Friday, March 30, 2012

สินบนทำพิษ! จับเพิ่มผู้บริหาร บ.อสังหาฯดังฮ่องกง

:: สินบนทำพิษ! จับเพิ่มผู้บริหาร บ.อสังหาฯดังฮ่องกง เคยขายบ้านหรูให้'ทักษิณ

โธมัส และ เรย์มอนด์ กวอค มหาเศรษฐีสองพี่น้อง ซึ่งเป็นประธานร่วมของบริษัทซัน ฮุง ไก พร็อพเพอร์ตีส์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย ถูกทางการฮ่องกงควบคุมตัวไปสอบสวนฐาน มีส่วนพัวพันกับการติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐในคดีฉ้อฉลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 38 ปี หลังจากที่ โธมัส ชาน กุ้ย หยวน ซีอีโอของบริษัทที่เคยขายโครงการทาวน์เฮาส์สุดหรู "เดอะ พีค" ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อช่วงกลางปี ค.ศ. 2007 ถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้...


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 30 มี.ค. ว่า นายโธมัส และ เรย์มอนด์ กวอค มหาเศรษฐีสองพี่น้อง ซึ่งเป็นประธานบริหารร่วมของบริษัท ซัน ฮุง ไก พร็อพเพอร์ตีส์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย ถูกทางการฮ่องกงควบคุมตัวไปสอบสวน ฐานมีส่วนพัวพันกับการติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐในคดีฉ้อฉลที่ถูกระบุว่า ใหญ่ที่สุดในรอบ 38 ปี ของเขตปกครองพิเศษแห่งนี้

การควบคุมมหาเศรษฐีตระกูลกวอค ทั้งสองรายไปสอบสวน มีขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่มีการจับกุม นายราฟาเอล หุย อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการฮ่องกง พร้อมกับบุคคลอื่นอีก 8 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดสินบนครั้งประวัติศาสตร์

ก่อนหน้านี้ เมื่อ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา นายโธมัส ชาน กุ้ย หยวน ผู้บริหารอีกรายของบริษัท ซัน ฮุง ไก พร็อพเพอร์ตีส์ เพิ่งถูกเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการอิสระเพื่อการต่อต้านทุจริต (ไอซีเอซี) ของฮ่องกง ควบคุมตัวไปสอบสวน ในฐานะผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนพัวพันกับการติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดินในเขต "เกาลูนตะวันตก" ที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารสำนักงาน "อินเตอร์เนชันแนล คอมเมิร์ซ เซ็นเตอร์" ความสูง 108 ชั้น (484 เมตร) อันเป็นอาคารที่สูงที่สุดในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง รวมถึงโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ อีกหลายโครงการ

สื่อท้องถิ่นในฮ่องกง ระบุว่า คดีติดสินบนประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นให้ทางไอซีเอซี หน่วยงานต่อต้านการทุจริตที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกง ต้องกลับไปตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงินของซัน ฮุง ไก พร็อพเพอร์ตีส์ "ย้อนหลัง" ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ก็อาจถูกดึงไปเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากบริษัทแห่งนี้มีส่วนสำคัญในการดูแลการขายโครงการทาวน์เฮาส์สุดหรู "เดอะ พีค" ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อช่วงกลางปี ค.ศ. 2007 ด้วยสนนราคาที่สูงถึง 41,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 163,000 บาทต่อตารางฟุต ซึ่งหนังสือพิมพ์ชื่อดัง "เดอะ สแตนดาร์ด" ของฮ่องกง ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทุ่มเงินเบ็ดเสร็จกว่า 210 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือกว่า 832 ล้านบาท เพื่อแลกกับการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในโครงการนี้ ซึ่งว่ากันว่า ตั้งอยู่บนทำเลที่มี "ฮวงจุ้ย" ดีที่สุดแห่งหนึ่งของฮ่องกง

:: สินบนทำพิษ! จับเพิ่มผู้บริหาร บ.อสังหาฯดังฮ่องกง เคยขายบ้านหรูให้'ทักษิณ
ไทยรัฐออนไลน์ วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม 2555
----------------------------
สงสารประเทศไทยจับใครได้สักกี่คน ........

Thursday, March 29, 2012

พ่อเขมรฉุน! ล่ามคอลูกกับเสาไฟฟ้า ประจานติดเกมงอม

กลุ้มใจเหมือนกัน ลูกติดเกม ติดไอเพด ติดเฟสบุ๊ค ติดกาแล็กซี่ จนการเรียนเสียหาย
จะเอาไงดี จะทำไงดี ลูกติดเกม
- ต้องกำหนดเวลาเล่น
- ต้องกำหนดเงินที่ให้
- ต้องกำหนดเกรด-ผลการเรียน

-------------
พ่อเขมรฉุน! ล่ามคอลูกกับเสาไฟฟ้า ประจานติดเกมงอม
ติดเกมโอเวอร์ซะแล้ว!! เด็กชายชาวเขมรวัย 13 ปี ถูกพ่อบังเกิดเกล้าจับล่ามโซ่ที่คอไว้กับเสาไฟฟ้า หมายลงโทษและประจานที่ติดเกมออนไลน์อย่างหนัก หมดสิทธิ์เล่นต่อ...

สำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนายเชธ วานนี รองผู้บัญชาการตำรวจ จ.พระตะบอง ทางภาคเหนือกัมพูชาว่า นายศก เธือน คนขับรถแท็กซี่วัย 40 ปี ใช้โซ่ล่ามคอลูกชายวัยรุ่นอายุ 13 ปี ติดกับเสาไฟฟ้าข้างถนน เพื่อประจานและลงโทษสั่งสอน เพราะโกรธที่ลูกชายโดดเรียนหนีไปเล่นเกมออนไลน์ในร้านอินเทอร์เน็ตเป็นประจำ

ทั้งนี้ ชาวบ้านที่พบเห็นเกิดความสงสาร จึงแจ้งตำรวจให้นำช่างกุญแจมาช่วยปล่อยเด็ก หลังถูกล่ามโซ่ นานกว่า 2 ชั่วโมง ส่วนบิดาขี้โมโหหลบหนีไปหลังจากก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกหมายจับในข้อหากระทำทารุณเด็ก

อนึ่ง กัมพูชาซึ่งเป็นชาติยากจนมีอัตราผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต่ำที่สุดชาติหนึ่ง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือไม่ถึง 1.5% ของประชากรราว 14 ล้านคน ที่ลงทะเบียนใช้อินเทอร์เน็ตในปี 2553 แต่ในปีหลังๆ มีร้านอินเทอร์เน็ตเปิดให้บริการเป็นดอกเห็ดตามเขตเมือง ส่งผลให้วัยรุ่นแห่กันไปเล่นเกมออนไลน์ตามร้านอินเทอร์เน็ตคับคั่ง จนเกิดปัญหาเด็กติดเกมตามมา

:: ไทยรัฐออนไลน์ วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม 2555

2011 World's Best Universities: Asia

Educational Business: Is it important ??? Being World Class Universities ???

2011 World's Best Universities: Asia
by USNews.com

#1
Hong Kong University of Science and Technology (HKUST)
Hong Kong

#2
University of Hong Kong (HKU)
Hong Kong

#3
National University of Singapore (NUS)
Singapore

#4
The University of Tokyo
Japan

#5
Chinese University of Hong Kong (CUHK)
Hong Kong

#6
Seoul National University (SNU)
South Korea

#7
Kyoto University
Japan

#8
Osaka University
Japan

#9
Tohoku University
Japan

#9
Tokyo Institute of Technology
Japan

#11
KAIST - Korea Advanced Institute of Science & Technology
South Korea

#12
Pohang University of Science and Technology (POSTECH)
South Korea

#13
Peking University
China

#14
Nagoya University
Japan

#15
City University of Hong Kong
Hong Kong

#16
Tsinghua University
China

#17
Nanyang Technological University (NTU)
Singapore

#18
Kyushu University
Japan

#18
Yonsei University
South Korea

#20
Hokkaido University
Japan

#21
Fudan University
China

#21
National Taiwan University (NTU)
Taiwan

#23
University of Tsukuba
Japan

#24
Keio University
Japan

#24
University of Science and Technology of China
China

#26
Korea University
South Korea

#27
Sungkyunkwan University
South Korea

#27
Zhejiang University
China

#29
Nanjing University
China

#30
Hong Kong Polytechnic University
Hong Kong

#31
National Tsing Hua University
Taiwan

#32
National Cheng Kung University
Taiwan

#33
Shanghai Jiao Tong University (SJTU)
China

#34
Mahidol University
Thailand

#35
Kobe University
Japan

#36
Indian Institute of Technology Kanpur (IITK)
India

#37
Indian Institute of Technology Delhi (IITD)
India

#38
Indian Institute of Technology Bombay (IITB)
India

#39
Universiti Malaya (UM)
Malaysia

#40
National Yang Ming University
Taiwan

#41
Hiroshima University
Japan

#42
Kyung Hee University
South Korea

#43
Indian Institute of Technology Madras (IITM)
India

#44
Hanyang University
South Korea

#45
Ewha Womans University
South Korea

#46
Waseda University
Japan

#47
Chulalongkorn University
Thailand

#48
Indian Institute of Technology Kharagpur (IITKGP)
India

#49
Hong Kong Baptist University
Hong Kong

#50
University of Indonesia
Indonesia


#51
Chiba University
Japan

#52
National Chiao Tung University
Taiwan

#53
Universiti Kebangsaan Malaysia (UKM)
Malaysia

#54
Universiti Sains Malaysia (USM)
Malaysia

#55
Sogang University
South Korea

#56
Indian Institute of Technology Roorkee (IITR)
India

#57
Universiti Putra Malaysia (UPM)
Malaysia

#58
Osaka City University
Japan

#59
National Central University
Taiwan

#59
Tokyo University of Science (TUS)
Japan

#61
Kyungpook National University
South Korea

#62
National Taiwan University of Science And Technology
Taiwan

#62
University of the Philippines
Philippines

#64
Beijing Normal University
China

#65
Ateneo de Manila University
Philippines

#66
Pusan National University
South Korea

#67
Chiang Mai University
Thailand

#67
Tongji University
China

#69
Kumamoto University
Japan

#70
National Sun Yat-sen University
Taiwan

#71
Nagasaki University
Japan

#72
Xi'an Jiaotong University
China

#73
Nankai University
China

#74
Tianjin University
China

#74
Tokyo Metropolitan University
Japan

#76
Universiti Teknologi Malaysia (UTM)
Malaysia

#77
Kanazawa University
Japan

#77
University of Delhi
India

#79
Okayama University
Japan

#80
Universitas Gadjah Mada
Indonesia

#81
Yokohama National University
Japan

#82
Indian Institute of Technology Guwahati (IITG)
India

#83
Tokyo Medical and Dental University
Japan

#84
National University of Sciences and Technology (NUST) Islamabad
Pakistan

#85
Sun Yat-sen University
China

#86
Airlangga University
Indonesia

#87
Inha University
South Korea

#88
Thammasat University
Thailand

#89
The Catholic University of Korea
South Korea

#89
Chang Gung University
Taiwan

#89
Taipei Medical University
Taiwan

#92
Yokohama City University
Japan

#93
Chung-Ang University
South Korea

#94
Gifu University
Japan

#95
Prince of Songkla University
Thailand

#96
Shandong University
China

#97
Chonnam National University
South Korea

#98
Bandung Institute of Technology (ITB)
Indonesia

#99
Gunma University
Japan

#99
National Chung Hsing University
Taiwan

2011 World's Best Universities: Asia
(c) USNews.com

Friday, March 23, 2012

2มหา'ลัยผนึกกำลังรุกภาษาจีน

ม.กรุงเทพธนบุรี รุกเสริมแกร่งทักษะภาษาจีนรับมือประชาคมอาเซียน

มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี จับมือ มหาวิทยาลัยหัวเฉียว จากประเทศจีน แลกเปลี่ยนนักศึกษา อาจารย์ไปศึกษาดูงาน พร้อมส่งครูภาษาจีนมาสอนในไทย-ระบบทางไกล เตรียมดึงมหาวิทยาลัยทั่วเอเชียแลกเปลี่ยนวิชาการ-การเรียนการสอน

ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เผยว่า ทางมหาวิทยาลัยโดย คุณชาญชัย ชัยรุ่งเรือง ประธานมหาวิทยาลัย คุณกว้าง รอบคอบ คุณจรินทร์ สวนแก้ว ที่ปรึกษา พร้อมคณาจารย์ นักศึกษา ได้ให้การต้อนรับ นายจาง หมิง กวง เลขาธิการมหาวิทยาลัยหัวเฉียว มณฑลฮกเกี้ยน สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมคณะ ได้ทำบันทึกข้อตกลง และเห็นพ้องกันว่าภาษาจีนมีความสำคัญต่อนานาชาติมากขึ้น จึงร่วมมือพัฒนาการเรียนการสอนภาษาจีนในประเทศไทยให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เพื่อรองรับการเปิดเสรีอาเซียนในอีก 3 ปี คือ พ.ศ.2558 พร้อมพัฒนาการเรียนการสอนด้านอื่นด้วย ทั้งการวิจัย กีฬา รวมทั้งส่งนักศึกษา และอาจารย์ไปดูงานในประเทศจีน นับว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ที่จะดึงนักศึกษา และอาจารย์จากประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย มาศึกษาในเมืองไทยให้มากขึ้น พร้อมเปิดเป็นแหล่งเรียนในระบบการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยไทย ให้นักศึกษาประเทศต่าง ๆ ทั่วเอเชียได้รับทราบต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยหัวเฉียวจะส่งครูสอนภาษาจีนมาประจำที่มหาวิทยาลัย เพื่อสอนภาษาจีนให้นักศึกษาโดยตรง พร้อมสอนภาษาจีนไปยังสถานีโทรทัศน์ของมหาวิทยาลัย ช่อง B.T.U และ Top Star ซึ่งใช้คลื่นความถี่ K.U.Band 11635 MHz เผยแพร่ทั่วประเทศ ทุกวัน เริ่มเดือนมีนาคมนี้ โดยมหาวิทยาลัยหัวเฉียวจะผลิต และออกรายการเรียนรู้ภาษาจีน พร้อมด้วยวัฒนธรรมของ 2 ประเทศด้วย

:: 2มหา'ลัยผนึกกำลังรุกภาษาจีน © 2554 บริษัท เดลินิวส์ เว็บ จำกัด วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2555

ตะลึง เด็กเร่ร่อนในไทยเกือบ 30,000 หวั่นเปิดประชาคมอาเซียนจะเพิ่มขึ้น

ตะลึงเด็กเร่ร่อนไทยเกือบ30,000 คน วอนของบประมาณมาดูแลเด็กเพิ่มเติม ก่อนที่หลายหน่วยงานอาจต้องยุติการดำเนินการ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวชั่น มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ร่วมกับมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ(มสช.) โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) จัดเวทีนโยบายสาธารณะเรื่อง “ปลดล็อคระบบดูแล: สู่การแก้ไขปัญหาเด็กเร่ร่อนที่ยั่งยืน”

น.ส.ทองพูล บัวศรี มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก กล่าวว่า จากการวิจัยเรื่องการถอดบทเรียนบ้านแรกรับและบ้านพัฒนาสำหรับเด็กเร่ร่อนพบว่า บ้านพัฒนาเด็กและสถานสงเคราะห์จำนวน 22 แห่งใน12 จังหวัด ขาดแคลนงบประมาณ บุคลากรและองค์ความรู้ โดยทุกแห่งดำเนินการโดยองค์กรพัฒนาเอกชน ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด งบที่ได้จำนวนมากมาจากเงินบริจาคซึ่งไม่แน่นอนและไม่ยั่งยืน ส่งผลกระทบต่อการดูแลช่วยเหลือเด็กเร่ร่อนในภาครวม

น.ส.ทองพูลกล่าวว่า ทั่วประเทศมีบ้านพัฒนาเด็กและสถานสงเคราะห์ทั่วประเทศกว่า 40 แห่ง เป็นของรัฐ 17 แห่ง ที่เหลืออีก 23 แห่งเป็นของเอกชน มีถึง 6 แห่งที่สถานการณ์การเงินวิกฤต มีแนวโน้มต้องยุติการดำเนินงาน ได้แก่ มูลนิธิอาสาพัฒนาเด็ก ดูแลเด็ก 140 คน มูลนิธิช่วยเหลือเด็กขอนแก่น จำนวน 50 คน บ้านนานา มูลนิธิพันธกิจเพื่อเด็กและชุมชน 120 คน มูลนิธิบ้านนกขมิ้น จำนวน 220 คน บ้านครูจา พัทยา 35 คนและสถานบ้านรับเลี้ยงเด็กบ้านครูมุ้น จ.สมุทรปราการ จำนวน 20-30 คน ทั้งหมดนี้เผชิญปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ผ่านมา ทำให้ยอดเงินบริจาคลดลงถึง 50% หากต้องยุติการดำเนินงาน จะส่งผลกระทบต่อเด็กกว่า 600 คนจะเกิดปัญหาไร้ที่พักพิงทันที

“ดังนั้นอยากให้กองทุนคุ้มครองเด็ก กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่มีงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท นำงบดังกล่าวมาสนับสนุนแบบถาวร เพราะค่าใช้จ่ายขั้นต่ำที่เหมาะสมแก่การดูแลเด็กอยู่ที่ 73-83 บาทต่อคนต่อวัน หรือ 27,000-37,000 บาทต่อคนต่อปี ใช้งบเพียง 20-40 ล้านบาทต่อปี โดยบ้านแรกและบ้านพัฒนาเด็กขององค์กรเอกชนจะรวบรวมข้อมูลนำเสนอกระทรวงฯพิจารณาต่อไป” น.ส.ทองพูลกล่าว

ด้านนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือครูหยุย เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็กกล่าวว่า บ้านแรกรับเป็นบ้านหลังที่สองรองรับเด็กที่มีปัญหา เพื่อช่วยพัฒนาเด็กให้สามารถพึ่งตนเองได้ ดังนั้นงบประมาณจึงเป็นสิ่งสำคัญ การนำงบฯจากกองทุนมาสนับสนุนจะเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้บ้านแรกรับดำเนินการต่อไปได้ แต่จะต้องครอบคลุมถึงตัวเด็กจริง ๆ ทั้งตัวเด็กและบุคลากรที่ดูแล ดังนั้นหากมองให้ดีจะพบว่างบฯดังกล่าวเป็นการลงทุนที่ถูกมากสำหรับเรื่องของมนุษย์

รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ คณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดเผยว่า สถานการณ์เด็กเร่ร่อนในประเทศไทยกำลังขยายตัวอย่างเงียบ ๆ ทั้งในเชิงปริมาณและปัญหา รวมถึงเด็กจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่เข้ามาขอทานและถูกใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นพบว่าสถานการณ์น่าเป็นห่วง เพราะเรายังมองปัญหาแบบมิติเดียว ทั้ง ๆ ที่ต้องมองหลายมิติ อีกทั้งยังเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อนในเชิงปัญหาที่ขยายตัวขึ้นอย่างเรื่อย ๆ รัฐบาลควรดูแลและให้ความสำคัญในปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่องทั้งในนโยบาย งบประมาณ เพื่อให้เด็กเหล่านี้สามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างสมบูรณ์

นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ กรรมการมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติกล่าวว่า ประเทศไทยมีเด็กเร่ร่อนประมาณ 30,000 คน เด็กกลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่อการถูกใช้ประโยชน์ จากยาเสพติด การค้าบริการทางเพศ แม้แต่ถูกบังคับขู่เข็ญจากกลุ่มอาชญากรต่าง ๆ อีกทั้งหากอนาคตประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จะทำให้ปัญหาเด็กเร่ร่อนขยายตัวเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อเกิดการไหลเวียนของประชากรในภูมิภาค จะกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม จะทำให้ประเทศไทยต้องชี้แจงต่อประชาคมอาเซียนว่า ทำไมไม่สามารถดูแลเด็กภายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสัญชาติใดได้ เพราตามหลักสากล บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี มีสิทธิที่จะมีชีวิตรอดและปลอดภัย รวมทั้งสามารถเติบโตในสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาอย่างเต็มศักยาภาพ

นพ.ชูชัยกล่าวอีกว่า การดูแลเด็กเร่ร่อนไม่ให้ไหลออกจากชนบทเข้าสู่เมืองใหญ่ จำเป็นที่จะต้องเน้นการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น รัฐต้องสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ทำงานอย่างมีอิสระ บริการสาธารณะ มีส่วนร่วมในการตัดสินใจปัญหาในพื้นที่เพื่อสกัดการไหลของเด็กจากชนบทเข้ามาเป็นเด็กเร่ร่อนในเมือง

::ตะลึง เด็กเร่ร่อนในไทยเกือบ 30,000 หวั่นเปิดประชาคมอาเซียนจะเพิ่มขึ้น © 2554 บริษัท เดลินิวส์ เว็บ จำกัด วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2555

เหน็บ!เงินเดือนครูขึ้นสวนคุณภาพการศึกษาเด็ก

แขวะเงินเดือนครูขึ้นสวนคุณภาพการศึกษาเด็กไทย แนะเร่งออกข้อสอบวัดผลจัดเกรดเป็นแนวไขปัญหา

วันนี้ (19 มี.ค.2555) ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า เมื่อไม่นานนี้ทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ จัดอภิปรายอย่างไม่เป็นทางการเรื่อง “แนวทางแก้ไขคุณภาพการศึกษาไทย” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวคิดและข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการศึกษา ตลอดจนแนวทางแก้ปัญหา เพื่อนำข้อสรุปเสนอต่อรัฐบาลในการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยในที่ประชุมได้ข้อสรุปเบื้องต้นในการแก้ปัญหาคุณภาพการศึกษาเด็กไทยตกต่ำ ดังนี้ 1.จัดทดสอบระดับชาติให้กับเด็กโดยใช้ข้อสอบชุดเดียวกันทั่วประเทศที่ออกโดยหน่วยงานอิสระ และไม่อยู่ภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และข้อสอบจะเน้นไปที่การอ่านออกเขียนได้ โดยเฉพาะ 3 วิชาพื้นฐาน ได้แก่ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และการสื่อสารทางภาษา จากนั้นนำผลมาประมวลจัดคุณภาพของโรงเรียนเป็นกลุ่ม ๆ คือ แย่ พอใช้ ดี ดีมาก และดีเยี่ยม เพื่อหาวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมในการยกระดับคุณภาพ ขณะเดียวกันจะต้อมีการเผยแพร่ข้อมูลต่าง ๆ แก่สาธารณชนและผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนรับผิดชอบและการจัดการเรียนการสอน

ด้าน ศ.ศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยลงทุนด้านการศึกษามาก โดยเฉพาะเงินเดือนครูที่มีการเลื่อนขั้นเงินเดือนพิเศษในช่วงรอบปีที่ผ่านมาถึง 13% มากกว่าข้าราชการอื่นที่ได้แค่ 5% แต่คุณภาพการศึกษากลับทรุดต่ำลงมาก ๆ จึงทำให้สำนักผู้ตรวจการแผ่นดินร่วมกับทีดีอาร์ไอจะค้นหาว่าปัจจัยใดที่เป็นปัญหา เพื่อที่จะนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขระบบการศึกษา เพราะในปี 2558 จะต้องเปิดประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียน ขณะที่คุณภาพการศึกษาไทยยังมีปัญหาอีกมาก ดังนั้นจะต้องชี้ให้ตรงเป้า ซึ่งอาจต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฎหมายในบางเรื่อง และปรับบางองค์กรออกไปเป็นองค์กรอิสระ เป็นต้น

“ประเทศไทยมีการปฏิรูปการศึกษามาตลอด แต่ไม่ได้เกิดผล ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ครั้งนี้ต้องจี้ให้ถูกจุด จุดไหนที่ต้องเปลี่ยนแปลงจริงๆต้องเปลี่ยนทันที ซึ่งในการประชุมมีนักวิชาการบางคนแสดงความคิดเห็น ทำให้รู้สึกตกใจที่ว่าปัจจุบันยังคงมีการจัดการศึกษาแบบเดิมๆ เหมือนเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว ทั้งที่ต้องศึกษาว่าโลกศตวรรษที่ 21 ต้องมีอะไรบ้าง ห้องเรียน เนื้อหาวิชาของหลักสูตรต่าง ๆ ครูต้องปรับตัวอย่างไร ซึ่งถือว่าน่าเป็นห่วงที่สุดและเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่ก็ไม่มีใครรู้ร้อนรู้หนาว หาก ศธ.ยังเฉย สภาการศึกษาก็เฉย หน่วยงานอื่น ๆ ก็เฉย ทั้งที่คุณภาพการศึกษาของเราต่ำลงทุกวัน อย่างไรก็ตามสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจะทำวิจัยเชิงลึก เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเสริมข้อคิดความเห็นของเรา และจะเสนอไปยังรัฐบาล โดยเฉพาะ รมว.ศึกษาธิการ ทั้งนี้ผมคิดว่าฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลน่าจะต้องฟังข้อเสนอแนะของเรา เพราะคือหัวเลี้ยวหัวต่อของประเทศที่จะต้องรวมกันแก่ปัญหา” ศ.ศรีราชา กล่าว

ที่มา:: เหน็บ!เงินเดือนครูขึ้นสวนคุณภาพการศึกษาเด็ก © เดลินิวส์ เว็บ วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม 2555

โทษแรงทุจริตเกณฑ์ทหาร “ปลดราชการ”

::โทษแรงทุจริตเกณฑ์ทหาร “ปลดราชการ”

แม่ทัพภาค 1 คาดโทษแรง “ปลดราชการ” ทุจริตเกณฑ์ทหาร กำชับประธานตรวจเลือกทำงานอย่างโปร่งใส ไร้ข้อครหา

ที่กองทัพภาคที่ 1 เมื่อวันที่ 23 มี.ค. พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นประธานในพิธีแจกจ่ายคำสั่งฯการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2555 และการปฐมนิเทศคณะกรรมการตรวจเลือกฯ ประธานกรรมการตรวจเลือกฯ และส่วนงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีความเข้าใจในการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของทางราชการ

พล.ท.อุดมเดช กล่าวว่า ขอให้ผู้ที่เข้ามารับการตรวจเลือกเป็นทหารกองเกินมีความภาคภูมิใจในการปฏิบัติภารกิจที่มีเกียรติ รวมทั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส ยุติธรรมตามนโยบายของกองทัพบก และให้ปฏิบัติเป็นไปตามระเบียบที่ทางราชการกำหนด การตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการเป็นทหารประจำการเป็นการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง และสังคมให้ความสนใจ ดังนั้นการปฏิบัติงานของทุกคนในทุกขั้นตอนจะต้องมีความละเอียด รอบคอบ ถูกต้อง สามารถตรวจสอบและตอบคำถามกับสังคมได้

ในปีนี้กองทัพภาคที่ 1 มีทหารกองเกินที่จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกจำนวน 88,000 นาย แบ่งเป็นบรรจุเข้าเป็นทหารกองประจำการของกองทัพภาคที่ 1 จำนวน 26,500 นาย ส่วนที่เหลือจะแบ่งมอบให้ทุกหน่วยในพื้นที่ อาทิ หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ.) หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ นอกจากนั้นได้รับการส่งช่วยจากกองทัพภาคที่ 2 ประมาณ 18,000 นายเศษ และกองทัพภาคที่ 3 ส่งเข้ามาช่วยประมาณ 300 นาย ซึ่งยอดรวมของกองทัพภาคที่ 1 ที่จะได้บรรจุเข้าเป็นทหารกองประจำการในครั้งนี้ประมาณ 44,000 นายเศษ โดยจะแบ่งเป็นผลัดต่างๆ ซึ่งปีนี้มีจำนวนยอดทหารกองเกินที่เพิ่มจากปีที่ผ่านมาจำนวน 2,500 นาย เพื่อสนับสนุนในการปฏิบัติภารกิจต่างๆให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างเต็มที่

ส่วนกรณีสาวประเภทสองที่เข้ารับการตรวจเลือกนั้น คงใช้ระเบียบเหมือนปีที่ผ่านมาว่าบุคคลใดที่ได้รับการยกเว้นบ้าง “ปีนี้เราได้รับนโยบายจาก ผบ.ทบ.ให้ดำเนินการด้วยความเรียบร้อยที่สุดและไม่ให้มีข้อครหา โดยได้เน้นย้ำถึงการปฏิบัติที่ถูกต้องตามระเบียบและต้องมีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม และโปร่งใสกับประธานตรวจเลือกที่ได้มีการจัดตั้งไปทั้งหมด 45 คณะในพื้นที่รับผิดชอบ และมีสำรองอีก 3 คณะ หากพบมีการทำความผิด หรือมีการทุจริตช่วยเหลือให้ไม่ได้เป็นทหารจะมีการคาดโทษอย่างถึงที่สุด หากสอบสอนแล้วมีความผิดก็ถึงขั้นปลดออกจากราชการได้ ดังนั้นเชื่อมั่นว่าจะไม่มีสิ่งเหล่านี้ และทุกคนก็มีความเข้าใจ”

พล.ท.อุดมเดช กล่าวต่อว่า อยากจะฝากไปถึงประชาชนว่าขอให้ทุกคนสบายใจและเชื่อมั่นในขั้นตอนวิธีการดำเนินการของกองทัพที่จะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องการเกณฑ์ทหาร และอย่าได้หลงเชื่อคำแอบอ้างใดๆ ว่าจะสามารถทำให้ไม่ต้องเป็นทหารได้ หรือมีข้อยกเว้นนอกเหนือจากกรอบกติกา โดยเรียกรับเงินและผลประโยชน์ต่างๆ ขอยืนยันว่าไม่สามารถทำได้ ดังนั้นหากพบเหตุดังกล่าวท่านอาจจะถูกหลอกและเสียเงิน นอกจากนั้นอาจจะได้รับใบการตรวจเลือก หรือ สด.43 ปลอม และหากนำไปใช้ในราชการจะเป็นการทำผิดกฎหมาย ดังนั้นควรพึงระมัดระวังและอย่าเชื่อคำกล่าวอ้างของบุคคลที่ไม่ปรารถนาดีเหล่านี้

::โทษแรงทุจริตเกณฑ์ทหาร “ปลดราชการ” เดลินิวส์ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2555
----------------
Nut Smith · นักวิจารณ์เด่น
ควรเลิกการเกณฑ์ทหาร แล้วหันมารับสมัครทหารเกณฑ์แบบสมัครใจ ประเทศชาติไม่ได้อยู่ในภาวะสงคราม
ทหารก็มีมากจนเกินความจำเป็น เกณฑ์มากก็มีค่าใช้จ่ายต่อหัวเป็นงบประมาณที่มากขึ้น ทั้งยังเป็นช่องทางให้ทุจริตกันอีก

ระทึก!รถแก๊สแอลพีจีอัดราวสะพานคว่ำบึ้มสยอง

:: ระทึก!รถแก๊สแอลพีจีอัดราวสะพานคว่ำบึ้มสยอง

เมื่อเวลา 05.10 น. วันที่ 23 มี.ค. พ.ต.ท.กฤษษดา ขันโสดา พงส. (สบ3) สน.คลองตัน รับแจ้งมีรถบรรทุกแก๊สแอลพีจี พุ่งชนราวสะพานข้ามคลองบ้านป่า ถนนพัฒนาการ แขวงและ เขตสวนหลวง จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิง 15 คัน ที่เกิดเหตุพบรถสิบล้อของบริษัทพีลาทัส แลนด์ แอนด์ทรานสปอร์ต จำกัด บรรทุกแก๊สจำนวน 6,000 ลิตร ทะเบียน ทว 75-3816 กรุงเทพมหานคร พลิกตะแคงขวาอยู่กลางสะพาน มีเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นจากฝาถังบรรทุกสูงกว่า 5 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องรีบสั่งปิดการจราจรทั้งสองฝั่ง ทำให้รถติดขัดอย่างหนัก จากนั้นระดมฉีดน้ำหล่อเลี้ยงอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่สามารถดับได้ทันที จึงจำเป็นต้องรอจนกว่าแก๊สจะหมดไปเอง เบื้องต้นพบผู้บาดเจ็บทราบชื่อนายบัวพัน สุวรรณแสง อายุ 66 ปี ถูกไฟลวกตามร่างกาย มีผู้นำส่ง รพ.เพชรเวช

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคันบรรทุกแก๊สคันดังกล่าวได้ขับตามรถเก๋งมาด้วยความเร็วสูง แต่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุรถเก๋งกลับชะลอความเร็วทำให้รถบรรทุกต้องรีบหักหลบกะทันหันพจนเสียหลักพุ่งไปชนกับราวสะพานและท่อส่งน้ำจนแตก และพลิกคว่ำดังกล่าว ช่วงนั้นคนขับรถบรรทุกพยายามจะวิ่งเข้าไปปิดวาล์ว แต่กลับเกิดระเบิดเสียก่อน ทำให้คนขับอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบปากคำดำเนินคดีต่อไป



เจ้าหน้าที่หลังจากใช้เวลาในการฉีดน้ำหล่อเลี้ยงรถบรรทุกแก๊ส LPG ที่ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำบนถนนพัฒนาการ 20-22 จนเกิดเพลิงลุกไหม้กว่า 6 ชั่วโมง เมื่อได้ทำการตรวจสอบ แก๊ส LPG ได้ระเหยไปจนหมดแล้ว พร้อมกันนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบฝาวาว valve ด้านบนของถังบรรจุแก๊ส เพื่อความมั่นใจ ก่อนใช้เครนยกรถออกจากที่เกิดเหตุ และเริ่มเปิดการจราจรบนถนนพัฒนาการบางส่วน



ระทึก!รถแก๊สแอลพีจีอัดราวสะพานคว่ำบึ้มสยอง
วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2555

:: เดลินิวส์ออนไลน์

Wednesday, March 21, 2012

ประกาศนียบัตร,ใบสุทธิ :: credentials

ใบสุทธิ (หรือ ใบประกาศ(นียบัตร)) เป็น เอกสารแสดงวิทยฐานะ(และความประพฤติ เป็นต้น) ของบุคคลที่ได้ระบุชื่อในเอกสาร เมื่อลาออกหรือจบการศึกษาชั้นสูงสุดของโรงเรียน

ชื่อเรียกภาษาอังกฤษของใบสุทธิ อาจเรียกได้หลากหลาย เช่น graduation certificate (บัตรรับรองวุฒิการศึกษา) ; school-leaving certificate (หนังสือรับรองการออกจากโรงเรียนเนื่องจากสำเร็จหลักสูตร) ; diploma (วุฒิการศึกษาแบบหนึ่ง) ; testimonial (การรับรองเชิงพยานหลักฐาน) ; certificate of honourable dismissal ; educational identification papers (ใบแสดงหลักฐาน [ว่าคุณเป็นใคร มีความรู้ มีการศึกษาเพียงใด ]); certificate of education identity ; qualification document/certificate

คำที่จะพูด คือ credentials (n) ซึ่งจัดเป็น ประกาศนียบัตร ใบสุทธิ หนังสือรับรอง ในเชิงใช้เป็น หลักฐานอ้างอิง ในเชิงสาสน์ตราตั้ง

ถ้า credentials ของการศึกษาระดับปริญญา จะมี transcript ซึ่งเป็น(สำเนา)ใบรับรองผลการศึกษาว่าได้เรียนวิชาอะไรบ้าง และผลการเรียน(เกรด)เป็นเช่นไร

Dr.SoS

หนุ่มสุดเฮงปฏิบัติธรรม 7 วัน ได้เมียฟรี-มรดกนับสิบล้าน

ชาวบ้านฮือฮา เศรษฐินีบ้านสร้าง ตั้งเงื่อนไขยกลูกสาวให้ฟรี พร้อมมอบมรดกหลายสิบล้าน ข้อแม้เดียวคือขอให้ลูกเขยเข้าปฏิบัติธรรม นั่งกรรมฐานที่วัดคลองตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ครบ 7 วัน เผยซึ้งในพระธรรม จากคนที่ชอบเล่นการพนัน แค่เข้าปฏิบัติธรรม จึงเลิกหมด...

วันที่ 15 มีนาคม 2555 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านตลาดบ้านสร้าง อ.บางปะอิน จ. พระนครศรีอยุธยาต่างฮือฮาว่า นางมะปรางค์ ไวยพันทา อายุ 52 ปี ประกอบอาชีพขายส่งรองเท้า ที่ตลาดบ้านสร้าง ชื่อมะปรางโรจนะ 1 และ 2 รวม 6 คูหา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ในขั้นระดับเศรษฐี มีเงินทรัพย์สินรวมกันมูลค่าหลายสิบล้านบาท ประกาศยก น.ส.สุมาลี หรือ น้องเปิ้ล ไวยพันทา อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวให้กับ นายธนิต พานคำ อายุ 24 ปี ชาว อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยาหนุ่มพนักงานบริษัทฮอนด้าฟรี ไม่คิดค่าสินสอดทองมั่น หรือค่าเลี้ยงดูแม้แต่บาทเดียว โดยมีข้อแม้ว่านายธนิต หนุ่มผู้โชคดีต้องตั้งใจเข้าปฏิบัติธรรมนั่งกรรมฐานเป็นเวลา 7 วัน ที่วัดคลองตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเมื่อชาวบ้านทราบเรื่องดังกล่าว จึงกลายเป็นเรื่องฮือฮาวิพากษ์วิจารณ์กันทั้งตลาด โดยนางมะปรางค์ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงพระวัดคลองตาลอง พร้อมจัดพิธียกลูกสาวให้นายธนิต หนุ่มผู้โชคดี ที่วัดคลองตาลอง โดยได้เชิญญาติธรรมมาร่วมเป็นสักขีพยานเต็มศาลาวัด ซึ่งบรรยากาศการจัดงานดังกล่าวเป็นพิธีการที่จัดอย่างเรียบง่าย โดยทั้งสองฝ่ายได้จับมือเคียงคู่กันรับศีลจากหลวงพ่อสมัย สมโย เจ้าอาวาส พร้อมประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ก่อนที่ทั้งคู่จะตักบาตรร่วมขันถวายเป็นพุทธบูชา

นางมะปรางค์ เผยว่า เหตุที่ยกลูกสาวคนเดียวให้กับหนุ่มพนักงานบริษัทใหญ่นั้น ด้วยที่ตัวเองอยู่กับลูกสองคน ทำธุรกิจขายส่งรองเท้า จนกระทั่งสามีได้เสียชีวิตไปเมื่อ 3 ปีก่อน ด้วยความระลึกถึงความดีของสามีที่สร้างธุรกิจจนฐานะดี พยายามทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ไม่ขาดสาย จนมาพบกับพระสมัย วัดคลองตาลอง ให้นั่งปฏิบัติธรรม ถือศีล สอนให้รู้จักตัวตน การใช้ชีวิตในสังคมอย่างมีความสุขโดยเฉพาะการใช้ชีวิตคู่ หลังจากได้เข้ามาปฏิบัติธรรมจนรู้ตัวตน เดิมทีตนเองเป็นคนชอบเล่นหวยใต้ดินทุกงวด จะออกตะเวนไปหาเลขเด็ด หาเจ้าเข้าทรงทุกงวด แต่พอปฏิบัติธรรมที่วัดทำให้รู้ตัวตน ละเลิกหมดทุกอย่าง จิตใจก็ดี ธุรกิจที่ทำอยู่ดีขึ้นอย่างแปลกประหลาด ขณะที่ น.ส.สุมาลี ลูกสาวที่ชอบเที่ยวเตร่เหมือนวัยรุ่นทั่วไป ได้ชวนมาเข้าวัดเพียงครั้งเดียว ก็ละเลิกทุกอย่าง

นางมะปรางค์ กล่าวต่อว่า เมื่อเห็นว่า นายธนิต มาชอบลูกสาว และเห็นว่าเข้ากันได้กับลูกสาว สังเกตมาตั้งแต่มหาอุทกภัยที่ผ่านมา นายธนิต ว่าที่ลูกเขยคอยดูแลช่วยเหลือทุกสิ่งทุกอย่าง ประพฤติตัวดีมีความตั้งใจ จึงเอ่ยปากถ้าชอบลูกสาวให้มาขอ แต่จะไม่เรียกค่าสินสอดทองมั่น ค่าน้ำนมแม้แต่บาทเดียว เพียงแต่ขอให้นายธนิต หนุ่มผู้โชคดีเข้าวัดปฏิบัติธรรมที่วัดคลองตาลอง 1 คอร์ส เป็นเวลา 7 วัน เพื่อศึกษาคำสั่งสอนการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ฝึกใจให้มีสมาธิ ถ้าว่าที่ลูกเขยทำได้ก็จะยกลูกสาวคนเดียวพร้อมสมบัติทรัพย์สินให้ฟรี และว่าที่ลูกเขยทำได้จริงๆ และตั้งใจปฏิบัติธรรมด้วย จึงได้กำหนดวันแต่งงานทันที ในวันที่ 21 เม.ย.55 นี้ โดยนางมะปรางค์ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า คำสั่งสอนของพระธรรมวินัยมีคุณค่าสูงส่งมากกว่ามูลค่าทรัพย์สินหรือเงินทองที่มีอยู่ทั้งหมด มีเงินนับร้อยล้านพ้นล้านยังสู้คำสั่งสอนพระธรรมวินัยไม่ได้

ด้านนายธนิต กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นที่แม่ยกลูกสาวให้กลางศาลาวัด โดยตลอดระยะเวลาที่นั่งปฏิบัติธรรม ได้ศึกษาคำสอนการใช้ชีวิตคู่จากพระอาจารย์สมัยจนลึกซึ้ง ทำให้ทราบเจตนารมณ์ของคุณแม่มะปรางค์ว่า ต้องการคนดี จิตใจดี ปกครองลูกสาวและทรัพย์สินได้

:: หนุ่มสุดเฮงปฏิบัติธรรม 7 วัน ได้เมียฟรี-มรดกนับสิบล้าน ไทยรัฐออนไลน์ วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม 2555

จับเจ้าของอู่รับซื้อรถขโมย สวมซากส่งขายมือสอง

ตำรวจภูธรภาค 3 แถลงจับกุมเจ้าของอู่เคาะพ่นสีรถยนต์รายใหญ่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ สวมซากเลขตัวถังรถ เลขแชสซีส์ ผบช.ภ.3 ฝากเตือนประชาชนก่อนซื้อขาย ให้ขนส่งตรวจสอบลงลึกอย่างละเอียด...

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.กรกต สาริยา รอง ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.ศสส.ภ.3 พ.ต.อ.ภาณุ บุรณศิริ รอง ผบก.สส.ภ.3 พ.ต.อ.นกันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.สส.2.ภ.3 พ.ต.อ.ประสงค์ เรืองเดช ผกก.หน่วยปฏิบัติการพิเศษ และชุดสืบสวนสอบสวน 2 ตร.ภ.3 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งสวมซากรถยนต์ และโจรกรรมรถยนต์ในพื้นที่

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ ศสส.ตร.ภ.3 ทราบเบาะแสขบวนการสวมซากรถยนต์ จึงสั่งการให้ ตร.ภ.นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ร่วมกันสืบสวนหาข่าวแหล่งดัดแปลงสวมซากรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุ มาสวมกับรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม หรือหลบหนีไฟแนนซ์ เพื่อทำให้เป็นรถยนต์ที่ถูกกฎหมาย มีหมายเลขทะเบียน หมายเลขเครื่อง หมายเลขตัวรถตรงตามสมุดคู่มือจดทะเบียน เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงการขยายผลถึงแหล่งจำหน่ายรถยนต์ที่สวมซากนี้

จากการสืบสวนของชุดปฏิบัติการ สส.2 ตร.ภ.3 เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ร่วมกับกำลังตำรวจ ภ.จว.บุรีรัมย์ นำหมายค้นจากศาลจังหวัดบุรีรัมย์เข้าตรวจค้นอู่สมศักดิ์ อะไหล่ยนต์ ซึ่งเป็นอู่เคาะพ่นสี เลขที่ 908/7-17 บ้านนางรอง ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ มีนายสมศักดิ์ บุญสะอาด อายุ 50 ปี เป็นเจ้าของอู่ มีพฤติการณ์รับซื้อซากรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุ ผลการตรวจค้นพบรถยนต์กระบะบรรทุกยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็คซ์ สีฟ้า ติดหมายเลขทะเบียน บธ 3916 ชัยภูมิ ขณะนั้นมีนายท็อปศิริ มิชาลี อายุ 40 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าช่างเชื่อม กำลังใช้เครื่องมือเชื่อมต่อเลขตัวรถอยู่บริเวณใต้ท้องรถ และพบชิ้นส่วนรถยนต์ยี่ห้อชนิดต่างๆ จำนวนมาก

นายกิตติศักดิ์ เจ้าของอู่ ให้การว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถซ่อมได้ สั่งซื้อรถยนต์ที่มียี่ห้อ รุ่นและสีตรงกันมาจากนายถวิล ไม่ทราบนามสกุลและที่อยู่ ในราคา 120,000 บาท จากนั้นได้ให้นายท็อปศิริ ช่างเชื่อมฝีมือดีตัดเลขตัวรถเดิมออก แล้วนำเลขตัวรถของคันหมายเลข ทะเบียน บธ 3916 ที่เพิ่งซื้อมาเชื่อมต่อจนเสร็จเรียบร้อย เตรียมส่งขายให้เต็นท์รถมือสองต่อไป

นายกิตติศักดิ์ กล่าวด้วยว่า เปิดอู่มากว่า 10 ปีแล้ว เพิ่งมาคิดวิธีนี้พร้อมลงมือทำได้ 2-3 ปี มีรายได้พออยู่ได้ โดยซื้อซากรถมาในราคาถูก แล้วทำการดังกล่าว ก่อนจะส่งไปขายให้ตามเต็นท์รถยนต์มือสองในพื้นที่ จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ในราคาเท่ากับท้องตลาดแล้วแต่สภาพรถที่ได้มา ส่วนใหญ่จะอยู่ที่คันละ 300,000-400,000 บาท ทำมาแล้วนับร้อยคัน เป็นการซื้อมาขายไป มีรายได้หมุนเวียนหลายสิบล้านบาท

ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหานายกิตติศักดิ์ กับนายท็อปศิริ ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร พร้อมส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวพบเอกสารหลักฐานเป็นบัตรประกันสุขภาพ ระบุชื่อนายพิทักษ์ สายบุตร อายุ 35 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ หมายเลขทะเบียนเดิมคือ บบ 9896 อุบลราชธานี ถูกโจรกรรมไปเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2555 และได้แจ้งหายไว้ที่ สน.บางขุนเทียน กทม.แล้ว

ต่อมานายพิทักษ์ได้เดินทางมาดูรถที่หายไปด้วยตัวเอง พร้อมกับมอบช่อดอกไม้ขอบคุณ พล.ต.ต.ประยนต์ ลาสือ และชุด สส.ภ.3 นอกจากนี้จากการสืบสวนขยายผล ได้ทำการตรวจยึดรถยนต์ที่สวมซากและส่งไปจำหน่ายตามร้านจำหน่ายรถมือสองในพื้นที่ต่างๆ ของ ตร.ภ.3 รวมจำนวน 10 คัน

พล.ต.ท.ภาณุ กล่าวว่า พฤติกรรมผู้ต้องหารายนี้จะตระเวนรับซื้อซากรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุตามสถานที่ต่างๆ และจะได้คู่มือการจดทะเบียนเล่มจริงมาด้วย จากนั้นจะตัดตัวเลขแชสซีส์รถ เลขตัวถังรถคันนั้นไว้ แล้วเสาะหารถที่ส่วนใหญ่เป็นรถขโมยในรุ่น ยี่ห้อ สีเดียวกันกับคันซากรถ จากนั้นเอาเลขที่ตัดไว้ไปสวมใส่รถคันที่ขโมยมาเชื่อมต่ออย่างแนบเนียนกลมกลืนด้วยความชำนาญ ก็จะได้รถคันใหม่ขึ้นมา แล้วนำไปส่งขายตามเต็นท์ต่างๆ ในราคาถูกกว่าท้องตลาดมาก ผู้ที่ซื้อต่อไม่รู้แน่นอน ฉะนั้นฝากไปยังประชาชนว่า การจะซื้อรถยนต์ตามเต็นท์ต่างๆ ถ้าสงสัยก็ขอให้เจ้าหน้าที่ขนส่งตรวจสภาพให้ละเอียดถี่ถ้วนรัดกุม

ที่มา:: ไทยรัฐออนไลน์ วันพุธที่ 21 มีนาคม 2555

Tuesday, March 20, 2012

เร่งสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตาฯ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ

เร่งสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตาฯ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทางหลวงชนบท เร่งสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตาฯ หวังเป็นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวได้สัญจรไปมาสะดวก รวมทั้งใช้อพยพชาวบ้านในกรณีเกิดภัยธรรมชาติร้ายแรงด้วย ...

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตาน้อย-เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ว่า หลังจากที่กรมทางหลวงชนบทได้แจ้งให้ผู้รับจ้างก่อสร้างคือ บริษัท ประยูรวิศว์ จำกัด เข้าดำเนินการในพื้นที่เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 55 ทั้งนี้ กรมได้ร่วมกับจังหวัดกระบี่และอำเภอเกาะลันตาได้จัดประชุมประชาสัมพันธ์ โครงการให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบแล้วเมื่อ 16 ม.ค. 55 จากนั้นผู้รับจ้างได้ดำเนินการปรับพื้นที่ด้านข้างท่าเทียบแพเดิม เพื่อก่อสร้างท่าเทียบแพชั่วคราว สำหรับการสัญจรข้ามฟากในระหว่างทำการก่อสร้าง เนื่องจากแนวสะพานจะคร่อมทับท่าเทียบแพทั้งสองฝั่ง ซึ่งคาดว่าท่าเทียบแพชั่วคราวจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2555 และเมื่อได้มีการทดลองใช้งานท่าเทียบแพชั่วคราวจนมั่นใจว่าไม่มีปัญหาแล้ว จะทำการปิดท่าเทียบแพเดิมต่อไป โดยทางผู้รับจ้างก่อสร้างจะทำการตอกเสาเข็มสะพานต้นแรกบนฝั่งเกาะลันตาใหญ่ด้วย ซึ่งนับเป็นการเริ่มงานก่อสร้างสะพานอย่างสมบูรณ์

นายชาติชาย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามโครงการก่อสร้างสะพานแห่งนี้ มีความยาวรวมทั้งสิ้น 1.4 กิโลเมตร ประกอบด้วย สะพานความยาว 650 เมตร และถนนเชิงลาดทั้งสองฝั่ง ความยาวรวม 750 เมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 415.998 ล้านบาท โดยเป็นงบผูกพัน ตั้งแต่ ปี 2553 – 2557 ระยะเวลาในการก่อสร้าง 900 วัน เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้เกาะลันตาน้อยและเกาะลันตาใหญ่เชื่อมเป็นเสมือนแผ่นดินผืนเดียวกันซึ่งจะเพิ่มศักยภาพในการเดินทางระหว่างเกาะลันตาน้อย-เกาะลันตาใหญ่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณเกาะลันตาซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกระบี่ ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้ง สามารถใช้สะพานในการอพยพให้ความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีเกิดเหตุการณ์จากภัยธรรมชาติหรือเหตุการณ์ร้ายแรงได้อีกด้วย

:: เร่งสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตาฯ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม 2555

Monday, March 19, 2012

2011 World Best Universities in Civil & Structural Engineering Rankings

2011 QS World University Rankings by Subject - Engineering & Technology Rankings
2011 QS World University Rankings by Subjects: Civil & Structural Engineering Rankings

MIT tops the first ever QS World University Ranking® for Civil and Structural Engineering, which also sees a top-five performance from Imperial College London and two Asian universities in the top ten. A diverse top 20 features nine universities from the US, three from the UK, two from Singapore, and one apiece from Japan, Switzerland, Australia, the Netherlands, China and Canada.

::Civil & Structural Engineering Rankings 2011

Rank Title Country
1 Massachusetts Institute of Technology (MIT) United States
2 Stanford University United States
3 University of Cambridge United Kingdom
4 University of California, Berkeley (UCB) United States
5 Imperial College London United Kingdom
6 University of Oxford United Kingdom
7 National University of Singapore (NUS) Singapore
8 The University of Tokyo Japan
9 California Institute of Technology (Caltech) United States
10 ETH Zurich (Swiss Federal Institute of Technology) Switzerland
11 The University of Melbourne Australia
12 University of Illinois at Urbana-Champaign United States
13 Delft University of Technology Netherlands
14 University of California, Los Angeles (UCLA) United States
15 University of Texas at Austin United States
16 Cornell University United States
17 Tsinghua University China
18 Nanyang Technological University (NTU) Singapore
19 University of Michigan United States
20 University of Toronto Canada
21 The University of Sydney Australia
22 Kyoto University Japan
23 The University of New South Wales Australia
24 Carnegie Mellon University United States
25 University of Hong Kong Hong Kong
26 University of California, San Diego (UCSD) United States
27 The University of Manchester United Kingdom
28 Georgia Institute of Technology United States
29 Purdue University United States
30 Indian Institute of Technology Bombay (IITB) India
31 Columbia University United States
32 Princeton University United States
33 McGill University Canada
34= Peking University China
34= The University of Queensland Australia
36 Monash University Australia
37 University of British Columbia Canada
38 Indian Institute of Technology Kanpur (IITK) India
39 The University of Auckland New Zealand
40 University of Edinburgh United Kingdom
41 University of Waterloo Canada
42 The Hong Kong University of Science and Technology Hong Kong
43= Indian Institute of Technology Delhi (IITD) India
43= Lund University Sweden
45 Ecole Polytechnique Fe'de'rale de Lausanne Switzerland
46 Politecnico di Milano Italy
47 University of Bristol United Kingdom
48 KAIST - Korea Advanced Institute of Science & Technology Korea, South
49 Indian Institute of Technology Madras (IITM) India
50 Tokyo Institute of Technology Japan
51-100 Aalborg University Denmark
51-100 Aristotle University of Thessaloniki Greece
51-100 Cardiff University United Kingdom
51-100 Chalmers University of Technology Sweden
51-100 Chulalongkorn University Thailand
51-100 City University of Hong Kong Hong Kong
51-100 Cranfield University United Kingdom
51-100 Duke University United States
51-100 E'cole des Ponts, ParisTech France
51-100 Eindhoven University of Technology Netherlands
51-100 Heriot-watt University United Kingdom
51-100 The Hong Kong Polytechnic University Hong Kong
51-100 Indian Institute of Technology Kharagpur (IITKGP) India
51-100 Indian Institute of Technology Roorkee (IITR) India
51-100 Johns Hopkins University United States
51-100 KU Leuven Belgium
51-100 KTH, Royal Institute of Technology Sweden
51-100 National Taiwan University (NTU) Taiwan
51-100 National Technical University of Athens Greece
51-100 Northwestern University United States
51-100 Pennsylvania State University United States
51-100 Queen's University Canada
51-100 Queensland University of Technology Australia
51-100 RMIT University Australia
51-100 Rheinisch-Westfa"lische Technische Hochschule Aachen Germany
51-100 Sapienza - Universita` di Roma Italy
51-100 Seoul National University Korea, South
51-100 Shanghai Jiao Tong University China
51-100 Technical University of Denmark Denmark
51-100 Technion - Israel Institute of Technology Israel
51-100 Technische Universita"t Mu"nchen Germany
51-100 Texas A&M University United States
51-100 Tohoku University Japan
51-100 Tongji University China
51-100 UCL (University College London) United Kingdom
51-100 Universidad Nacional Auto'noma de Me'xico (UNAM) Mexico
51-100 Universita"t Karlsruhe Germany
51-100 Universita"t Stuttgart Germany
51-100 The University of Adelaide Australia
51-100 University of Alberta Canada
51-100 University of Bath United Kingdom
51-100 University of Birmingham United Kingdom
51-100 University of California, Davis United States
51-100 University of Canterbury New Zealand
51-100 University of Colorado at Boulder United States
51-100 University of Leeds United Kingdom
51-100 The University of Sheffield United Kingdom
51-100 University of Southampton United Kingdom
51-100 The University of Western Australia Australia
51-100 University of Wisconsin-Madison United States
51-100 Virginia Polytechnic Institute (Virginia Tech) United States
101-150 Colorado State University United States
101-150 Curtin University of Technology Australia
101-150 Griffith University Australia
101-150 Istanbul Technical University Turkey
101-150 King Fahd University of Petroleum & Minerals Saudi Arabia
101-150 Korea University Korea, South
101-150 Laval University Canada
101-150 Lehigh University United States
101-150 Loughborough University United Kingdom
101-150 McMaster University Canada
101-150 Nagoya University Japan
101-150 Nanjing University China
101-150 Newcastle University United Kingdom
101-150 Norwegian University of Science And Technology Norway
101-150 Ohio State University United States
101-150 Osaka University Japan
101-150 Politecnico di Torino Italy
101-150 Pontificia Universidad Cato'lica de Chile Chile
101-150 Rensselaer Polytechnic Institute United States
101-150 Rice University United States
101-150 Thammasat University Thailand
101-150 Trinity College Dublin Ireland
101-150 Universidad de Chile Chile
101-150 Universita` di Bologna (UNIBO) Italy
101-150 Universite' Catholique de Louvain (UCL) Belgium
101-150 University College Dublin Ireland
101-150 University of Aberdeen United Kingdom
101-150 University of Calgary Canada
101-150 University of Delaware United States
101-150 University of Florida United States
101-150 University of Glasgow United Kingdom
101-150 University of Iowa United States
101-150 University of Maryland, College Park United States
101-150 University of Minnesota United States
101-150 University of Newcastle Australia
101-150 The University of Nottingham United Kingdom
101-150 University of Ottawa Canada
101-150 University of Patras Greece
101-150 University of Reading United Kingdom
101-150 University of Surrey United Kingdom
101-150 University of Technology, Sydney Australia
101-150 University of Twente Netherlands
101-150 University of Washington United States
101-150 The University of Western Ontario Canada
101-150 University of Wollongong Australia
101-150 Uppsala University Sweden
101-150 Vienna University of Technology Austria
101-150 Xi'an Jiaotong University China
101-150 Yonsei University Korea, South
101-150 Zhejiang University China
151-200 American University of Beirut (AUB) Lebanon
151-200 Arizona State University United States
151-200 Brunel University United Kingdom
151-200 Cairo University Egypt
151-200 Chung-Ang University Korea, South
151-200 City University of New York United States
151-200 Concordia University Canada
151-200 Czech Technical University In Prague Czech Republic
151-200 Drexel University United States
151-200 George Washington University United States
151-200 Hanyang University Korea, South
151-200 Hokkaido University Japan
151-200 Illinois Institute of Technology United States
151-200 Indian Institute of Science India
151-200 Indian Institute of Technology Guwahati (IITG) India
151-200 Iowa State University United States
151-200 Kobe University Japan
151-200 Kyushu University Japan
151-200 Leibniz Universita"t Hannover Germany
151-200 Michigan State University United States
151-200 National Cheng Kung University Taiwan
151-200 National Chiao Tung University Taiwan
151-200 Northeastern University United States
151-200 Polite'cnica de Madrid Spain
151-200 Pontificia Universidade Cato'lica do Rio de Janeiro Brazil
151-200 Queen's University of Belfast United Kingdom
151-200 Sungkyunkwan University Korea, South
151-200 Technische Universita"t Braunschweig Germany
151-200 Technische Universita"t Dresden Germany
151-200 Tianjin University China
151-200 Universidad de los Andes Colombia
151-200 Universidade de Sa~o Paulo Brazil
151-200 Universita` degli Studi di Padova (UNIPD) Italy
151-200 Universita` degli Studi di Pavia Italy
151-200 Universitat Polite`cnica de Catalunya Spain
151-200 Universiti Kebangsaan Malaysia (UKM) Malaysia
151-200 Universiti Putra Malaysia -UPM Malaysia
151-200 Universiti Teknologi Malaysia (UTM) Malaysia
151-200 University of Alabama United States
151-200 University of Arizona United States
151-200 University of Coimbra Portugal
151-200 University of Ghent Belgium
151-200 University of Liege Belgium
151-200 University of Liverpool United Kingdom
151-200 University of Massachusetts, Amherst United States
151-200 University of Pittsburgh United States
151-200 University of Southern California United States
151-200 University of Strathclyde United Kingdom
151-200 University of Tehran Iran
151-200 Washington State University United States


© QS Quacquarelli Symonds 2004-2011 www.topuniversities.com - All rights reserved
2011 QS World University Rankings by Subject - Engineering & Technology Rankings
2011 QS World University Rankings by Subjects: Civil & Structural Engineering Rankings

MIT tops the first ever QS World University Ranking® for Civil and Structural Engineering, which also sees a top-five performance from Imperial College London and two Asian universities in the top ten. A diverse top 20 features nine universities from the US, three from the UK, two from Singapore, and one apiece from Japan, Switzerland, Australia, the Netherlands, China and Canada.

::Civil & Structural Engineering Rankings 2011

2012 Best Asian Universities - Ranking

2012 Best Asian Universities - Ranking

Rank Institute and Country
1 The Hong Kong University of Science and Technology Hong Kong
2 University of Hong Kong Hong Kong
3 The University of Tokyo Japan
4 The Chinese University of Hong Kong Hong Kong
5 Seoul National University Korea, South
6 Tokyo Institute of Technology Japan
7 National University of Singapore (NUS) Singapore
8 Kyoto University Japan
9 Osaka University Japan
10 Tohoku University Japan
11 KAIST - Korea Advanced Institute of Science & Technology Korea, South
12 Pohang University of Science And Technology (POSTECH) Korea, South
13 Peking University China
14 Nagoya University Japan
15 City University of Hong Kong Hong Kong
16 Tsinghua University China
17 Nanyang Technological University (NTU) Singapore
18 Kyushu University Japan
19 Yonsei University Korea, South
20 Hokkaido University Japan
21 National Taiwan University (NTU) Taiwan
22 Fudan University China
23 University of Tsukuba Japan
24 Keio University Japan
25 University of Science and Technology of China China
26 Korea University Korea, South
27 Sungkyunkwan University Korea, South
28 Zhejiang University China
29 Nanjing University China
30 The Hong Kong Polytechnic University Hong Kong
31 National Tsing Hua University Taiwan
32 National Cheng Kung University Taiwan
33 Shanghai Jiao Tong University China
34 Mahidol University Thailand
35 Kobe University Japan
36 Indian Institute of Technology Kanpur (IITK) India
37 Indian Institute of Technology Delhi (IITD) India
38 Indian Institute of Technology Bombay (IITB) India
39 Universiti Malaya (UM) Malaysia
40 National Yang Ming University Taiwan
41 Hiroshima University Japan
42 Kyung Hee University Korea, South
43 Indian Institute of Technology Madras (IITM) India
44 Hanyang University Korea, South
45 Ewha Womans University Korea, South
46 Waseda University Japan
47 Chulalongkorn University Thailand
48 Indian Institute of Technology Kharagpur (IITKGP) India
49 Hong Kong Baptist University Hong Kong
50 Chiba University Japan
51 University of Indonesia Indonesia
52 National Chiao Tung University Taiwan
53 Universiti Kebangsaan Malaysia (UKM) Malaysia
54 Universiti Sains Malaysia (USM) Malaysia
55 Sogang University Korea, South
56 Indian Institute of Technology Roorkee (IITR) India
57 Universiti Putra Malaysia -UPM Malaysia
58 Osaka City University Japan
59 Heriot-watt University United Kingdom
60 National Central University Taiwan
61 Kyungpook National University Korea, South
62 National Taiwan University of Science And Technology (formerly National Taiwan Institute of Technology) Taiwan
63 University of the Philippines Philippines
64 Beijing Normal University China
65 Ateneo de Manila University Philippines
66 Pusan National University Korea, South
67 Chiang Mai University Thailand
68 Tongji University China
69 Kumamoto University Japan
70 National Sun Yat-sen University Taiwan
71 Nagasaki University Japan
72 Xi'an Jiaotong University China
73 Nankai University China
74 Tokyo Metropolitan University Japan
75 Tianjin University China
76 Universiti Teknologi Malaysia (UTM) Malaysia
77 Kanazawa University Japan
78 University of Delhi India
79 Okayama University Japan
80 Universitas Gadjah Mada Indonesia
81 Yokohama National University Japan
82 Indian Institute of Technology Guwahati (IITG) India
83 Tokyo Medical and Dental University Japan
84 National University of Sciences And Technology (NUST) Islamabad Pakistan
85 Thammasat University Thailand
86 Sun Yat-sen University China
87 Airlangga University Indonesia
88 Inha University Korea, South
89 The Catholic University of Korea
90 Taipei Medical University Taiwan
91 Chang Gung University Taiwan
92 Yokohama City University Japan
93 Chung-Ang University Korea, South
94 Gifu University Japan
95 Prince of Songkla University Thailand
96 Shandong University China
97 Chonnam National University Korea, South
98 Bandung Institute of Technology (ITB) Indonesia
99 National Chung Hsing University Taiwan
100 Gunma University Japan
101 Southeast University China
102 Chonbuk National University Korea, South
103 Ajou University
104 University of Santo Tomas Philippines
105 National Taiwan Normal University Taiwan
106 University of Ulsan
107 De La Salle University Philippines
108 Tokyo University of Agriculture and Technology Japan
109 Niigata University Japan
110 Jilin University China
111 Hankuk (Korea) University of Foreign Studies
112 Wuhan University China
113 Chungnam National University Korea, South
114 Khon Kaen University Thailand
115 University of Calcutta India
116 Hallym University
117 Shinshu University Japan
118 Mie University Japan
119 Tokai University Japan
120 Kasetsart University Thailand
121 Ochanomizu University Japan
122 Osaka Prefecture University Japan
123 Harbin Institute of Technology China
124 University of Miyazaki Japan
125 Renmin (People’s) University of China China
126 Yamaguchi University Japan
127 National Chengchi University Taiwan
128 Padjadjaran University Indonesia
129 Saitama University Japan
130 Dongguk University
131 Kagoshima University Japan
132 Beijing Institute of Technology China
133 University of Seoul Korea, South
134 Kitasato University Japan
135 Bogor Agricultural University Indonesia
136 Konkuk University
137 Ritsumeikan University Japan
138 University of Karachi Pakistan
139 Huazhong University of Science and Technology China
140 Toyota Technological Institute Japan
141 Nara Women's University Japan
142 University of Pune India
143 Sophia University Japan
144 Shanghai University China
145 University of Mumbai India
146 Fu Jen Catholic University Taiwan
147 China Agricultural University China
148 East China Normal University China
149 Sichuan University China
150 Inje University
151 Lingnan University (Hong Kong) Hong Kong
152 Kyoto Institute of Technology Japan
153 Gyeongsang National University
154 East China University of Science and Technology China
155 Beihang University (former BUAA) China
156 Donghua University China
157 Diponegoro University Indonesia
158 University of Dhaka Bangladesh
159 Doshisha University Japan
160 Hirosaki University Japan
161 Chungbuk National University
162 Shizuoka University Japan
163 Beijing Foreign Studies University China
164 Dalian University of Technology China
165 Gakushuin University Japan
166 Lanzhou University China
167 Kyushu Institute of Technology Japan
168 Kochi University Japan
169 International Islamic University Malaysia (IIUM) Malaysia
170 Xiamen University China
171 University of Science and Technology Beijing China
172 Yamagata University Japan
173 Sookmyung Women's University
174 University of Lahore Pakistan
175 Kinki University (Kindai University) Japan
176 Beijing Jiaotong University China
177 National Chung Cheng University Taiwan
178 Central South University China
179 Aoyama Gakuin University Japan
180 Saga University Japan
181 University of Engineering & Technology (UET) Lahore Pakistan
182 Cheju National University
183 International Christian University Japan
184 Burapha University Thailand
185 Akita Prefectural University Japan
186 Sepuluh Nopember Institute of Technology Indonesia
187 Soonchunhyang University
188 Rikkyo University Japan
189 King Mongkut's University of Technology Thonburi Thailand
190 Nanjing Agricultural University China
191 Northeast Normal University China
192 Iwate University Japan
193 Kangnung National University
194 Universiti Malaysia Sarawak (UNIMAS) Malaysia
195 National University of Defense Technology China
196 Northwestern Polytechnical University China
197 Yeungnam University Korea, South
198 Dankook University
199 Hongik University
200 Shanghai Normal University
201 Sejong University
202 Kangwon National University
203 Beijing University of Chemical Technology China
204 Srinakharinwirot University Thailand
205 Hunan University China
206 Huazhong Normal University China
207 Soochow University China
208 Kyoto Women's University Japan
209 University of Colombo Sri Lanka
210 Soochow University China
211 Japan Women's University Japan
212 China Pharmaceutical University China
213 Beijing University of Technology China
214 Hannam University
215 China University of Petroleum China
216 Yuan Ze University Taiwan
217 Suranaree University of Technology Thailand
218 National Taiwan Ocean University Taiwan
219 Yuan Ze University Taiwan
220 University of Electronic Science and Technology of China China
221 National Taipei University of Technology Taiwan
222 Yamaguchi Prefectural University Japan
223 Walailak University Thailand
224 Yamaguchi Prefectural University Japan
225 Walailak University Thailand
226 HanDong Global University Korea, South
227 Beijing University of Posts and Telecommunications China
228 Pelita Harapan University Indonesia
229 University of Brawijaya Indonesia
230 Nihon University Japan
231 Future University Hakodate Japan
232 Dong-A University
233 Northeastern University (China) China
234 National Chi Nan University Taiwan
235 Changwon National University
236 Northeastern University (China) China
237 Osaka Kyoiku University Japan
238 Limkokwing University of Creative Technology Malaysia
239 Nanjing Normal University China
240 South China University of Technology China
241 Chuo University Japan
242 Nanjing University of Science and Technology China
243 Harbin Engineering University China
244 China University of Mining and Technology China
245 Kagawa Education Institute of Nutrition (Kagawa Nutrition Univesity) Japan
246 Kumoh National Institute of Technology
247 Nanjing University of Aeronautics and Astronautics China
248 PaiChai University Korea, South
249 Huazhong Agricultural University China
250 Ocean University of China China
251 Andong National University
252 Pukyong National University
253 National Dong Hwa University Taiwan
254 Udayana University Indonesia
255 Mukogawa Women's University Japan
256 Akita International University Japan
257 National Changhua University of Education Taiwan
258 Kwansei Gakuin University Japan
259 Soongsil University Korea, South
260 Keimyung University
261 Yanbian University China
262 Universiti Teknologi Petronas (Petronas) Malaysia
263 Kookmin University
264 China University of Geosciences China
265 Xidian University China
266 Sojo University Japan
267 KonYang University Korea, South
268 TaTung University Taiwan
269 Myongji University
270 Sahmyook University
271 Kyungwon University
272 Universiti Tenaga Nasional (UNITEN) Malaysia
273 University of Incheon
274 University of 17 Agustus 1945 Indonesia
275 Hunan Normal University China
276 Universiti Tun Hussein Onn University of Malaysia (UTHM) Malaysia
277 University of Southeastern Philippines Philippines
278 Kwangwoon University
279 Kogakuin University Japan
280 Fuzhou University China
281 Fuzhou University China
282 Sebelas Maret University Indonesia
283 Soochow University (Taiwan) Taiwan
284 Hosei University Japan
285 Yunnan University China
286 Hanseo University
287 Sun Moon University
288 Chongqing University China
289 Universiti Malaysia Terengganu (UMT) Malaysia
290 King Mongkut's University of Technology North Bangkok Thailand
291 North China Electric Power University China
292 Universiti Teknologi MARA - UiTM Malaysia
293 Shaanxi Normal University China
294 Anyang University
295 South China Normal University China
296 South China Normal University China
297 Kyungsung University Korea, South
298 Gunma Prefectural Women's University Japan
299 Youngsan University Korea, South
300 Kyungsung University Korea, South
301 Gunma Prefectural Women's University Japan
302 Youngsan University Korea, South
303 Vietnam National University, Hanoi Vietnam
304 Kyoto Sangyo University Japan
305 Shanghai University of Finance and Economics China
306 Xavier University Philippines
307 Guizhou University China
308 Inner Mongolia University China
309 Zhengzhou University China
310 Xinjiang University China
311 Tunghai University Taiwan
312 Meiji University Japan
313 Meiji University Japan
314 Can Tho University Vietnam
315 Kansai University Japan
316 Kunsan National University
317 Hansung University Seoul Korea, South
318 Communication University of China China
319 Jinan University (China) China
320 Northwest University (China) China
321 Northwest University (China) China
322 Naresuan University Thailand
323 SeoKyeong University Korea, South
324 SeoKyeong University Korea, South
325 Southwest Jiaotong University China
326 Dongseo University Korea, South
327 Central University of Finance and Economics China
328 Daejin University
329 National Kaohsiung Normal University Taiwan
330 Mokpo National University
331 Hohai University China
332 HeFei University of Technology China
333 Mokpo National University
334 Anhui University China
335 Dalian Maritime University China
336 Sangmyung University
337 Iwate Prefectural University Japan
338 Taiyuan University of Technology China
339 The Central University of Nationalities China
340 Taiyuan University of Technology China
341 Universiti Utara Malaysia (UUM) Malaysia
342 University of International Business and Economics China
343 Wuhan University of Technology China
344 Fukushima University Japan
345 Universiti Pendidikan Sultan Idris (UPSI) Malaysia
346 Central Mindanao University Philippines
347 Universiti Pendidikan Sultan Idris (UPSI) Malaysia
348 Central Mindanao University Philippines
349 Parahyangan Catholic University Indonesia
350 KongJu National University Korea, South
351 KongJu National University Korea, South
352 Beijing Forestry University China
353 Senshu University Japan
354 Universiti Tunku Abdul Rahman (UTAR) Malaysia
355 Seikei University Japan
356 Kanazawa Institute of Technology Japan
357 University of Suwon Korea, South
358 Liaoning University China
359 Fujian Normal University China
360 Ming Chuan University Taiwan
361 Shanghai International Studies University China
362 Jember University Indonesia
363 Bina Nusantara University (BINUS) Indonesia
364 Zhongnan University of Economics and Law China
365 Mapua Institute of Technology Philippines
366 Changan University China
367 Sanata Dharma University Indonesia
368 Universiti Kuala Lumpur (UniKL) Malaysia
369 Sriwijaya University Indonesia
370 Hansei University Korea, South
371 Southwest University of Finance and Economics China
372 Northeast Agricultural University China
373 Yogyakarta State University Indonesia
374 Adamson University Philippines
375 Nanzan University Japan
376 Saint Louis University Philippines
377 Saint Louis University Philippines
378 Kanagawa Institute of Technology Japan
379 Kangnam University
380 Padang State University Indonesia
381 Korea Nazarene University Korea, South
382 Tsuda College Japan
383 Otaru University of Commerce Japan
384 Kansai Gaidai University Japan
385 Atma Jaya Catholic University Jakarta Indonesia
386 Tokyo Kasei University Japan
387 Sichuan Agricultural University China
388 Northeast Forestry University China
389 Nanchang University China
390 Kobe College Japan
391 Maejo University Thailand
392 Tokyo Woman's Christian University Japan
393 Nakamura Gakuen University Japan
394 Universiti Tun Abdul Razak (UNITAR) Malaysia
395 Aichi University Japan
396 Ahmad Dahlan University Indonesia
397 State University of Malang Indonesia
398 Father Saturnino Urios College Philippines
399 Polytechnic University of the Philippines Philippines
400 Far East University Korea, South
401 University of Muhammadiyah Malang Indonesia
402 University of Da Nang Vietnam
403 Musashi University Japan
404 Bunkyo University Japan
405 University of Surabaya
406 Vietnam National University - Ho Chi Minh City (VNU-HCM) Vietnam
407 Seinan Gakuin University Japan
408 Soegijapranata Catholic University Indonesia
409 Hong Kong Shue Yan University Hong Kong
410 Loei Rajabhat University Thailand
411 Nakhon Ratchasima Rajabhat University Thailand

::2012 Best Asian Universities - Ranking
::2012 Best Asian Universities - Ranking

มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในมาเลเซีย Top Malaysian Universities 2011

มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในมาเลเซีย Top Malaysian Universities 2011


เผอิญ เพิ่งไปปีนังมา และเพิ่งพบว่า Universiti Sains Malaysia (University of Sciences Malaysia) เป็น 2011 Best University เพิ่งได้ top rank ปีล่าสุด

::มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในมาเลเซีย Top Malaysian Universities 2011
(ไม่รู้ที่มาของข้อมูล ร่อนในเฟสบุ๊คของคนมาเลเซีย do not know from what source/agency)

Tuesday, March 13, 2012

แฉสถิติข่าวละเมิดทางเพศในรอบปีพุ่ง!

แฉสถิติข่าวละเมิดทางเพศในรอบปีพุ่ง!

มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เผยสถิติข่าวละเมิดทางเพศในรอบปีพุ่ง กว่า 70 % เป็นกรณีข่มขืน สลด!! ถูกกระทำอายุน้อยสุด 5 เดือน

ที่โรงแรมเฟิร์ส กรุงเทพฯ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดสัมมนาหัวข้อ “สถานการณ์การล่วงละเมิดทางเพศปี 2554” โดย น.ส.นิตยา พิริยะพงษ์พันธ์ หัวหน้าฝ่ายรณรงค์และเผยแพร่ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เปิดเผยว่า สถิติความรุนแรงทางเพศนับวันยิ่งมีแนวโน้มน่าเป็นห่วง เห็นได้ที่มูลนิธิฯ เก็บตัวอย่างข่าวความรุนแรงในครอบครัว จากหนังสือพิมพ์ ปี 2554 จำนวน 5 ฉบับ คือ ไทยรัฐ เดลินิวส์ มติชน ข่าวสด และคมชัดลึก พบว่า มีข่าวถูกละเมิดทางเพศ ทั้งหมด 158 ข่าว แบ่งเป็น การข่มขืน 112 ข่าว คิดเป็น 70.9% รองลงมาคือข่าวรุมโทรม 17 ข่าว คิดเป็น 10.8 % ข่าวพยายามข่มขืน จำนวน 14 ข่าว คิดเป็น 8.8 % ข่าวอนาจาร 12 ข่าว คิดเป็น 7.6 % และ ข่าวพรากผู้เยาว์ 3 ข่าว คิดเป็น 1.9 %

ทั้งนี้จากสถิติข่าวทั้งหมด มีการละเมิดทางเพศของคนในครอบครัว 11.4 % เช่น พ่อ พ่อเลี้ยง ตา พี่ชาย ยกตัวอย่างกรณี พี่ชายแท้ ๆ 3 คน ข่มขืนน้องสาวอายุ 12 ปี อย่างต่อเนื่อง โดยละเมิดทางเพศตั้งแต่น้องสาวอายุได้ 9 ปี นอกจากนี้ยังพบว่า 38.6 % มีความสัมพันธ์เป็นคนรู้จัก เช่น เพื่อนบ้าน ข้างห้องเช่าหรือห้องพัก เพื่อน ครู/อาจารย์กับลูกศิษย์ พระภิกษุ เป็นต้น

ส่วนอีก 1 ใน 3 เป็นคนแปลกหน้า หรือไม่รู้จัก เช่น กลุ่มปล้นทรัพย์ แก๊งค์วัยรุ่น ส่วนใหญ่ผู้ถูกกระทำอายุเพียง 11-15 ปี รองลงมา 16-20 ปี และอายุมากที่สุด คือ 89 ปี ช่วงอายุของผู้กระทำ 16-20 ปี รองลงมา 26-30 ปี และน้อยสุดคือเด็กชายอายุ 13 ปี ข่มขืนและฆ่าเด็กผู้หญิงอายุ 9 ขวบ ส่วนอายุของผู้กระทำที่มากที่สุด คือ 76 ปี ซึ่งรายนี้เป็นพระสงฆ์ที่ข่มขืนลูกตนเอง

"ที่น่าตกใจว่า คือ ผู้ถูกกระทำเป็นเด็กอายุน้อยสุดเพียง 5 เดือนเท่านั้น นอกจากนี้ยังพบปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการละเมิดทางเพศ คือ 39.4 % มาจากการดื่มสุรา อย่างไรก็ตามเมื่อวิเคราะห์ถึงข่าวการละเมิดทางเพศเมื่อเทียบกับปี 2553 ที่มี 168 ข่าว ซึ่งมีจำนวนมากกว่าเล็กน้อย ทั้งๆ ที่ผ่านมาเกิดวิกฤตน้ำท่วมตลอด 2 เดือนหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ต่างนำเสนอข่าวน้ำท่วม จนไม่มีพื้นที่ของข่าวความรุนแรงทางเพศ ทั้งที่คดีความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแทบทุกวัน ดังนั้น แนวโน้มความรุนแรงก็ไม่ได้ลดลง” น.ส.นิตยา กล่าว

ด้านน.ส.อัญชนา สุวรรณานนท์ ประธานกลุ่มอัญจารีเพื่อสิทธิหญิงรักหญิง กล่าวว่า พฤติกรรมการใช้ความรุนแรงไม่ได้มีเฉพาะในกลุ่มหญิงชายเท่านั้น แต่ในกลุ่มหลากหลายทางเพศนับวันจะถูกกระทำมากขึ้นเช่นกัน เช่นข่าวกรณีพ่อข่มขืนลูกเพราะอ้างว่าลูกไปคบหากับทอม จึงต้องสั่งสอน กรณีชายข่มขืนทอมโดยอ้างว่าให้กลับใจเป็นหญิง หรือแม้แต่ลวงทอมไปฆ่า เพราะมาจีบลูกสาว กระเทยถูกข่มขืนขณะไปเรียน ร.ด. ซึ่งบางกรณีผู้ที่กระทำ ไม่ได้มีพฤติกรรมเป็นเกย์เสมอไป แต่คิดแค่ว่าถ้ารังแกได้ก็จะทำ หรือการกล่าวหาว่ากระเทยทุกคนต้องการผู้ชายจึงต้องลงมือกระทำ

ดังนั้น ข่าวฆาตกรรม ถูกละเมิดทางเพศ ของกลุ่มหลากหลายทางเพศจึงมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสังคมยังมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะไม่เข้าใจ ไม่ยอมรับ ทำให้คนกลุ่มนี้ต้องเผชิญกับความรุนแรง แก้ปัญหาด้วยตัวเอง

น.ส.อัญชนา กล่าวอีกว่า ขณะนี้เรายังขาดกลไกหรือองค์กรที่รับผิดชอบคนกลุ่มนี้ ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือโดยตรง ดังนั้นหากรัฐบาลมีศูนย์ที่คอยให้บริการรับปรึกษาอยู่แล้ว ก็ควรทำให้ครอบคลุมเข้าถึงได้ทุกกลุ่ม แต่ขณะเดียวกันในข้อกฎหมายตอนนี้ก็ได้มีการผลักดันให้เอื้อต่อการปกป้องสิทธิ์ของกลุ่มหลากหลายทางเพศมากขึ้น โดยเมื่อปี 2550 ได้มีการแก้กฎหมายอาญา มาตรา 276 จากที่เขียนว่า การข่มขืนกระทำชำเราหมายถึงการที่อวัยวะเพศชายสอดใส่อวัยวะเพศหญิงที่ไม่ใช่เป็นภรรยาตน โดยยกคำว่า “ที่ไม่ใช่เป็นภรรยาตน” ออก หลังจากเปลี่ยนแปลงกฎหมายฉบับนี้แล้ว จะสามารถคุ้มครองผู้หญิงทุกคน และเพศอื่นๆ ด้วย เพราะการกระทำทางปาก ทางทวารหนัก หรือแม้แต่ใช้อุปกรณ์ต่างๆ ต้องถือเป็นการข่มขืนด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้ผู้ที่ถูกกระทำสามารถใช้กฎหมายนี้เพื่อฟ้องร้องได้

ขณะที่ นางสาวอรุณศรี มีวงค์ธรรม ทนายความมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า การใช้ความรุนแรงมีแนวโน้มเพิ่งสูงขึ้นเฉลี่ย 20-30 % ต่อปี เห็นได้จากผู้หญิงเข้ามาขอรับคำปรึกษามากกว่า 20 ราย ต่อเดือน ทั้งนี้ข้ออ่อนของกฎหมายมักจะให้สิทธิคุ้มครองผู้กระทำมากกว่าผู้เสียหาย เช่น ก่อนจับกุมต้องแจ้งสิทธิ กว่าจะนำตัวมาดำเนินคดีต้องมีขั้นตอนยาวนานมาก บางครั้งพนักงานสอบสวนก็ใช้คำถามจนผู้ถูกกระทำอาย ไม่กล้าแจ้งความต่อ เช่น คุณสมยอมหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ปัญหาความรุนแรงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ซับซ้อน ประกอบกับอัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ จึงเป็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งแก้ปัญหา เร่งสร้างความรู้ ความเข้าใจต่อทัศนคติที่เหมาะสมให้แก่เจ้าหน้าที่และประชาชน

ที่มา: แฉสถิติข่าวละเมิดทางเพศในรอบปีพุ่ง! โพสต์ พับลิชชิง (posttoday online) วันอังคารที่ 13 มีนาคม 2555

ฝรั่งจัดกทม.อันดับ61เมืองมีศักยภาพทางศก.โลก

ฝรั่งจัดกทม.อันดับ61เมืองมีศักยภาพทางศก.โลก

"อิโคโนมิสต์"จัดอันดับ 120 เมืองที่มีขีดความสามารถทางเศรษฐกิจ-น่าอยู่อาศัยที่สุดทั่วโลก กทม.ได้อันดับ61 นิวยอร์คเบอร์1 ตามด้วย ลอนดอน

สำนักข่าว บลูมเบิรกส์ รายงานเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ว่า หน่วยวิจัยของ เดอะ อิโคโนมิสต์ (อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนท์ ยูนิต) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ นิตยสารเดอะอิโคโนมิสต์ เปิดเผยผลการจัดอันดับ 120 เมือง ที่มีศักยภาพทางการแข่งขันทางเศรษฐกิจและน่าอยู่อาศัยมากที่สุดของโลก ประจำปี 2555

ทั้งนี้ผลการจัดอันดับระบุว่า กรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย อยู่ในอันดับที่ 61 ของโลก โดยได้คะแนนที่ 49 คะแนน ขณะที่ เมืองที่ได้รับคะแนนสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 นั้นจากการจัดอันดับครั้งนี้คือ เมืองนิวยอร์ค (สหรัฐอเมริกา) โดยได้คะแนนที่ 71.4

ส่วนเมืองที่ได้อันดับรองลงมาได้แก่ เมือง 2.ลอนดอน (อังกฤษ) ( 70.4 คะแนน) 3.สิงคโปร์ (70คะแนน) 4.ฮ่องกง กับ ปารีส (ฝรั่งเศส) (ได้69.3คะแนนเท่ากัน) 5.โตเกียว(ญี่ปุ่น) (68คะแนน) 39.ปักกิ่ง(จีน) (56คะแนน) 45.กัวลาลัมเปอร์ (มาเลเซีย) (55คะแนน) 81.จารการ์ตา(อินโดนีเซีย) (44.1คะแนน) ส่วนเมืองที่อยู่ในลำดับท้ายๆของการจัดอันดับได้แก่ 109.โฮจิมนห์ (เวียดนาม) (36.5คะแนน) 115.ไนโรบี(เคนยา) (34.6คะแนน) 120.เตหะราน (อิหร่าน) (27.2คะแนน)

การจัดอันดับดังกล่าว ทาง เดอะอิโคโนมิสต์ ได้ใช้หลักเกณฑ์หลายอย่างมาใช้เป็นตัวชี้วัดในการให้คะแนน อาทิ ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ทุนทรัพยากรมนุษย์ ความน่าเชื่อถือของภาคการเงิน การมีระบบสถาบันการเมืองและเศรษฐกิจที่น่าเชื่อถือและมีเสถียรภาพ สภาพแวดล้อมทางสังคม มลภาวะ และ มนต์เสน่ห์ที่น่าดึงดูดของเมืองนั้นๆ เป็นต้น

นอกจากนี้ อิโคโนมิสต์ ให้เหตุผลการจัดอันดับในครั้งนี้ว่า 120 เมืองเหล่านี้ มีความสำคัญต่อพลวัตรความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจของโลกเป็นอย่างมาก เนื่องจาก เป็นที่อยู่อาศัยของประชากรโลกกว่า 750 ล้านคน และมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม(จีดีพี)ทั้งหมดที่ 20.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นอัตราส่วน 29% ของจีดีพีโลก นอกจากนั้ นยังเป็นที่อยู่อาศัยและเป็นที่อยู่อาศัยของแรงงานที่มีทักษะสูง และสถาบันการเงินชั้นนำหลายแห่ง

ที่มา: โพสต์ พับลิชชิง (posttoday online) วันอังคารที่ 13 มีนาคม 2555

Monday, March 12, 2012

นักแสดงหนุ่มหอแต๋วแตก ซิ่งรถเสียหลักชนป้ายปั๊มน้ำมันดับ

นักแสดงหนุ่มหอแต๋วแตก ซิ่งรถเสียหลักชนป้ายปั๊มน้ำมันดับ

ปทุมธานี-นักแสดงภาพยนต์เรื่องหอแต๋วแตกและเป็น พิธีกรรายการ Teen UpDate เจ้าของฉายา "หล่อไม่หล่อไม่เกี่ยว แต่ผมกวนทีนที่สุด" นัท-ธนัทชัย นารถติกร รถเสียหลักชนป้ายปั้มน้ำมันดับ

จากเหตุการณ์รถเก๋งชิ่งชนป้ายบอกราคาน้ำมันปั้มเอ็นจีวีเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.ต.ชุมพล ทรงงาม ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งชนป้ายบอกราคาปั๊มเอ็นจีวี ของบริษัท ปตท.จำกัดหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ถนนบางขันธ์-เชียงราก ม.8 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายธนัทชัย นารถติกร อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต คณะเศรษฐ์ศาสตร์ ปี 3 ติดอยู่ในซากรถ เจ้าหน้าที่กู้ชีพบัวเพชรนำตัวส่ง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนนายไพศาล ประเสริฐแท่น อายุ 25 ปี พนักงานเติมแก๊สปั๊มเอ็นจีวี กล่าวว่าเห็นรถเก๋งคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วสูงคันเดียวกระทั่งถึงทางลงสะพานข้ามทางรถไฟเชียงราก ซึ่งเป็นทางเบี่ยงแยกเข้าทางคู่ขนานเพื่อจะเข้า ม.ธรรมศาสตร์รังสิต รถยนต์เก๋งวีออสคันเกิดเหตุเกิดเสียหลักชนเกาะกลางถนนพลิกคว่ำหลายตลบแล้วหมุนไปชนป้ายบอกราคา LPG ในปั๊มปตท. ตนจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยมาช่วยเหลือคนขับรถที่ถูกอัดติดกับซากรถดังกล่าว

ส่วนทางเพื่อนผู้ตายขอสงวนชื่อนามสกุล เป็นนักศึกษาสถาบันเดียวกันให้การว่าก่อนเกิดเหตุนายธนัทชัย นารถติกร หรือนัท เดินทางไปเที่ยวสถานบันเทิงชื่อผับสละโสดพร้อมกับเพื่อนๆกว่า 10 คนและมีการดื่มกินกันเล็กน้อยแต่นายธนัทชัย ไม่ได้เมากินแค่จิบๆ จากนั้นกลับออกมาตอนตี 3 เศษ เพื่อนผู้ตาย ให้การว่า นายธนัทชัย ขับรถยนต์เก๋งคันเกิดเหตุมาคนเดียวเพื่อจะกลับหอพักซันต้าอยู่ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัย กระทั่งมาทราบอีกทีว่ารถได้เสียหลัก

สำหรับประวัตินายธนัทชัยนารถติกร หรือนัท ผู้เสียชีวิตเป็นดารานักแสดงและเป็นนายแบบวัยทีนชื่อดังล่าสุดแสดงภาพยนต์เรื่องหอแต๋วแตกและเป็น พิธีกรรายการ Teen UpDate เจ้าของฉายา "หล่อไม่หล่อไม่เกี่ยว แต่ผมกวนทีนที่สุด"เป็นลูกชายเจ้าของร้านทองที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดราชบุรี เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของทีม มธ.รังสิตเคยติดทีมเยาวชนทีมชาติเมื่อสมัยเรียนมัธยมกระทั่งมาเรียนต่อระดับมหาลัยก็ได้ใช้โควตานักกีฬาเข้าเรียนใน มธ.เป็นคนนิสัยดีเรียนเก่ง

ที่มา: บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด 10 มีนาคม 2555

ฎีกายืนจำคุก “กำนันเป๊าะ – ส.ท.เหี่ยว” คนละ 25 ปี คดีจ้างวานฆ่ากำนันยูร

ฎีกายืนจำคุก “กำนันเป๊าะ – ส.ท.เหี่ยว” คนละ 25 ปี คดีจ้างวานฆ่ากำนันยูร ระบุพยานโจทก์ทั้งหมดเบิกความสอดคล้องต้องกันในสาระสำคัญ มีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองทำผิดตามฟ้อง

ที่ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญา เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (12 มี.ค.) ศาลนั่งบังลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีหมายเลขดำ อ.1988/2546 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ ฟ้องนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ อายุ 73 ปี อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี และนายภาสกร หอมหวล หรือ ส.ท.เหี่ยว อายุ 44 ปี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองแสนสุข ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดด้วยการใช้ จ้างวาน ให้ฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยวันนี้ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาลับหลังจำเลย เนื่องจากจำเลยทั้งสองมีพฤติกรรมหลบหนีไม่ไปศาลเพื่อฟังคำพิพากษาศาลฎีกามาแล้วหลายครั้ง กระทั่งศาลอาญามีคำสั่งให้ออกหมายจับจำเลยทั้งสอง

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า ระหว่าง ต.ค. 45-9 มี.ค.46 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันใช้จ้างวานให้ นายธนาวุฒิ หรือติ เกิดเกียรติกุล กับพวกในราคา 3 ล้านบาท ให้วางแผนจัดการสังหารนายประยูร สิทธิโชติ หรือกำนันยูร อดีตกำนันต.ท่าเสม็ด จ.ชลบุรี โดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน โดยนายธนาวุฒิ กับพวก ตกลงรับงานฆ่านายประยูร จากนั้นนายธนาวุฒิ ได้วางแผนดักฆ่านายประยูร หลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ต่อมาวันที่ 9 มี.ค.46 นายประยูร ถูกคนร้ายที่ยังไม่ปรากฏชัดว่าเป็นใครยิงเสียชีวิตในงานแต่งงานที่ร้านไพรเวชค้าวัสดุ หลังจากนั้นวันที่ 17 และ 24 เม.ย.46 จำเลยที่ 1 -2 ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน พร้อมให้การปฏิเสธ เหตุเกิดที่ ต.แสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี

คดีนี้ศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.47 ให้จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 25ปี โดยให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษคดีแดงที่ 843/48 ของศาลจังหวัดชลบุรี คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินสาธารณะ ต.เขาไม้แก้ว จ.ชลบุรี เพื่อสร้างบ่อกำจัดขยะอีก 5 ปี 4 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 30 ปี 4 เดือน ต่อมาจำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง อ้างว่าไม่ได้กระทำผิดตามฟ้องและไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองกับผู้ตายมาก่อน อีกทั้งกลุ่มมือปืนซึ่งเป็นพยานโจทก์ ยังถูกตำรวจกองปราบปรามซ้อมเพื่อให้การปรับปรำจำเลยที่ 1 เนื่องจาก พล.ต.ต.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบช.ก. ต้องการสร้างชื่อเสียง เพื่อให้ได้รับแต่งตั้งเป็น ผบช.ก. ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ต.ค.48 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาเห็นว่า พยานโจทก์ทั้งสามปาก คือ นายธนาวุฒิ นายพสิษฐ์ หรือคิด แตงตุ้มรุ่งโรจน์ และนายธนาพล หรือเจี๊ยบ บุญศรีอุทัย เบิกความสอดคล้องต้องกันในสาระสำคัญ ทั้งวันเวลา สถานที่ และบุคคลที่เกี่ยวพัน เริ่มตั้งแต่เหตุการณ์ที่ นายธนาวุฒิและนายธนาพล ได้รับการติดต่อจากจำเลยที่ 1 ให้ไปฆ่านายประยูร เนื่องจากจำเลยที่ 1ไม่พอใจเรื่องที่ พ.ต.ท.ไชยันต์ วิชัยดิษฐ์ ลูกน้องคนสนิทถูกนายเลิศชาย บุตรชายของนายประยุทธ น้องชายนายประยูร ที่ถูก พ.ต.ท.ไชยันต์อุ้มฆ่ามายิงแก้แค้น ซึ่งจำเลยที่ 1 เกรงว่านายประยูร กับนายเลิศชาย จะจ้างคนมายิงเอาคืน จึงว่าจ้างนายธนาวุฒิ กับพวกเป็นเงิน 3 ล้านบาท ชิงวางแผนฆ่าผู้ตายเสียก่อน ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ต.ค.45 ในงานพิธีเปิดอู่ซ่อมรถของนาย พสิษฐ์ ครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ย.45 ขณะนายประยูร พร้อมคณะเดินทางไปทอดกฐินที่จ.สระบุรี ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.45 ในงานปีใหม่ที่ต.เสม็ด โดยนายธนาวุฒิ ติดต่อให้ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา และ ส.อ.สมชาย บุนนาค เป็นผู้ลงมือ และครั้งที่ 4 วันที่ 16 ม.ค.46 ที่มหาวิทยาลัยบูรพา ทั้งนี้การวางแผนฆ่านายประยูร ทั้ง 4 ครั้งไม่สำเร็จ เนื่องจากนายประยูร ระมัดระวังตัว

กระทั่งเมื่อวันที่ 9 มี.ค.46 นายธนาวุฒิกับพวกเตรียมวางแผนฆ่านายประยูร อีกครั้งในงานแต่งงานที่ร้านไพรเวชค้าวัสดุ แต่ปรากฏว่าคนใกล้ชิดจำเลยที่ 1 แจ้งว่า จำเลยที่ 1 สั่งระงับแผนฆ่าเนื่องจากมีข่าวรั่วไหล ทั้งนี้บันทึกคำให้การของนายธนาวุฒิและนายพสิษฐ์ ปรากฏว่าเคยให้การไว้หลายครั้ง และยืนยันมาตลอดว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้ใช้จ้างวานฆ่าผู้ตาย รายละเอียดส่วนใหญ่ตรงกับคำเบิกความในชั้นศาล ประกอบกับพยานทั้งสองยังได้นำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ รายละเอียดดังกล่าวเป็นความลับรู้กันเฉพาะพยานทั้งสองเท่านั้น อีกทั้งโจทก์ยังได้นำ จ.ส.อ.ปัญญา และ ส.อ.สมชาย มาเบิกความสนับสนุน ทำให้คำเบิกความของพยานทั้งสองมีน้ำหนักมากขึ้น เห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ดังกล่าวมีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองทำผิดตามฟ้อง ที่ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย พิพากษายืนโดยศาลมีคำสั่งให้ออกหมายจำคุกจำเลยทั้งสอง และออกหมายจับจำเลยทั้งสองมารับโทษตามคำพิพากษาศาลฎีกา

Thursday, March 8, 2012

“โซลาร์ฟาร์ม” พลังงานทางเลือกสีเขียว

ผลของความเจริญทางเศรษฐกิจและการขยายตัวของชุมชนเมือง ส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยมีอัตราเพิ่มขึ้นทุกปี ในขณะที่การผลิตไฟฟ้าจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ฯลฯ ซึ่งในอนาคตสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นทรัพยากรที่สิ้นเปลืองและเริ่มขาดแคลนในอนาคต การใช้พลังงานทางเลือกและพลังงานทดแทนจึงเป็นหนทางหนึ่งที่จะทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงไม่ขาดแคลนไฟฟ้าใช้ในอนาคต

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนด้านพลังงาน ซึ่ง บริษัท เอสพีซีจี จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์ม หรือ ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ได้รับใบอนุญาตจากภาครัฐ ก็ได้ดำเนินการเปิด โครงการโซลาร์ ฟาร์ม ของบริษัท โซลาร์ เพาเวอร์(เลย1) จำกัด ที่ ต.หนองหญ้าปล้อง อ.วังสะพุง จ.เลย ซึ่งเป็นโซล่าฟาร์มแห่งที่ 5 จาก ทั้งหมด 34 โครงการ โดยมีนายณรงค์ศักดิ์ กำมเลศ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นประธานในพีธี

นายณรงค์ศักดิ์ กำมเลศ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโนบายส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในการผลิตกระแสไฟฟ้า และเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) ซึ่งพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ถือเป็นพลังงานที่สะอาด ช่วยลดการพึ่งพิงการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ และช่วยลดมลพิษและลดโลกร้อน ซึ่งทางบริษัท เอสพีซีจี จำกัด(มหาชน) ถือเป็นเอกชนรายแรก ๆ ที่บุกเบิกการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์มาผลิตไฟฟ้าเพื่อเชิงพาณิชย์

น.ส.วันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการโซลาร์ฟาร์ม เป็นการใช้พลังงานทดแทนที่ไม่มีมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีการใช้เชื้อเพลิง จุดสำคัญคือ เป็นการลงทุนครั้งเดียว หลังจากนั้นเพียงแค่ดูแลบำรุงรักษาระบบเท่านั้น โดยโครงการโซลาร์ เพาเวอร์ (เลย1) ใช้งบประมาณลงทุนประมาณ 630 ล้านบาท บนเนื้อที่ 100 ไร่ มีกำลังการผลิตไฟฟ้า ประมาณ 7 เมกะวัตต์ รองรับการใช้ไฟฟ้าของบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ได้ประมาณ 2 หมื่นหลังคาเรือนต่อปี และได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แล้วเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ปีที่แล้ว

“โครงการโซลาร์ฟาร์ม ต้องใช้เงินลงทุนในครั้งแรกสูงเพื่อซื้ออุปกรณ์ที่คิดเป็นเงินลงทุนเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ส่วนอีก 25% เป็นการปรับภูมิทัศน์ สภาพแวดล้อม ก่อสร้างอาคาร ถนน และอีก 5% เป็นค่าที่ดิน อย่างไรก็ตามอุปกรณ์แผงโซลาร์เซลล์ที่ใช้เป็นของญี่ปุ่นมีอายุการใช้งานนานถึง 40-50 ปี ส่วนอุปกรณ์อินเวสเตอร์ใช้ของเยอรมันอายุการใช้งาน 25 ปี ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะถึงจุดคุ้มทุนในระยะเวลา 7 ปี”

น.ส.วันดี กล่าวต่อว่า นอกจากเรื่องเงินลงทุนที่สูงข้อจำกัดอีกอย่างของโซลาร์ฟาร์ม คือ เรื่องฤดูกาล ซึ่งหากเป็นช่วงหน้าฝน และหน้าหนาวอาจมีแสงน้อยกว่าหน้าร้อน แต่โดยรวมจะดูค่าเฉลี่ยทั้งปี อีกอย่างคือเรื่องน้ำท่วม เรื่องที่ตั้งของโครงการจึงเป็นสิ่งสำคัญ บริษัทจึงได้ทำการสำรวจเลือกสถานที่ตั้งทั้ง 34 โครงการในพื้นที่ภาคอีสาน ที่มีพื้นที่สูงความเสี่ยงเรื่องน้ำท่วมน้อย และสภาพอากาศมีแสงอาทิตย์ตลอดทั้งปี โดยคาดว่าบริษัทจะก่อสร้างโครงการโซลาร์ฟาร์มเสร็จทั้ง 34 โครงการช่วงกลางปี 2556 มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมประมาณ 240 เมกะวัตต์

“การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกอื่น ๆ เช่น พลังงานลมยังไม่เหมาะสมกับประเทศไทย เพราะพื้นที่ที่มีกำลังลมที่แรงเพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ป่าเขาสูงการเข้าไปก่อสร้างกังหันลมต้องเข้าไปในพื้นที่ป่าส่งผลรบกวนสัตว์ป่า และเข้าไปทำการซ่อมแซมดูแลรักษายาก ส่วนไฟฟ้าจากพลังงานน้ำแม้จะมีต้นทุนที่ถูกที่สุด แต่ก็ต้องใช้เงินสร้างเขื่อน ส่งผลกระทบป่าไม้ สัตว์ป่าและประชาชนในพื้นที่ ส่วนไฟฟ้าจากโรงงานนิวเคลียร์ในประเทศไทยคงเกิดขึ้นได้ยากหลังเกิดเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ญี่ปุ่น พลังงานแสงอาทิตย์จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ซึ่งไทยก็เป็นเมืองร้อนมีแสงแดดตลอดทั้งปี ส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น โซลาร์เซลล์เมื่อหมดอายุการใช้งาน สามารถนำไปรีไซเคิลได้หมดด้วย” น.ส.วันดี กล่าว

ด้านนายจิราคม ปทุมานนท์ กรรมการ และผู้ออกแบบโครงการโซลาร์ฟาร์ม บริษัท เอสพีซีจี จำกัด(มหาชน) กล่าว ว่า ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็นระบบผลิตไฟฟ้าที่ดีที่สุดในโลกในปัจจุบันนี้ แต่ก็มีราคาแพงมากด้วยเช่นกัน โดยโซลาร์เซลล์ 1 กลุ่ม ประกอบด้วยแผงโซลาร์เซลล์ 18 แผง ผลิตไฟฟ้าได้ 3,700 วัตต์ การติดตั้งต้องทำมุมเฉียงไปทางใต้ 15 องศา ซึ่งเป็นมุมที่คำนวณจากละติจูดที่ตั้งของประเทศไทยว่าเป็นมุมที่โซลาร์เซลล์จะได้รับแสงอาทิตย์ดีที่สุด หากเป็นประเทศอื่น ๆ มุมติดตั้งก็จะแตกต่างกันไป ช่วงเวลาเที่ยงพระอาทิตย์ตรงศีรษะจะเป็นช่วงที่เก็บพลังงานได้มากที่สุด ส่วนการดูแลรักษาเพียงใช้น้ำล้างฝุ่นจากแผงโซลาร์เซลล์เท่านั้นเพราะมีผลต่อการรับแสงอาทิตย์

“เมื่อแสงอาทิตย์ส่องลงแผงโซลาร์เซลล์จะมีการเก็บพลังงานทันทีจากนั้นจะส่งไปยังตัวอินเวสเตอร์เพื่อแปลงไฟจากกระแสตรงเป็นกระแสสลับที่ใช้ตามบ้านจากนั้นกระแสไฟจะเดินตามท่อเคเบิลใต้ดินเข้าสู่ตู้ที่มีหน้าที่เหมือนคัตเอาต์เปิดปิดไฟเพื่อป้อนเข้าหม้อแปลงไฟให้ได้ขนาด 230 โวลต์ ก่อนที่จะจ่ายกระแสไฟเข้าสู่ระบบจำหน่ายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค”

นับเป็นการผลิตไฟฟ้าที่เป็นพลังงานทางเลือกสีเขียว เพียงแต่ในตอนนี้การลงทุนยังคงต้องใช้เม็ดเงินสูง แต่หากในอนาคตราคาโซลาร์เซลล์ถูกลง การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ก็คงเป็นสิ่งที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง.

จิราวัฒน์ จารุพันธ์
JirawatJ @ dailynews.co.th

ที่มา: “โซลาร์ฟาร์ม” พลังงานทางเลือกสีเขียว เดลินิวส์ออนไลน์ วันพุธที่ 7 มีนาคม 2555

สจล.ตั้งเป้าติด1ใน10มหาวิทยาลัยอาเซียน

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สจล.ตั้งเป้าปี 2020 ติด 1 ใน10 มหาวิทยาลัยอาเซียน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมคุยใครมาบริหารงานต่อต้องสานงานนี้ เพราะเป็นวิสัยของสถาบัน และมั่นใจบัณฑิตแข่งขันอาเซียนได้

วันจันทร์ที่ 5 มี.ค.2555 รศ.ดร.กิตติ ตีรเศรษฐ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาสถาบัน ฯได้เห็นชอบ ที่กำหนดวิสัยทัศน์และตั้งเป้าหมายที่จะเป็นสถาบันอุดมศึกษา 1ใน 10 ของสถาบันอุดมศึกษาของอาเซียน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายในปี 2020 ดังนั้นไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้บริหารจะต้องดำเนินการตามวิสัยทัศน์นี้ และบุคลากรของ สจล.รับทราบเป้าหมายนี้แล้วว่าจะเดินไปให้ถึงเป้าหมายภายใน 8 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ สจล.ยังมีจุดยืนที่จะเป็นสถาบันอุดมศึกษาเฉพาะทางที่ผลิตบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วย ส่วนการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปี 2015 สจล. จะปรับหลักสูตรต่างๆ ให้เข้าเกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพระดับชาติ หรือทีคิวเอฟ ของ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ซึ่งตนมั่นใจว่า คุณภาพของบัณฑิตด้านวิชาการของ สจล. สามารถแข่งขันกับประเทศในอาเซียนและนานาชาติได้แน่นอน เห็นได้จากบัณฑิตสจล. จะได้รับคัดเลือกเข้าทำงานในบริษัทของต่างชาติ จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

รศ.ดร.กิตติ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการ เตรียมตัวของบัณฑิต สจล. เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน คือ ความสามารถด้านการสื่อสาร โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ดังนั้นในช่วง 3-4 ปี ก่อนเข้าประชาคมอาเซียน ทางสถาบันคงต้องรับภาระหนักในการเติมความสามารถด้านนี้ให้กับบัณฑิต แต่ตนคิดว่าการเพิ่มความสามารถทางด้านภาษาของเด็กไทย นั้นคงจะไม่ใช่ภาระของสถาบันอุดมศึกษาเท่านั้น แต่กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)จะต้องเป็นผู้ดำเนินการ โดยการเตรียมตัวให้กับเด็กตั้งแต่ระดับประถมศึกษา เนื่องจากขณะนี้เราปล่อยให้เด็กได้เรียนภาษาตามความสนใจ ขณะที่บางประเทศในกลุ่มอาเซียน ได้กำหนดให้เด็กเรียนรู้ภาษาที่สอง และสาม ตั้งแต่ระดบประถมศึกษา

ที่มา: สจล.ตั้งเป้าติด 1 ใน 10 มหาวิทยาลัยอาเซียน เดลินิวส์ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม 2555

มรสส.ตั้งกรรมการสอบอาจารย์ละเมิดสิทธิ์นักศึกษา

อธิการบดี มรสส. เผยนักศึกษาส่งหนังสือ ยืนยันถูกตัดเกรดไม่ยุติธรรมจริง เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ส่วนนักศึกษาร้องเรียนอ้างไม่ได้ต้องการทำลายชื่อเสียงสถาบัน แค่อยากให้สังคมรับรู้เรื่องนี้เกิดขึ้น

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2555 นี้ รศ.ดร.ช่วงโชติ พันธุเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา(มรสส.) เปิดเผยว่า จากกรณีนักศึกษาคณะครุศาสตร์ ชั้นปีที่ 5 มรสส. ร้องเรียนต่อเครือข่ายเพื่อการพิทักษ์สิทธินิสิตนักศึกษาถูกละเมิดสิทธิ์เรื่องอาจารย์ให้เกรดไม่ยุติธรรม โดยตัดเกรดตามความสวยของนักศึกษา และบางครั้งมีพฤติกรรมลวนลามนักศึกษา นั้น ในวันนี้นักศึกษาที่เห็นว่าตนเองได้รับเกรดไม่เป็นธรรม ได้ส่งหนังสือมาถึงตนแล้ว โดยนักศึกษาแจ้งว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ผ่านมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่นักศึกษาเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 แต่ตนรับเรื่องไว้และจะให้คณบดี และผู้บริหารคณะครุศาสตร์ มาหารือเร็ว ๆนี้ พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงต่อไป และยืนยันว่า คนทำผิดผมไม่เอาไว้แน่นอน ส่วนเรื่องการลวนลามนักศึกษานั้นยังไม่มีการร้องเรียนเข้ามา ดังนั้นตนอยากให้นักศึกษามาพบกับตน เพื่อจะได้แจ้งด้วยวาจาก็ได้ เพราะที่ผ่านมาอธิการบดีก็พบกับนักศึกษาเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ไม่เคยมีนักศึกษาร้องเรียนเรื่องลักษณะดังกล่าว แต่เมื่อมีข่าวออกมาตนไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะ มรสส. เป็นวิทยาลัยครูเก่าที่มีชื่อเสียง จะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นเป็นอันขาด

รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า ตนขอย้ำให้นิสิตนักศึกษาตระหนักในสิทธิของตนเอง ไม่เพียงเรื่องการถูกละเมิดหรือลวนลามทางเพศ แต่ให้ตระหนักถึงสิทธิของการเรียนด้วย เช่น กรณีมหาวิทยาลัยโฆษณาว่าจะมีอาจารย์ชื่อดังมาสอน แต่เมื่อเรียนแล้วอาจารย์คนนั้นไม่ได้มาสอน หรือเรียนแล้วไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ให้นิสิตนักศึกษาออกมาพิทักษ์สิทธิของตนเองด้วย

ด้านนักศึกษา มรสส.ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมการให้เกรด กล่าวว่า การที่ตนอออกมาเรียนร้อง เพราะอยากให้สังคมรู้ว่าความไม่เป็นธรรมเช่นนี้มีอยู่จริง ไม่ได้ต้องการทำลายชื่อเสียงของสถาบัน เพราะสถาบันของตนๆก็รัก และตนคิดว่าเรื่องแบบนี้มีอยู่ทุกสถาบัน เพียงแต่ไม่มีใครกล้าหรือกลัว ว่าที่จะเกิดปัญหาตามมาทีหลัง และตนอยากให้กรณีนี้เป็นตัวอย่าง ให้ทุกคนได้รับรู้ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาอีก

ที่มา: มรสส.ตั้งกรรมการสอบอาจารย์ละเมิดสิทธิ์นักศึกษา เดลินิวส์ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2555

เร่งหาหลักฐานเครือข่ายค้ายาแก้หวัดชงเป็นคดีพิเศษ

ดีเอสไอเร่งหาหลักฐานเครือข่ายค้ายาแก้หวัด ก่อนชงคดีพิเศษ เผยเตรียมขยายผลอีกหลายรพ. รวมถึงบริษัทผู้ผลิตสอบหาความเชื่อมโยงขบวนการค้ายา

วันที่ 8 มี.ค.2555 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีพบการลักลอบนำยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของซู โดอีเฟรดีนซึ่งเป็นสารตั้งต้นผลิตยาบ้าและยาไอซ์ออกจาก รพ. ของรัฐหลายแห่งว่า ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบเชิงลึกร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และองค์การอาหารและยา (อย.)เกี่ยวกับฐานข้อมูลการผลิตและเส้นทางการกระจายยาไปยังรพ.แต่ละแห่ง จำนวนเท่าใดบ้าง จะได้ติดตามว่ายาถูกนำออกไปนอกระบบมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจากการตรวจสอบรพ. 2 แห่ง คือรพ.ศูนย์อุดรธานี และรพ.ทองแสนขันธ์ จ.อุตรดิตถ์ พบว่ามีการลักลอบนำยาออกจากระบบจริงและเชื่อว่ายังมี รพ.อีกหลายแห่ง ที่มีพฤติกรรมลักษณะเดียวกัน แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่นอนได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขและดีเอสไออยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบไปยังเป้าหมาย อีกหลายรพ. ทั้งนี้หากมีข้อมูลว่ามีการกระทำความผิดในลักษณะเป็นเครือข่ายชัดเจน ดีเอสไอจะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพื่อมีมติรับเป็นคดีพิเศษต่อไป โดยกรณีดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายความผิด 2 ข้อหา คือฐานครอบครองและใช้ยาควบคุมโดยผิดกฎหมายและความผิดฐานผลิตยาเสพติด เนื่องจากมีการนำยาไปผลิตเป็นยาเสพติด

นายธาริต กล่าวต่อว่า เบื้องต้นมีข้อมูลน่าเชื่อว่ายาแก้หวัดที่ลักลอบนำออกจากระบบถูกนำไปสารตั้ง ต้นในการผลิตยาบ้าและยาไอซ์ เนื่องจากยาแก้หวัด 1 เม็ดสามารถนำไปผลิตเป็นยาบ้า 3 เม็ด ซึ่งมีแหล่งผลิตยาเสพติดหลายแห่งใช้ยาที่มีส่วนประกอบของซูโดอีเฟรดีนในการ ผลิตยาเสพติดจริง โดยการลักลอบนำไปยาแก้หวัดออกไปมี 2 ช่องทางคือ การลักลอบออกจากระบบของโรงพยาบาลและการลักลอบเข้ามานอกระบบโดยผ่านด่านตรวจ ค้นทั้ง ทางท่าอากาศยานและตามแนวชายแดน อย่างไรก็ตาม นอกจากการตรวจสอบโรงพยาบาลต่างๆ แล้วดีเอสไอยังมีเป้าหมายที่จะขยายผลสอบไปยังบริษัทผลิตยาโดยประสานกับ อย.ที่มีฐานข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว

ที่มา: เร่งหาหลักฐานเครือข่ายค้ายาแก้หวัดชงเป็นคดีพิเศษ เดลินิวส์ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2555

ฎีกาสั่งจ่าย 9.85ล้าน นศ.เอแบคตกรถเมล์ 207 ดับ

ศาลฎีกา สั่ง โชเฟอร์ตีนผี -จำเลยร่วม จ่าย 9.85 ล้าน ให้ญาตินศ.เอแบค ตกรถเมล์เสียชีวิต พ่อเหยื่อแนะกรมขนส่งควรยกเลิกใบขับขี่ขับรถชนคนตาย

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2555 ที่ห้องพิจารณา 613 ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีนายนำ และนางลักษณา โชติมนัส บิดา-มารดาน.ส.ปิยะธิดา หรือน้องฮุ่ย นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะบริหารการเงินระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) เสียชีวิตจากการพลัดตกจากรถร่วมประจำทาง สาย 207 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทวิม แสงเดช พนักงานขับรถประจำทางสาย 207, นายธนะสิทธิ์ วรโชติหิรัญศิริ ในฐานะนายจ้าง, นายฤกษ์ชัย เรืองกิตติยศยิ่ง เจ้าของรถ, บริษัท 207 เดินรถ จำกัด, นายเชาวน์ กระแสร์ชล ผู้ได้รับสัมปทานเดินรถ และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป็นจำเลยที่ 1-6 เรื่องละเมิด เรียกค่าสินไหมทดแทนจำนวน 12,081,211 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 14 ก.ย.47 นายทวิมขับรถประมาทด้วยความเร็วทำให้ น.ส.ปิยะธิดาพลัดตกจากรถบริเวณแยกลำสาลี ศีรษะกระแทกพื้นอย่างรุนแรง และเสียชีวิตในที่สุด

คดีนี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 1, 2, 4, 5 และ 6 ร่วมกันจ่ายค่าสินไหมทดแทนคืนแก่โจทก์ 10,747,000 บาท และยกฟ้องจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 2 , 4 และ 6 ยื่นฎีกาว่าค่าเสียหายสูงเกินความจริง

ทั้งนี้ ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2547 ขณะนายทวิม ขับรถเมล์สาย 207 จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก ไปมหาวิทยาลัยรามคำแหงบางนา โดยไม่ปิดประตูอัตโนมัติทำให้ น.ส.ปิยะธิดาถูกแรงเหวี่ยงพลัดตกจากรถเมล์ บาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดที่แยกลำสาลี กทม. โจทก์ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนจากค่ารักษาพยาบาล ค่าปลงศพ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ค่าขาดไร้อุปการะ เป็นเวลา 20 ปี โดยก่อนหน้านี้บริษัทประกันภัยได้จ่ายเงินแก่โจทก์ตามสัญญาประกันภัยแล้ว 750, 000 บาท

ปัญหาต้องวินิจฉัยว่า เหตุเกิดจากความประมาทของผู้ตายหรือไม่ เห็นว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับคดีอาญา จำต้องวินิจฉัยควบคู่กัน จำเลยที่ 1 รับสารภาพในคดีอาญาว่าขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต คดีแพ่งจึงจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงส่วนอาญารับฟังว่าจำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาท และเป็นผู้ควบคุมเครื่องยนต์โดยสาร ต้องรับผิดชอบเครื่องยนต์ เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัยและเกิดจากความประมาทของผู้ตายเอง จำเลยที่ 2 และ 4 ให้การว่า ผู้ตายประมาทเนื่องจากไม่จับราวบันได ส่วนจำเลยที่ 6 ให้การอีกว่า ผู้ตายได้กระโดดลงจากรถเอง คำให้การของจำเลยที่ 2 ,4 และ 6 ยังไม่ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย เมื่อประตูรถเมล์เป็นสิ่งป้องกันมิให้เกิดอันตราย ขณะรถวิ่งประตูต้องปิด หากประตูเสียก็ต้องซ่อม แต่กลับไม่ดำเนินการซ่อม การที่ประตูเสียจึงไม่ใช่เหตุสุดวิสัย แต่เป็นความประมาทของจำเลยที่1 และจำเลยอื่นๆ ทุกคน

ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าค่าสินไหมสูงเกินความจริง เห็นว่า โจทก์ส่งผู้ตายเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนจนถึงระดับชั้นปีที่ 4 มีค่าใช้จ่ายสูงกว่ามหาวิทยาลัยรัฐบาล ดังนั้น ค่าใช้จ่ายจึงเหมาะสม ส่วนค่าขาดไร้อุปการะ ศาลนับเวลา 20 ปี เป็นเวลาไม่นาน แต่ที่กำหนดรายได้อนาคต 46,000 บาทต่อเดือนสูงเกินไป เห็นควรกำหนด 40,000 ต่อเดือน รวมเป็นเงิน 9,600,000 บาท

พิพากษาว่า จำเลยที่1,2,4,5 และ 6 มีความผิดละเมิด จากการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จึงให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และค่ารักษาพยาบาล ค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปการะเป็นเวลา 20 ปี รวมทั้งสิ้น 9,856,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันละเมิด และให้ออกหมายบังคับคดี คำบังคับคดี ไปยึดทรัพย์จำเลยมาชำระหนี้แก่โจทก์ต่อไป

ด้านนายนำ บิดาผู้ตาย กล่าวว่า ที่ผ่านมาก็สู้มาตลอด และยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียบุตรสาว เชื่อว่าคำพิพากษาของศาลวันนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้ผู้ประกอบการและคนขับรถมีความรับผิดชอบชีวิตคนอื่นมากขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้มักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีรายได้น้อย ทั้งนี้ ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก ที่กำกับดูแลอนุมัติใบขับขี่ น่าจะมีมาตรการกับคนขับรถที่ประมาทจนเป็นเหตุให้มีคนตาย โดยพิจารณายกเลิกใบขับขี่ และห้ามกลับมาขับรถอีกโดยเฉพาะขับรถนักเรียน

ที่มา: ฎีกาสั่งจ่าย9.85ล้าน นศ.เอแบคตกรถเมล์207ดับ เดลินิวส์ออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2555