ยิ่งอ่านยิ่งสนุกถ้าเข้าใจ การหาเสียงตั้งใจทำจริงหรือแค่ผายลมทางปาก : นโยบาย ไม่ทำซะอย่าง
เห็นการตื่นตัวของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ 2554 แล้วน่าจะเป็นการใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของไทย
ต้องเคารพเสียงของประชาชน โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง ต้องเคารพเสียงของประชาชน
แต่ละพรรคเสนอนโยบายกันอึกทึกครึกโครม จริงมั่ง โม้เห็น ๆ มั่ง
สร้างสีสันทำให้การตื่นตัวของชาวบ้านเพิ่มมากยิ่งขึ้น ป้าขายกล้วยทอดในตลาดจำนโยบายของฟรีได้มากกว่าชื่อผู้สมัครในพื้นที่
ไอ้มุกแป้กประเภท คนบ้านเดียวกัน เรียกใช้ได้คล่อง เข้าพบได้เสมอ อย่าลืมกระผมนะครับพี่น้อง
จืดแล้วครับท่าน จืดสนิท พี่น้องลืมสูแน่
โลกเปลี่ยนไปแล้ว สมัยนี้ต้องชูนโยบายเจ๋ง ๆ เป็นหลัก ประเภทชาวบ้านฟังแล้วซี้ดซ้าดถูกใจ
ครั้งนี้แต่ละพรรคจึงมีนโยบายมานำเสนอกันเพียบ ไม่ซ้ำกันอีกแน่ะ หูอื้อตาลายไปตาม ๆ กัน
และยังอิทธิพลของโลกสังคมออนไลน์อีกเล่า แค่คลิก
ด้วยปลายนิ้ว ใครที่ยังมะงุมมะงาหรากับวิธีคิดแบบเก่า ๆ ไม่ลืมหูลืมตาดูโลกแห่งการสื่อสารไร้พรมแดนระวังจะตกไปจากเวทีการเมือง
ตามกฎแห่งพระไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป นั่นแหละโยม
แฟน ๆ ที่เคารพของกฎหมายข้างตัวส่วนใหญ่เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งและส่วนหนึ่งน่าจะเยอะเหมือนกันนะ เป็นผู้อาวุโส
ยืนยันได้เพราะกระผมทดสอบด้วยบทความเรื่องเงินบำนาญทีไรมีเสียงตอบรับเซ็งแซ่ทีนั้น
กระผมไม่บังอาจสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ สาธยายกระบวนการลงคะแนนเลือกตั้งที่แต่ละท่านผ่านกันมาอย่างโชกโชนทั้งนั้น
เพียงแต่พักหลังมานี่มีให้เลือก ส.ส.กันแบบคู่ขนานทั้งแบบแบ่งเขต หนึ่งเขตหนึ่งคน แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) ที่เป็นของแปลกมาหน่อย
จึงเอาตามที่ กกต.ท่านว่ามาย้ำเตือนความเข้าใจกันก่อนเดินเข้าคูหากาบัตร
บัตรแบ่งเขตเลือกคนที่รัก บัตรแบบบัญชีรายชื่อเลือกพรรคที่ชอบ
จะเลือกเบอร์เดียวกันทั้งแบบแบ่งเขต แบบบัญชีรายชื่อ ก็ไม่ผิดกติกาแต่ประการใด
สำหรับท่านที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยไม่แจ้งเหตุที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ได้
ขอย้ำเตือนว่าท่านต้องเสียสิทธิ ๓ ประการดังนี้
สิทธิยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว.
สิทธิสมัครรับเลือกตั้งและสิทธิได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ส. ส.ว. สมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น
สิทธิสมัครรับเลือกเป็นกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน
ส่วนการแจ้งเหตุที่ไปเลือกตั้งไม่ได้ ท่านให้แจ้งได้สองช่วง ช่วงแรกก่อนวันเลือกตั้งเจ็ดวัน (วันที่ ๒๖ มิถุนายน–๒ กรกฎาคม ๒๕๕๔) และช่วงที่สองนับจากวันเลือกตั้ง ๗ วัน (วันที่ ๔–๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๔) ขอรับแบบ ส.ส. ๒๘ หรือทำหนังสือชี้แจงเหตุที่ทำให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ได้ และให้ระบุเลขประจำตัวประชาชนและที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
แต่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเถอะน่า งบประมาณจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ตั้ง สามพันแปดร้อยล้านบาท ไม่ไปไม่ได้แล้ว ภาษีประชาชนทั้งนั้น
ส่วนเรื่องของนโยบายอาจมีบางท่านสงสัย เพราะถ้าทำได้หมดทุกนโยบายตามที่ทุกพรรคเสนอมา ประชาชนชาวไทยทุกคนจะอยู่อย่างมีความสุขสบายประหนึ่งอยู่ในยุคพระศรีอาริย์ ไม่มีสิ่งใดขาดแคลนในชีวิตอีกต่อไป
ปัญหาเดิมก็คือตั้งใจทำจริงหรือแค่ผายลมทางปาก
แล้วถ้าทำไม่ได้จริงอย่างที่โม้สะบั้นหั่นแหลกตอนหาเสียง ทำไงดี ฟ้องศาลปกครองให้เป็นเรื่องเป็นราวกันสักทีดีไหม
ขอเรียนว่าเป็นเรื่องที่ต้องพึ่ง พรรคฝ่ายค้าน อภิปรายกันในสภาสถานเดียวครับผม
ศาลปกครองสูงสุดท่านวินิจฉัยไว้ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ ๑๓ / ๒๕๔๙ ว่า นโยบายการบริหารราชการของรัฐบาลมิใช่การกระทำทางปกครองที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง
กรณีนายกสมาคมการค้าเกษตรอินทรีย์เพื่อเกษตรกรไทยเสนอโครงการจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพราคาถูกมาจำหน่ายให้แก่เกษตรกรใน ๙ จังหวัดอีสานใต้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติงบกลางมาสนับสนุน
แต่ไม่มีการดำเนินการใด ๆ จนเป็นคดีปกครองดังกล่าว
ฉะนั้น การเป็นฝ่ายค้านจึงเป็นองคาพยพสำคัญยิ่งในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ไม่ใช่ประชาธิปไตยตามประสาพี่ไทยที่กระสันอยากเป็นรัฐบาลกันอย่างเดียว เพราะมีหลักอยู่ว่าเป็นฝ่ายค้านแล้วอดอยากปากแห้ง เป็นรัฐบาลแล้วอิ่มหมีพีมัน
ช่างคิดนะ ไม่ต้องแปลเลยนะเนี่ย บ้านนี้เมืองนี้
จึงขอปรบมือให้กับฝ่ายค้านไว้ล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้ อย่ามีใครมาทำน้อยเนื้อต่ำใจทางการเมืองว่าตกที่นั่งลำบากเป็นฝ่ายค้านเสียแล้ว มันเสียความรู้สึกจริง ๆ นะเฟ้ย
หรือว่าถึงตอนนั้นไม่สนชาวบ้านอีกแล้ว
พิสิษฐ์ พลรักษ์เขตต์
www.naipisit.com praepim @ yahoo.com
ที่มา: นโยบาย ไม่ทำซะอย่าง เดลินิวส์ออนไลน์ วันเสาร์ ที่ 02 กรกฎาคม 2554
No comments:
Post a Comment