and a "customer", so let's apply those definitions to the question at hand.

2.1 ก่อนอื่น คำ"นักเรียน" หมายถึง ใครสักคนมาที่ dojo 道場 (โรงเรียนหรือสถาบันหรือสถานที่ที่สอนศิลปะป้องกันตัวของญี่ปุ่น) มาด้วยตัวเอง มีแรงบันดาลใจ/ดลใจ/จูงใจ ที่จะมาเรียนรู้ให้มากที่สุด เก็บเกี่ยวความรู้ให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ซึ่งไม่ใช่แต่เรียนแง่มุมศิลปะการป้องกันตัวเท่านั้น แต่ยังเรียนประวัติศาสตร์ เรียนเกี่ยวกับจิตใจ และ การจดจำอีกด้วย First, a "student" is someone who comes to the dojo on his/her own, and is motivated to learn as much as he/she can, not just about the self-defense aspects of the arts, but the historical, spiritual and cognitive aspects, as well.

2.2. นักเรียนมองการฝึกฝนเป็นการลงทุนในระยะยาว ที่เกี่ยวข้องกับ เลือด เหงื่อ น้ำตา และเงินที่ใช้จ่ายไป The student views his/her training as a long-term investment of blood, sweat, tears, time and money, และในที่สุดจะได้พัฒนาตนเอง เป็นคนที่ดีขึ้นในการต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ and eventually developes into a much better person for their trouble.

2.3. นักเรียนยอมรับในบทบาทหน้าที่ของตนเอง ราวกับเป็น กระดานที่ว่างเปล่า They accept their role as a "blank slate", ให้ความเคารพในสิ่งที่ครูอาจารย์อบรมสั่งสอน เพื่อจะได้ปรับตัวได้ดีในการเรียนรู้ศิลปะวิทยาการ respect what the sensei says and adapt very well to the martial arts. :D

3.1. ในทางตรงกันข้าม "ลูกค้่า" หมายถึง ใครสักคนที่คาดหวังบริการจากเงินที่เขาได้จ่ายไป A "customer", on the other hand, is someone who expects a service for his money, โดยไม่คำนึงถึงความเป็นครูเป็นศิษย์ disregards the teacher-student model, ไม่ได้มองเห็นความสำคัญของการเรียนรู้ศิลปะวิทยาการ มากไปกว่าการใช้สิ่งที่เรียนไปใช้ในลักษณะการเป็นนักเลงอันธพาล sees no greater purpose to the arts other than to perhaps beat people up และทั่วไปแล้วไม่ได้ให้ความเคารพต่อขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม หรือ ไม่มีมิตรภาพความเป็นเพื่อนที่เกิดขึ้นระหว่างการศึกษาเล่าเรียน and generally has no respect for tradition, culture or the camaraderie that develops with the other practitioners. ร้ายกาจนัก :evil: บางครั้งลูกค้าก็กลายเป็นลูกศิษย์ แต่ส่วนใหญ่แล้ว แทบจะเป็นไปไม่ได้ Sometimes a customer becomes a student, but most of the time, they don't. โอเค ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็เห็นด้วยกับคุณ Miyagi (จากเรื่อง The Karate Kid (2010))ที่ว่า ไม่มีนักเรียนห่วย นักเรียนแย่ OK, so if these definitions are true, then I agree with Mr. Han, there are no bad "students". แต่ก็อยากจะแย้งว่า ลูกค้า ส่วนมากแล้วแย่มาก ๆ และไม่ว่าจะได้รับการอบรมสั่งสอนจากครูอาจารย์มากแค่ไหน ก็ไม่มีทางกลายเป็นนักเรียนไปได้ I would also further argue that there are PLENTY of bad "customers", who will not become "students" no matter how much extra TLC their receive from the sensei. การขจัดล้างบาง เป็นวิธีการทางอ้อมในการทำให้ ลูกค้า ไม่อยากมาทำให้สถาบันมืดดำมัวหมอง Kyoshi's idea of a purge seems to me to be the ideal way of indirectly discouraging these "customers" from continuing to darken your doorway.

จ่ายครบ จบแน่ นักเรียน(ลูกศิษย์) กับ ลูกค้า มันก็คงต่างกันตรงนี้ คุณคิดว่า ตัวคุณเองเป็นเช่นไร?

No comments:

Post a Comment