Tuesday, September 2, 2014

พ่อไม่ยอมแก่:: “พ่อคะ หนูขอโทษ”

พ่อไม่ยอมแก่

พ่ออายุเยอะกว่าฉัน 50 ปี พ่อมีฉันตอนที่อายุมากแล้ว วันที่ฉันเกิด พ่อเลี้ยงญาติพี่น้อง 10 โต๊ะ

ตอนที่ฉันอายุได้ 8 ขวบ พ่ออายุ 58 ปี หัดขี่มอเตอไซค์ แล้วตัดสินใจซื้อมอเตอร์ไซค์ 1 คัน เพื่อไปรับฉันจากการเรียนขิมหลังจากเลิกโรงเรียน ไม่งั้น ฉันคงต้องนอน 5 ทุ่มทุกวันเป็นแน่

ตอนที่ฉันอายุ 10 ขวบ พ่ออายุ 60 ปี

หลังจากเกษียณได้ 3 วัน พ่อก็ไปรับจ้างซ่อมรองเท้าที่ตลาด เพื่อนของพ่อต่างก็แปลกใจในสิ่งที่พ่อทำ
“แปะ เงินบำเหน็จไม่พอใช้เหรอ? อายุขนาดนี้แล้วจะมาซ่อมรองเท้าอีกทำไม?”
พ่อทำงานไปยิ้มไป

“ยังหนุ่มอยู่เลย อยู่บ้านเฉยๆ เดี๋ยวโรคภัยก็ถามหา” ฉันฟังอยู่ ก็รู้สึกสงสารพ่อจัง
ตอนที่ฉันเรียนมัธยมปลาย พ่อตัดสินใจเช่าบ้านใกล้ๆ โรงเรียน เลียนแบบพ่อแม่คนอื่นเพื่อมาคอยดูแลฉัน และพ่อก็ยังคงรับซ่อมรองเท้าเหมือนเดิม

ตอนที่ฉันไปเรียน พ่อทำกับข้าวอยู่ที่บ้าน ตอนที่ฉันเลิกเรียน พ่อก็เปิดแผงซ่อมรองเท้า ตอนเก็บร้าน ฉันเข้าไปช่วยพ่อ คุณน้าที่มาซ่อมรองเท้าพูดกับพ่อว่า

“หลานก็โตเป็นสาวแล้วนะ ลุงทำไมไม่อยู่บ้านให้ลูกๆ เลี้ยงละ มาซ่อมรองเท้าทำไหม?” ฉันได้ฟังก็รู้สึกโมโหมาก

“พ่อคะ วันหลังพ่อไม่ต้องซ่อมรองเท้าได้ไหม บ้านเราใช่ว่าจะลำบากอะไรนี่นา!”
พ่อนิ่งไปครูหนึ่ง สีหน้าไม่สบายใจนัก

“พ่อยังแข็งแรง ยังหาเงินได้อยู่ อยู่บ้านเฉยๆ ก็ไม่รู้จะทำอะไร” ตอนที่พ่อพูดกับฉันวันนั้น พ่ออายุ 68 ปีแล้ว
ตอนที่ฉันเรียนมหาวิทยาลัย ฉันต้องไปเรียนที่อื่น นานๆ ถึงกลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่
มีเพียงสิ่งเดียวที่พอจะทำให้เราพ่อลูกไม่ห่างกันเกินไปก็คือโทรศัพท์ พ่อมักจะบอกกับฉันเสมอว่า “อยากกินอยากได้อะไรก็ซื้อเลยนะลูก ไม่ต้องอดนะ พ่อยังไม่แก่ เลี้ยงลูกได้สบาย”
หลังจากเรียนจบแล้ว ฉันก็ได้งานทำที่ไกลจากบ้านมากขึ้น งานที่กดดันมาก ทำให้ฉันแทบไม่ได้โทรหาพ่อเลย แต่ทุกครั้งที่โทรไปหาพ่อ ก็มักจะได้ยินคำเดิมๆ
“พ่อสบายดี พ่อยังหนุ่มอยู่ หากงานหนักเกินไปก็กลับมาอยู่บ้านนะลูก พ่อเลี้ยงได้ ไม่ต้องห่วง”

ได้ยินพ่อพูดอย่างนี้ ฉันก็รู้สึกสบายใจหายห่วงทุกที แม้แต่ตอนแต่งงาน เงินที่ซื้อบ้านก็เป็นเงินของพ่อแม่ ตอนนั้น พ่ออายุ 80 แล้ว ฉันรู้ พ่อแก่ชรามากแล้ว
ฉันคิดว่าพ่อยังแข็งแรง พ่อไม่มีโรคภัยอะไรใดๆ จนถึงตอนที่แม่โทรมา ฉันถึงรู้ว่าพ่อปิดบังอะไรมากมายไม่ให้ฉันได้รู้

พ่อเส้นเลือดในสมองแตก พ่อเป็นความดันโลหิตสูง พ่อกินยามาเป็นเวลานาน แม่บอกว่า วันที่เกิดเหตุอากาศร้อนมาก เด็กหนุ่มๆ ยังทนไม่ไหว แล้วคนแก่อย่างพ่อจะทานทนได้ยังไง

พ่อนอนอยู่บนเตียง เบ้าตาลึก ผอมจนหนังหุ้มกระดูก ผมบนศีรษะขาวก็ไปหมด แต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว พ่อยังพูดกับฉันทางโทรศัพท์

“พ่อยังหนุ่มอยู่”

เมื่อเห็นฉัน ก็พยายามที่จะพูดกับฉันด้วยเสียงอับแหบพร่า “พ่อไม่กล้าแก่ เกรงว่าถ้าพ่อแก่แล้ว ลูกจะไม่มีพ่อให้ช่วยเหลือ ไม่มีพ่อให้รัก แต่พ่อก็แก่แล้วจริงๆ”
ที่แท้ หลายปีที่ผ่านมา พ่อพยายามบอกตัวเองว่ายังไม่แก่ เพื่อให้ตนเองรู้สึกว่ายังหนุ่มอยู่ หาเงินให้ฉันใช้จ่าย หาเงินให้ฉันเรียน ให้ความรักแก่ฉันอย่างไม่เคยขาดพร่อง

พ่อพยายามไม่ให้ฉันเป็นห่วง ว่าพ่อแก่ชราแล้ว
แต่ฉันนี่สิ เนรคุณไม่รู้ความ ฉันไม่รู้ว่าพ่อทำไมต้องลำบากตรากตรำ ทุกครั้งที่พ่อบอกฉันว่า “พ่อยังหนุ่มอยู่” ฉันแอบรู้สึกว่าพ่อไม่ยอมรับความจริง

มาถึงวันนี้ พ่อที่นอนอยู่บนเตียง แก่ชราดั่งไม้เก่าที่ผุกร่อน

“พ่อคะ หนูขอโทษ”

No comments:

Post a Comment