Monday, March 12, 2012

ฎีกายืนจำคุก “กำนันเป๊าะ – ส.ท.เหี่ยว” คนละ 25 ปี คดีจ้างวานฆ่ากำนันยูร

ฎีกายืนจำคุก “กำนันเป๊าะ – ส.ท.เหี่ยว” คนละ 25 ปี คดีจ้างวานฆ่ากำนันยูร ระบุพยานโจทก์ทั้งหมดเบิกความสอดคล้องต้องกันในสาระสำคัญ มีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองทำผิดตามฟ้อง

ที่ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญา เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (12 มี.ค.) ศาลนั่งบังลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีหมายเลขดำ อ.1988/2546 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ ฟ้องนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ อายุ 73 ปี อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี และนายภาสกร หอมหวล หรือ ส.ท.เหี่ยว อายุ 44 ปี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองแสนสุข ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดด้วยการใช้ จ้างวาน ให้ฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยวันนี้ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาลับหลังจำเลย เนื่องจากจำเลยทั้งสองมีพฤติกรรมหลบหนีไม่ไปศาลเพื่อฟังคำพิพากษาศาลฎีกามาแล้วหลายครั้ง กระทั่งศาลอาญามีคำสั่งให้ออกหมายจับจำเลยทั้งสอง

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า ระหว่าง ต.ค. 45-9 มี.ค.46 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันใช้จ้างวานให้ นายธนาวุฒิ หรือติ เกิดเกียรติกุล กับพวกในราคา 3 ล้านบาท ให้วางแผนจัดการสังหารนายประยูร สิทธิโชติ หรือกำนันยูร อดีตกำนันต.ท่าเสม็ด จ.ชลบุรี โดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน โดยนายธนาวุฒิ กับพวก ตกลงรับงานฆ่านายประยูร จากนั้นนายธนาวุฒิ ได้วางแผนดักฆ่านายประยูร หลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ต่อมาวันที่ 9 มี.ค.46 นายประยูร ถูกคนร้ายที่ยังไม่ปรากฏชัดว่าเป็นใครยิงเสียชีวิตในงานแต่งงานที่ร้านไพรเวชค้าวัสดุ หลังจากนั้นวันที่ 17 และ 24 เม.ย.46 จำเลยที่ 1 -2 ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน พร้อมให้การปฏิเสธ เหตุเกิดที่ ต.แสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี

คดีนี้ศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.47 ให้จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 25ปี โดยให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษคดีแดงที่ 843/48 ของศาลจังหวัดชลบุรี คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินสาธารณะ ต.เขาไม้แก้ว จ.ชลบุรี เพื่อสร้างบ่อกำจัดขยะอีก 5 ปี 4 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 30 ปี 4 เดือน ต่อมาจำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง อ้างว่าไม่ได้กระทำผิดตามฟ้องและไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองกับผู้ตายมาก่อน อีกทั้งกลุ่มมือปืนซึ่งเป็นพยานโจทก์ ยังถูกตำรวจกองปราบปรามซ้อมเพื่อให้การปรับปรำจำเลยที่ 1 เนื่องจาก พล.ต.ต.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบช.ก. ต้องการสร้างชื่อเสียง เพื่อให้ได้รับแต่งตั้งเป็น ผบช.ก. ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ต.ค.48 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาเห็นว่า พยานโจทก์ทั้งสามปาก คือ นายธนาวุฒิ นายพสิษฐ์ หรือคิด แตงตุ้มรุ่งโรจน์ และนายธนาพล หรือเจี๊ยบ บุญศรีอุทัย เบิกความสอดคล้องต้องกันในสาระสำคัญ ทั้งวันเวลา สถานที่ และบุคคลที่เกี่ยวพัน เริ่มตั้งแต่เหตุการณ์ที่ นายธนาวุฒิและนายธนาพล ได้รับการติดต่อจากจำเลยที่ 1 ให้ไปฆ่านายประยูร เนื่องจากจำเลยที่ 1ไม่พอใจเรื่องที่ พ.ต.ท.ไชยันต์ วิชัยดิษฐ์ ลูกน้องคนสนิทถูกนายเลิศชาย บุตรชายของนายประยุทธ น้องชายนายประยูร ที่ถูก พ.ต.ท.ไชยันต์อุ้มฆ่ามายิงแก้แค้น ซึ่งจำเลยที่ 1 เกรงว่านายประยูร กับนายเลิศชาย จะจ้างคนมายิงเอาคืน จึงว่าจ้างนายธนาวุฒิ กับพวกเป็นเงิน 3 ล้านบาท ชิงวางแผนฆ่าผู้ตายเสียก่อน ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ต.ค.45 ในงานพิธีเปิดอู่ซ่อมรถของนาย พสิษฐ์ ครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ย.45 ขณะนายประยูร พร้อมคณะเดินทางไปทอดกฐินที่จ.สระบุรี ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.45 ในงานปีใหม่ที่ต.เสม็ด โดยนายธนาวุฒิ ติดต่อให้ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา และ ส.อ.สมชาย บุนนาค เป็นผู้ลงมือ และครั้งที่ 4 วันที่ 16 ม.ค.46 ที่มหาวิทยาลัยบูรพา ทั้งนี้การวางแผนฆ่านายประยูร ทั้ง 4 ครั้งไม่สำเร็จ เนื่องจากนายประยูร ระมัดระวังตัว

กระทั่งเมื่อวันที่ 9 มี.ค.46 นายธนาวุฒิกับพวกเตรียมวางแผนฆ่านายประยูร อีกครั้งในงานแต่งงานที่ร้านไพรเวชค้าวัสดุ แต่ปรากฏว่าคนใกล้ชิดจำเลยที่ 1 แจ้งว่า จำเลยที่ 1 สั่งระงับแผนฆ่าเนื่องจากมีข่าวรั่วไหล ทั้งนี้บันทึกคำให้การของนายธนาวุฒิและนายพสิษฐ์ ปรากฏว่าเคยให้การไว้หลายครั้ง และยืนยันมาตลอดว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้ใช้จ้างวานฆ่าผู้ตาย รายละเอียดส่วนใหญ่ตรงกับคำเบิกความในชั้นศาล ประกอบกับพยานทั้งสองยังได้นำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ รายละเอียดดังกล่าวเป็นความลับรู้กันเฉพาะพยานทั้งสองเท่านั้น อีกทั้งโจทก์ยังได้นำ จ.ส.อ.ปัญญา และ ส.อ.สมชาย มาเบิกความสนับสนุน ทำให้คำเบิกความของพยานทั้งสองมีน้ำหนักมากขึ้น เห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ดังกล่าวมีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองทำผิดตามฟ้อง ที่ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย พิพากษายืนโดยศาลมีคำสั่งให้ออกหมายจำคุกจำเลยทั้งสอง และออกหมายจับจำเลยทั้งสองมารับโทษตามคำพิพากษาศาลฎีกา

No comments:

Post a Comment