กรรมการสอบสวนมีส่วนได้เสีย ทำไงเมื่อกรรมการสอบสวนมีส่วนได้ส่วนเสีย
เสาร์ที่แล้ว จากเรื่องคณะกรรมการสอบสวนไม่เป็นธรรม
กระผมได้เรียนปิดท้ายว่า ท่านที่ถูกลงโทษทางวินัยจะฟ้องคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยไม่ได้
เห็นว่าคณะกรรมการบางคนมีเหตุส่วนตัวหรือมีส่วนได้เสียกับข้อกล่าวหาและกระทำการสอบสวนแบบมีวาระซ่อนเร้น
เพราะเป็นเพียงกระบวนพิจารณาซึ่งเป็นการเตรียมการมีคำสั่งทางปกครอง
คำสั่งทางปกครองอยู่ที่คำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่สั่งลงโทษทางวินัย
สิทธิการิยะ ท่านว่าต้องฟ้องเพิกถอนคำสั่งลงโทษทางวินัยซึ่งเป็นคำสั่งทางปกครอง ส่วนพฤติกรรมของคณะกรรมการสอบสวนดังว่าตรงไหนที่ออกแนวเด็กแว้นท่านว่าให้บรรยายเสียให้ละเอียด
นั่นล่ะอาจเป็นเหตุให้กระบวนพิจารณาทางปกครองไม่ชอบด้วยกฎหมาย การออกคำสั่งลงโทษทางวินัยดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายไปด้วยซึ่งศาลปกครองอาจมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้เพิกถอน
ฉะนั้น จึงขอนำคดีปกครองที่มีข้อเท็จจริงในลักษณะนี้มารายงานเพื่อเป็นแนวทางสำหรับท่านข้าราชการที่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการที่ถูกลงโทษทางวินัย
ส่วนท่านที่ทำผิดจริงก็รับสารภาพเถิดครับ ถ้าไม่หนักหนาสาหัสถึงไล่ออก ปลดออก ก็ยังกลับเนื้อกลับตัวได้
คดีนี้นำมาจาก“บทวิเคราะห์เหตุแห่งการฟ้องคดีปกครองเกี่ยวกับวินัยข้าราชการ กรณีศึกษาคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดและศาลปกครองกลาง ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๔๕–๒๕๔๘ ของสำนักงานพัฒนาระบบงานคดีปกครอง สำนักงานคดีปกครอง มีบทวิเคราะห์มาพร้อมกระผมจึงขออนุญาตนำมารายงานเพราะตรงกับแนวทางในเรื่องและมีประโยชน์ทั้งต่อผู้บังคับบัญชาและผู้ถูกกล่าวหา
เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยยังมีสุขาภิบาล เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี ๓ ของสำนักงานสุขาภิบาล ถูกกล่าวหาว่าละเลยต่อหน้าที่ ไม่ทำหลักฐานส่งใช้เงินยืมทดรองราชการที่สุขาภิบาลอนุมัติให้ยืมตามโครงการศึกษาและดูงานการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ประธานคณะกรรมการสุขาภิบาลมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
ผลการสอบสวนฟังได้ว่าเจ้าหน้าที่ผู้นี้ทำผิดวินัย ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย
จุดเกิดเหตุอยู่นี่ ประธานกรรมการสอบสวนทางวินัยก็คือปลัดสุขาภิบาล และกรรมการอีกหนึ่งคนมีส่วนได้เสียในเรื่องนี้
ท่านปลัดสุขาฯประธานกรรมการเป็นผู้ยืมเงินทดรองเพื่อใช้จ่ายในโครงการ แต่ไม่ส่งคืนเงินยืมในฐานะผู้ยืม ส่วนกรรมการอีกคนดังกล่าวเป็นผู้ร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานตามโครงการ
เจ้าหน้าที่ผู้ถูกกล่าวหาจึงยื่นคำร้องคัดค้านขอให้เปลี่ยนแปลงคณะกรรมการด้วยเหตุดังกล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดยกคำร้องคัดค้านโดยเหตุผลว่า การให้ผู้ถูกคัดค้านซึ่งเป็นผู้รู้เห็นเหตุการณ์เป็นกรรมการสอบสวนด้วยจะเป็นประโยชน์เพราะจะทำให้ได้รับความจริง
คัดค้านไปอีกครั้งท่านผู้ว่าฯก็ยังยืนยันเหมือนเดิม
แน่นอน หวยต้องออกว่า เจ้าหน้าที่การเงินฯผู้นี้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาควรไล่ออกจากราชการ จากความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยครับท่าน
เจ้าหน้าที่ผู้นี้ย้ายไปอีกเทศบาลหนึ่ง ท่านนายกเทศมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอีกโดย ใช้สำนวนการสอบสวนเดิม โดยให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงและสรุปความเห็นให้ ลงโทษไล่ออกจากราชการ
ในชั้น อ.ก.ท.จังหวัดมีมติให้ลดโทษเป็นปลดออกจากราชการ ผู้ถูกลงโทษจึงฟ้องต่อศาลปกครองขอให้เพิกถอนคำสั่งลงโทษดังกล่าว
คดีถึงที่สุดในชั้นศาลปกครองกลาง โดยศาลได้วินิจฉัยดังนี้
ปลัดสุขาภิบาลและผู้ฟ้องคดี มีข้อโต้แย้งกันว่าผู้ใดมีหน้าที่ในการจัดทำเอกสารหลักฐานเพื่อหักล้างเงินยืมทดรองราชการ การพิจารณาว่าใครมีหน้าที่จัดทำเรื่องเพื่อส่งคืนเงินยืมทดรองจึงเป็นประเด็นสำคัญในการสอบสวนวินัยผู้ฟ้องคดี
ปลัดสุขาภิบาลจึงเป็นผู้มีประโยชน์ได้เสียในประเด็นสอบสวนดังกล่าว ตามข้อ ๕ วรรคหนึ่ง(๒)ของกฎ ก.สภ.ฉบับที่ ๑ (พ.ศ.๒๕๓๑)ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา
การให้ปลัดสุขาภิบาลเป็นประธานสอบสวนต่อไปย่อมทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมแก่ผู้ฟ้องคดี และเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิได้คำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการสอบสวนที่ต้องการให้ได้ความจริงและเป็นธรรมแก่ผู้ที่ถูกกล่าวหา
การใช้ดุลพินิจยกคำคัดค้านของผู้ว่าราชการจังหวัดจึงเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ
และเมื่อไม่มีคำสั่งให้เปลี่ยนกรรมการสอบสวนที่ถูกคัดค้าน คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยผู้ฟ้องคดีจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายย่อมไม่อาจนำมารับฟังเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยผู้ฟ้องคดีได้
คำสั่งปลดผู้ฟ้องคดีออกจากราชการจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งลงโทษผู้ฟ้องคดี (คำพิพากษาศาล
ปกครองกลางที่ ๘๖๕/๒๕๔๗)
เรื่องนี้มีข้อวิเคราะห์ประกอบว่า จากข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าวเมื่อนำมาพิจารณาประกอบกับคำวินิจฉัยของศาลแล้วทำให้วิเคราะห์ได้ว่า การฟ้องคดีนี้เป็นผลมาจากการใช้ดุลพินิจยกคำคัดค้านกรรมการสอบสวนของผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งอาจสืบเนื่องมาจากการไม่ให้ความสำคัญต่อ หลักความเป็นกลางของเจ้าหน้าที่ผู้ทำหน้าที่พิจารณาทางปกครอง ตามที่บัญญัติไว้ในพ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙
กระผมขออภัยที่นำข้อมูลรายละเอียดคดีต่างๆ ลงในเว็บไซต์ข้างล่างตามที่ได้เรียนไว้ยังไม่เรียบร้อย ขอเวลาอีกนิดครับตามประสามือใหม่และแก่หัดขับ ยะการยะงานละก้อช้า ๆ เนิบ ๆ.
พิสิษฐ์ พลรักษ์เขตต์
www.naipisit.com
praepim@yahoo.com
ที่มา: กฎหมายข้างตัว เดลินิวส์ออนไลน์ วันเสาร์ ที่ 28 พฤษภาคม 2554
No comments:
Post a Comment