Sunday, August 9, 2009

ฟ้าทะลายโจร (Fha-Ta-Lai-Jorn Thai-Chinese Traditional Flu Herbal)

หลังพบกันว่ามีการใช้เพื่อป้องกันหวัดมายาวนานในประเทศจีน โดยใช้เมื่อมีอาการไข้หวัด เนื่องจากช่วยลดการแบ่งตัวของไวรัส ทำให้ต้านไวรัสได้ดี...

คราวที่แล้วนำข้อมูลการ ใช้ฟ้าทะลายโจรแบบ ดั้งเดิมมาฝากกันนั่นคือ ปลูกเป็นสมุนไพรประจำบ้านไว้เด็ดใบแล้วนำมาต้มหรือชงไล่หวัด สัปดาห์นี้มาไขข้อข้องใจในเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับการใช้สมุนไพรตัวนี้กัน

ฟ้า ทะลายโจร เป็นยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ มีข้อบ่งใช้บรรเทาอาการของโรคหวัด (Common cold) เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ น้ำมูกไหล และบรรเทาอาการท้องเสียไม่ติดเชื้ออาจ มีผู้สงสัยว่าฟ้าทะลายโจรมีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใดในการใช้เพื่อ รักษา อาการเนื่องจากหวัด คำตอบ คือมีการทดสอบความเป็นพิษที่ครบถ้วนทั้ง 3 ระยะ กล่าวคือ พิษเฉียบพลัน พิษกึ่งเรื้อรังและพิษเรื้อรัง พบว่าฟ้าทะลายโจรมีความปลอดภัยในการรับประทานในระยะยาว

ถามว่า ควรใช้เมื่อใด คำตอบ ควรใช้เมื่อ มีอาการของหวัดอาการใดอาการหนึ่ง เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือมีน้ำมูก โดยอาการเจ็บคอรับประทานครั้งละ 3-6 กรัม วันละ 4 ครั้ง ส่วนการบรรเทาอาการหวัดให้รับประทานครั้งละ 1.5-3 กรัมวันละ 4 ครั้ง โดยแนะนำให้รับประทานติดต่อกันไม่เกิน 7 วัน หากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์

แล้วฟ้าทะลายโจรออก ฤทธิ์อย่าง ไรในการต้านหวัด คำตอบคือมีกลไกการออกฤทธิ์ 3 กลไกกล่าวคือ มีฤทธิ์ลดไข้ ต้านการอักเสบ และลดอาการจากหวัด มีฤทธิ์ลดการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสและทำให้ความสามารถของเชื้อไวรัสในการเกาะ ติดกับผนังเซลล์ลดลง จึงทำให้เชื้อไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้ยากขึ้น และสุดท้าย ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้มีร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ดีขึ้น

แล้วฟ้าทะลายโจร ป้องกันการเกิดหวัดได้หรือไม่ คำตอบมีว่ามีการใช้ป้องกันหวัดมาอย่างยาวนานในประเทศจีน และมีรายงานวิจัยว่าฟ้าทะลายโจรช่วย กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ทั้งแบบจำเพาะ คือ การสร้างแอนตี้บอดี้ (Antibody) เพื่อต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย และภูมิคุ้มกันแบบไม่เฉพาะเจาะจง คือ การกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวชนิดแมคโคฟาจ (Macrophage) ให้จับกินเชื้อโรคได้ดีขึ้น

ความรู้ในการใช้ฟ้าทะลายโจร จากศูนย์ข้อมูลสมุนไพร 0-3721-1289 โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ต.ท่างาม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี 25000

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2552
www.thairath.co.th/content/tech/23379

==================
ฟ้าทะลายโจร (2)

คราวก่อน ได้คุยกันถึงข้อบ่งใช้ของฟ้าทะลายโจร ว่าใช้บรรเทาอาการไข้หวัด และ มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ดีขึ้น สัปดาห์นี้มาว่ากันต่อถึงรายละเอียดที่น่าสนใจอื่นๆเกี่ยวกับการใช้สมุนไพร ตัวนี้

บางคนสงสัยว่ามีข้อห้ามหรือข้อควรระวังในการใช้ฟ้าทะลายโจรอย่างไรบ้าง ศูนย์ข้อมูลสมุนไพร รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร บอกว่า ห้ามใช้ในสตรีตั้งครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากมีการศึกษาในหนูทดลองพบว่าน้ำต้มฟ้าทะลายโจรมีผลทำให้หนูแท้งได้ และห้ามใช้ในการบรรเทาอาการไข้หรือเจ็บคอจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus group A ซึ่งมีอาการรุนแรง ซึ่งการติดเชื้อแบคทีเรียกลุ่มนี้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา เช่น ไข้รูห์มาติค โรคหัวใจรูห์มาติคและไตอักเสบ
ส่วนคำถามที่ว่ารับประทานฟ้าทะลายโจร ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือทำให้โลหิตจางจริงหรือไม่

คำ ตอบคือตามทฤษฎีการ แพทย์แผนไทยและแผนจีนจัดฟ้า-ทะลายโจรเป็นยารสเย็น หมายถึง เมื่อรับประทานฟ้าทะลายโจรแล้วทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง จึงใช้เป“นยาลดไข้ ซึ่งเมื่อรับประทานยาเย็นติดต่อกันนานๆ (แต่นานเท่าใด ในทางการแพทย์ไม่สามารถระบุได้เนื่องจากขึ้นกับธาตุพื้นฐานของร่างกาย ถ้าร่างกายมีความเย็นมากก็อาจเกิดได้เร็ว แต่ถ้าร่างกายมีความร้อนสะสมมากก็อาจจะเกิดช้า) อาจทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ แขนขาชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือความเข้มข้นของเลือดลดลง
อาการต่างๆ เหล่านี้สามารถกลับมาสู่ปกติได้เมื่อหยุดยา ซึ่งจาก รายงานการวิจัยต่างๆของฟ้าทะลายโจรก็ไม่พบผลข้างเคียงดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคขอแนะนำให้รับประทานฟ้าทะลายโจรดังนี้

เพื่อ การ ป้องกันหวัด ให้รับประทานเพียงวันละ 1-2 แคปซูลเท่านั้น และติดต่อกันไม่นานเกิน 3 เดือน เพื่อ บรรเทาอาการเจ็บคอ รับประทานครั้งละ 3-6 กรัม วันละ 4 ครั้ง ส่วนการบรรเทาอาการหวัดให้รับประทานครั้งละ 1.5-3 กรัม วันละ 4 ครั้ง โดยรับประทานติดต่อกันไม่เกิน 7 วัน

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ.2552
http://www.thairath.co.th/content/tech/24921

=============================

ข้อแนะนำสำหรับการกินฟ้าทะลายโจร สามารถกินได้ทั้งใบสดสด โดยล้่างน้ำให้สะอาด หรือ นำใบมาตากแห้ง หรือผึ่งลม ก็ได้ กินครั้งละ 5-10 ใบ โดยนำมีดมาซอยสับให้ละเอียดที่สุด เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้ดีที่สุด แล้วจึงกินพร้อมน้ำตามทันทีเพราะขมมาก ๆ

ข้อสังเกตุ หากท่านกินฟ้าทะลายโจร แล้ว มีดบาดเลือดออก ถ้าท่านชิมเลือดนั้น ก็จะมีรสขม แสดงว่า ฟ้าทะลายโจรแสดงอิทธิฤทธิ์ ไม่ต้องตกใจแต่ประการใด

=============================
กำราบหวัดร้ายด้วยฟ้าทะลายโจร

ฟ้าทะลายโจรเป็นยาที่มีความหมายในตัวเองไม่น้อย เพราะแม้แต่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ฟ้าประทานมาให้ปราบโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ซึ่งเปรียบเสมือนเหล่าโจรร้าย ส่วนในภาษาจีนกลาง ยาตัวนี้มีชื่อว่า "ชวนซิเหลียน" แปลว่า "ดอกบัวอยู่ในหัวใจ" ซึ่งมีความหมายสูงส่งมาก วงการแพทย์จีนได้ยกฟ้าทะลายโจรขึ้น ทำเนียบ เป็นยาตำราหลวงที่มีสรรพคุณโดดเด่นมากตัวหนึ่ง ที่สำคัญคือสามารถใช้เป็นยาเดี่ยวเพียงตัวเดียวก็มีฤทธิ์แรงพอที่จะรักษาโรค ได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากในสมุนไพรตัวอื่น ชื่ออื่นๆ ของฟ้าทะลายโจรได้แก่ หญ้ากันงู (สงขลา) น้ำลายพังพอน ฟ้าสาง (พนัสนิคม) เขยตายยายคลุม สามสิบดี (ร้อยเอ็ด) เมฆทะลาย (ยะลา) ฟ้าสะท้าน (พัทลุง)

ความปลอดภัย
ฟ้าทะลายโจรมีการทดสอบความเป็นพิษที่ครบถ้วนทั้ง 3 ระยะ ได้แก่ พิษเฉียบพลัน พิษกึ่งเรื้อรัง และพิษเรื้อรัง พบว่าฟ้าทะลายโจรมีความปลอดภัยในการรับประทานในระยะยาว ข้อควรรู้เกี่ยวกับตำรับยา สารแอนโดรกราโฟไลด์ (andrographolide) สารในต้นฟ้าทะลายโจร ละลายในแอลกอฮอร์ได้ดีมาก ละลายในน้ำได้น้อย ดังนั้นยาทิงเจอร์ หรือยาดองเหล้าฟ้าทะลายโจร จึงมีฤทธิ์แรงที่สุด ยาชงมีฤทธิ์แรงรองลงมา ยาเม็ดมีฤทธิ์อ่อนที่สุด

ตามทฤษฏีการแพทย์แผนไทย และแผนจีนจัดฟ้าทะลายโจรเป็นยารสเย็น หมายถึง เมื่อรับประทานฟ้าทะลายโจรแล้ว ทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง จึงนำมาใช้เป็นยาลดไข้ ซึ่งเมื่อรับประทานยาเย็นติดต่อกันนานๆ แต่นานเท่าใด ในทางการแพทย์ไม่สามารถระบุได้เนื่องจากขึ้นกับธาตุพื้นฐานของร่างกาย ถ้าร่างกายมีความเย็นมากก็อาจเกิดได้เร็ว แต่ถ้าร่างกายมีความร้อนสะสมมากก็อาจจะเกิดช้า) ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ แขนขาชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือความเข้มข้นของเลือดลดลง อาการต่างๆ เหล่านี้สามารถกลับมาสู่ปกติได้เมื่อหยุดรับประทานยารสเย็น ซึ่งจากรายงานการวิจัยต่างๆ ของฟ้าทะลายโจรก็ไม่พบผลข้างเคียงดังกล่าว

ข้อบ่งใช้
ฟ้าทะลายโจรควรใช้เมื่อมีอาการของหวัดอาการ ใดอาการหนึ่ง เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือมีน้ำมูก โดยอาการเจ็บคอรับประทานครั้งละ 3-6 กรัมวันละ 4 ครั้ง ส่วนการบรรเทาอาการหวัดให้รับประทานครั้งละ 1.5-3 กรัมวันละ 4 ครั้ง โดยแนะนำให้รับประทานติดต่อกันไม่เกิน 7 วัน หากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์

สรรพคุณ

* ระงับอาการอักเสบ หลอดลมอักเสบ ขับเสมหะ
* รักษาอาการปวดท้อง ท้องเสีย บิด และกระเพาะลำไส้อักเสบ
* เป็นยาขมเจริญอาหาร

ข้อห้ามใช้
-ใน ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อ Streptococcus group A ซึ่งการติดเชื้อแบคทีเรียกลุ่มนี้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา เช่น ไข้รูห์มาติค โรคหัวใจรูห์มาติค และไตอักเสบ
-ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบเนื่องจากเคยติดเชื้อ Streptococcus group A
-ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจรูห์มาติค
-ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย และมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น

ข้อควรระวัง
-ฟ้าทะลายโจรอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเดิน ปวดเอว หรือวิงเวียนศีรษะ ใจสั่น ในผู้ป่วยบางราย หากมีอาการดังกล่าว ควรหยุดใช้ฟ้าทะลายโจร
-หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้แขนขามีอาการชาหรืออ่อนแรง
-หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วไม่หาย หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ยา ควรหยุดใช้ และไปพบแพทย์
-สตรีมีครรภ์ไม่ควรใช้ฟ้าทะลายโจร การที่ห้ามใช้ในสตรีตั้งครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากมีการศึกษาในหนูทดลองพบว่าน้ำต้มฟ้าทะลายโจรมีผลทำให้หนูแท้งได้

แม้ว่าฟ้าทะลายโจรจะมีประโยชน์ในการรักษาโรคอย่างกว้างขวาง และดูเหมือนจะมีพิษน้อย แต่เนื่องจากเป็นยาเย็นจัด การกินฟ้าทะลายโจรรักษาโรคนานๆ ติดต่อกันหลายปีอาจจะเกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น มีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย แขนขาไม่มีแรง เป็นต้น

ที่มา : ศูนย์ข้อมูลสุขภาพกรุงเทพ
http://www.bangkokhospital.com
http://www.bangkokhealth.com

ทีี่่มา: ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2552
http://www.thairath.co.th/content/life/22807

No comments:

Post a Comment