รายงานวิจัยเกี่ยวกับเบาหวาน ชื่อ “Profiles of an Aging Society: Diabetes" ผู้ป่วยเบาหวานมักอายุสั้นกว่าคนทั่วไปทุกช่วงอายุ สถาบันวิชาการเกี่ยวกับการมีอายุมากขึ้นของสหรัฐ National Academy on an Aging Society ได้รายงานว่า คนที่มีอายุ 50 ปีที่เป็นเบาหวาน จะมีอายุสั้นกว่าคนที่ปกติประมาณ 8 ปี A 50-year-old diabetic lives 8.5 years lesser than non-diabetic counterpart. คนที่มีอายุ 60 ปีที่เป็นเบาหวาน จะมีอายุสั้นกว่าคนที่ปกติประมาณ 5.4 ปี At age 60, the difference in life expectancy is 5.4 years. สำหรับคนอายุ 90 ปี ก็จะมีอายุต่างกันกับคนปกติ 1 ปี By age 90, the difference is one year.
โดยเดือน พฤศจิกายน ถือเป็นเดือนแห่งความตระหนักถึงโรคเบาหวาน National Diabetes Awareness Month is November.
นอกจากนั้น เมื่อทำการเปรียบเทียบกับคนปกติที่ไม่เป็นเบาหวาน การศึกษายังพบว่า คนป่วยเบาหวาน มีโอกาสที่่จะถูกจ้างงานน้อยกว่า It also found that, compared to older adults without diabetes, those with the disease are less likely to be employed และยังมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ รุมเร้า and more likely to have other health problems, เช่น โรคหัวใจ such as heart disease, โรคซึมเศร้า depression, และเกิดทุพพลภาพอันส่งผลต่อกิจวัตรประจำวัน and disabilities that interfere with normal life activities.
จริง ๆ เมื่อดูตัวเลขสำหรับผู้ป่วยเบาหวานอายุมากกว่า 50 ปีในช่วง 10 ปี พบว่า พวกฝรั่งผิวขาวเพิ่มจาก 11% (1998 = 2541) เป็น 18%(2008 = 2551) และพวกฝรั่งผิวดำเพิ่มจาก 22% (1998 = 2541) เป็น 32%(2008 = 2551) Indeed, the figures show a marked increase in the percentage of adults over age 50 with diabetes during the past decade: from 11 percent of non-Hispanic whites in 1998 to 18 % in 2008, and from 22 % of non-Hispanic blacks in 1998 to 32 % in 2008.
รายงานนี้ศึกษาโดย ดร.Scott M Lynch แห่งสถาบันวิจัยประชากรของมหาวิทยาลัยพริ้นตัน โดยใช้ข้อมูลทรัพยากรมนุษย์ HSR ที่รวบรวมปีละ 2 ครั้งระหว่างปี 1998-2008 ที่ประกอบด้วยข้อมูลผู้มีอายุเกินกว่า 50 ปีจำนวนกว่า 20,000 คน The analysis was conducted by Scott M Lynch, PhD, of the Office of Population Research at Princeton University — using HRS data collected biannually from 1998 through 2008, which included information from more than 20,000 adults over age 50 in 1998.
ทั้งหมดก็เป็นข้อมูลผู้ป่วยเบาหวานของพวกอเมริกันที่ชอบกินแป้ง โดนัท ของทอด ของขบเคี้ยว
All information given is related to Americans whose their favorite consumptions mostly are food with highly flour such as donuts, fried food, and snacks.
ดร.SoS
No comments:
Post a Comment