8 ส.ค.2555 สำนักข่าวเอพีรายงานจากเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ว่า
ทีมผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐเริ่มทำการชะล้าง สารอันตราย ไดออกซิน หรือ
ฝนเหลือง ในเวียดนามอย่างเป็นทางการแล้ว ตามโครงการมูลค่า 43 ล้านดอลลาร์
ที่จะขจัดสารพิษที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของชาวเวียดนามราว 3-4 ล้านคน
สงครามเวียดนามซึ่งสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2518 ช่วงระหว่างปี 2505 – 2514 กองทัพสหรัฐใช้เครื่องบินฉีดพ่นสารไดออกซิน เพื่อทำลายใบไม้และพืชต่างๆ ในพื้นที่ป่าทึบ ที่สงสัยว่าจะเป็นที่หลบซ่อนของนักรบเวียดกง ประมาณ 20 ล้านแกลลอน และสารเคมีนี้ยังคงตกค้างอยู่ในดินและแม่น้ำลำคลองในบริเวณกว้าง เกี่ยวพันกับโรคมะเร็ง การพิการแต่กำเนิด และการพิการอื่นๆ ของชาวเวียดนามเป็นจำนวนมาก
นายวอลเทอร์ ไอแซคสัน ผอ. สถาบันแอสเปน กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การเริ่มต้นชำระล้างฝนเหลืองในเวียดนามในวันนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนของสารไดออกซินตามความเป็นจริง และว่า โครงการนี้อาจต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 450 ล้านดอลลาร์ เพื่อชะล้างไดออกซินในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือแก่ชาวเวียดนาม ที่ได้รับผลกระทบจากฝนเหลือง ทั้งทางตรงและทางอ้อม
:: สหรัฐเริ่มชะล้างฝนเหลืองในเวียดนาม เดลินิวส์ออนไลน์ วันพุธที่ 8 สิงหาคม 2555
สงครามเวียดนามซึ่งสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2518 ช่วงระหว่างปี 2505 – 2514 กองทัพสหรัฐใช้เครื่องบินฉีดพ่นสารไดออกซิน เพื่อทำลายใบไม้และพืชต่างๆ ในพื้นที่ป่าทึบ ที่สงสัยว่าจะเป็นที่หลบซ่อนของนักรบเวียดกง ประมาณ 20 ล้านแกลลอน และสารเคมีนี้ยังคงตกค้างอยู่ในดินและแม่น้ำลำคลองในบริเวณกว้าง เกี่ยวพันกับโรคมะเร็ง การพิการแต่กำเนิด และการพิการอื่นๆ ของชาวเวียดนามเป็นจำนวนมาก
นายวอลเทอร์ ไอแซคสัน ผอ. สถาบันแอสเปน กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การเริ่มต้นชำระล้างฝนเหลืองในเวียดนามในวันนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนของสารไดออกซินตามความเป็นจริง และว่า โครงการนี้อาจต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 450 ล้านดอลลาร์ เพื่อชะล้างไดออกซินในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือแก่ชาวเวียดนาม ที่ได้รับผลกระทบจากฝนเหลือง ทั้งทางตรงและทางอ้อม
:: สหรัฐเริ่มชะล้างฝนเหลืองในเวียดนาม เดลินิวส์ออนไลน์ วันพุธที่ 8 สิงหาคม 2555