ไทยถอยร่นรั้งอันดับ 6 หลังเปิดเสรีอาเซียน+3
ม.หอการค้าไทย เผยเปิดเสรีอาเซียน+3 ช่วยจีนโกยส่งออกดันจีดีพีเพิ่มมากสุด ส่วนไทยถอยร่นอันดับ 6 แพ้อินโดนีเซีย-มาเลเซีย...
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการศึกษาศักยภาพการแข่งขันสินค้าไทยภายในใต้ข้อตกลงเขตการค้า เสรีอาเซียน+3 (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) ว่า หากข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ จะส่งผลให้จีดีพีของกลุ่มอาเซียน+3 เพิ่มขึ้นอีก 174,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจุบันที่มีมูลค่าประมาณ 9 ล้านล้านเหรียญฯ โดยจีนจะมีมูลค่าจีดีพีเพิ่มมากสุด หรือเพิ่มขึ้น 48,700 ล้านเหรียญฯ รองลงมาคือญี่ปุ่นเพิ่ม 38,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเกาหลีใต้ 20,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนไทยมีมูลค่าจีดีพีเพิ่มขึ้นเป็นอับดับ 6 หรือมีมูลค่า 14,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองจากอินโดนีเซีย และมาเลเซีย
ในส่วนของมูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้นจากการลดภาษีสินค้าภายใต้กรอบเอฟทีเอนั้น พบว่าจะมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นประมาณ 140,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นการส่งออกที่เพิ่มขึ้นของประเทศบวกสาม คือจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สัดส่วน 80% ส่วนอาเซียนสัดส่วน 20% โดยจีนมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มมากสุด 47,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนไทยอยู่อับดับ 7 มีมูลค่า 4,212 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ สำหรับสินค้าที่คาดว่าไทยจะแข่งขันได้ยากกว่าประเทศคู่แข่ง หรือมีส่วนแบ่งตลาดลดลงจากการเปิดเสรีคือ ข้าว สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี เหล็ก และเครื่องใช้ไฟฟ้า
ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ 28 มิถุนายน 2554
No comments:
Post a Comment