ขึงป้ายเด็กฝากติดประจานหน้าโรงเรียน
ศธ.แก้เส้นใหญ่
"ศธ." งัดมาตรการเด็ดป้องกันตั๋วเด็กฝาก "ชินวรณ์" มุ่งมั่นเดินหน้าล้างระบบฝากเด็กเข้าเรียนโดยมิชอบ ส่งทีมออกสุ่มตรวจโรงเรียนชื่อดัง 369 โรงเรียน ใช้มาตรการคุมเข้มให้ประกาศรายชื่อเด็กฝากในโควตาผู้มีอุปการคุณต่อโรงเรียน ให้สาธารณชนรับรู้ ย้ำผู้บริหารโรงเรียนไหน ทำดีจะมีเกียรติบัตรยกย่อง แต่นอกลู่นอกทางจะถูกสังคมประณาม แถมยังอาจโดนเล่นงานทั้งทางวินัยและอาญา กสม.ค้านระบบอุปการคุณ แนะใช้ระบบคุณธรรมสอบเข้าแทน
เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2554 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวถึงการรับนักเรียนในปีการศึกษา 2554 ว่า ได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลการรับนักเรียน และคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ประสานงานการรับนักเรียน ศธ. ปีการศึกษา 2554 โดยกำหนดให้คณะกรรมการติดตามตรวจสอบร่วมกับผู้ตรวจราชการ ศธ. และเขตพื้นที่การศึกษาออกสุ่มตรวจการรับนักเรียนของโรงเรียน ที่มีอัตราการแข่งขันสูงทั่วประเทศ ในช่วงการรับสมัครนักเรียน และให้รายงานผลการสุ่มตรวจมาให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหา และป้องกันไม่ให้มีการเรียกรับเงินและฝากเด็ก
นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า การรับนักเรียนในปีนี้ จะเกิดผลโดยตรง ที่ทำให้คุณภาพการศึกษาสูงขึ้น รวมทั้งปราศจากการเรียกรับเงิน และผลประโยชน์อื่นใด จึงอยากขอความร่วมมือจากผู้ปกครอง ประชาชน โดยเฉพาะผู้มีบารมีให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะหากเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงิน หรือหาผลประโยชน์จากการรับนักเรียน อาจจะถูกจับตามองเป็นพิเศษจากสังคม และอาจนำไปสู่การดำเนินการลงโทษทางสังคม อีกทั้ง หากมีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่า เป็นการหาผลประโยชน์โดยมิชอบ จะมีการดำเนินคดี ทั้งทางอาญา และทางวินัยอย่างเด็ดขาด
ด้านรศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามตรวจสอบและประเมินผลการรับนักเรียน กล่าวว่า สัปดาห์หน้าคณะกรรมการจะประชุม เพื่อกำหนดวิธีการ และแบ่งสายลงพื้นที่ตรวจสอบ การรับนักเรียนของโรงเรียน ที่มีอัตราการแข่งขันสูง ทั้ง 369 โรงเรียน โดยจะมีการตรวจสอบว่า ที่ใดมีการรับฝากเด็กบ้าง เพื่อจะได้ดำเนินการตามอำนาจ ที่ได้รับมอบจาก รมว.ศธ. และหากพบความไม่ชอบมาพากล จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพราะฉะนั้นยืนยันว่า คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจเต็มที่ไม่เป็นเพียงเสือกระดาษอย่างแน่นอน
รศ.ดร.สุขุม กล่าวอีกว่า ในการรับนักเรียนนั้น มีประเด็นที่เป็นห่วงกันมากว่า อาจจะมีบางโรงเรียนหลบเลี่ยงไปฝากเด็กในส่วนผู้ที่มีอุปการคุณต่อโรงเรียน ซึ่งเรื่องนี้ได้กำหนดวิธีการที่ชัดเจนไว้แล้วว่า โรงเรียนต้องประกาศสัดส่วนเด็กฝากที่เหมาะสม และต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา รวมถึงต้องประกาศรายชื่อเด็ก และชื่อผู้ฝากทุกคนพร้อมเหตุผลก่อนการรับสมัครสอบด้วย แต่หากเด็กสอบเข้าได้ด้วยตนเอง จะต้องตัดโควตาในส่วนของเด็กฝากออก โดยห้ามนำรายชื่อเด็กคนอื่นมาสวมแทน ส่วนการประกาศผลสอบ จะต้องประกาศตามลำดับคะแนน หากมีผู้ใดสละสิทธิ จะต้องเรียกสำรองขึ้นมาตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตว่า อาจจะมีการนำชื่อเด็กที่รับฝากไปฝากเรียนที่โรงเรียนอื่นก่อน แล้วค่อยรับย้ายมากลางปีนั้น เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะมีดาบสองที่จะจัดการอยู่แล้ว
รมว.ศธ.ยำ้ว่าการรับนักเรียนปีนี้ ถ้าโรงเรียนไหนทำดีไม่มีเด็กฝาก ก็จะได้รับเกียรติบัตรยกย่องชมเชย แต่ถ้าทำไม่ดี ก็ต้องมีผู้บริหารโรงเรียนถูกลงโทษย้ายออกนอกพื้นที่ และยิ่งถ้ามีเรื่องการเรียกรับเงินทอง ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะฉะนั้นถ้าปีนี้มีใครบอกว่า สามารถฝากเด็กเข้าเรียนได้ ก็ให้แจ้งความดำเนินคดีได้ทันที เพราะถือว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน ส่วนที่มีความกังวลว่าข้อสอบจะรั่วนั้น เรื่องนี้ศธ.ให้ความสนใจมาก จึงมีการออกระเบียบห้ามครูที่เกี่ยวข้องกับการออกข้อสอบไปจัดติวหรือรับจ้าง ติวอย่างเด็ดขาด โดยจะถือว่ามีความผิด รศ.ดร.สุขุม กล่าว
นางวิสา เบ็ญจะมโน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ด้านสิทธิเด็กสตรีและความเสมอภาคของบุคคล กล่าวถึงกรณีที่นายชินวรณ์ จะกวาดล้างระบบเด็กฝากเข้าโรงเรียน แต่มีนักวิชาการเกรงว่า โรงเรียนจะหลบเลี่ยงการกวาดล้างระบบดังกล่าว โดยใช้ระบบอุปการคุณสถาบันแทน จนเกรงว่าจะมีการประกาศชื่อให้ทราบที่มาที่ไปของเด็กนักเรียน ว่า เป็นการละเมิดสิทธิเด็กหรือไม่นั้น ตนคิดว่าไม่เป็นการละเมิด แต่การเปิดรายชื่อเด็กผู้ที่มาจากระบบอุปการคุณเกรงว่า จะมีการเลือกปฏิบัติระหว่างกลุ่มปกติ ที่มาจากการสอบและกลุ่มที่มาจากระบบอุปการคุณสถาบัน หากจะแก้ระบบจะต้องแก้ให้หมด ไม่ควรให้มีระบบอุปการคุณสถาบัน จึงไม่เห็นด้วยหากจะใช้ระบบนี้ เพราะควรใช้ระบบคุณธรรม ที่มีความเป็นธรรมในการแข่งขันในการสอบเข้าโรงเรียนมากกว่า
ที่มา: การศึกษา เดลินิวส์ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2554
.
No comments:
Post a Comment