Thursday, May 5, 2011

ศึกน้ำลาย สนง.ตำรวจแห่งชาติกับ ปปท.

สังคมไทยนับวันมันเสื่อมถอย เพราะผู้รับผิดชอบไม่เข้าใจในบทบาทหน้าของตนเอง เมื่อหาทางออกไม่ได้ผลตามมาคือ แพะรับบาป ลงเอ๋ยด้วยการเปิดศึกสงครามน้ำลาย ขอถามว่า ชาวบ้านได้อะไรจากพวกคุณ กรณี สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปท.นำกำลังบุกจับ ร้านตู้เกมในห้างดังย่านรัชดา โดยอ้างว่าเป็นบ่อนการพนันออนไลน์ แต่ผลสุดท้าย ก็ตามมาด้วยปัญหาความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน จากกรณีอ้างไม่ได้รับความร่วมมือจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนต่อมา ฝ่ายตำรวจนั่งไม่ติด เปิดฉากโต้แหลก ถึงการทำงานของ ปปท. จากเรื่องการขอความร่วมมือประสานงาน สิ่งที่เกิดขึ้นมันแสดงออก คือ ต่างฝ่ายต่างไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน แล้วต่อไปข้างหน้า มันจะทำงานร่วมกันได้อย่างไร
เมื่อหน่วยงานราชการที่กินเงินภาษีประชาชน ยังเปิดศึกสาวไส้ให้กากิน ยำกันเอง คำถามที่ประชาชนเขาตั้งข้อสังเกต ว่า มันเกิดอะไรขึ้น ที่อยู่ๆถึงออกมาลุยแหลกจับ สถานบันเทิงผิดกฎหมาย บ่อนการพนัน อบายมุข แทนที่จะทำมานานแล้ว หรือ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยปะละเลย กันจนสังคมมันเสื่อม คำตอบนี้ คงหนีไม่พ้นนักการเมืองตัวดี ที่ใกล้หมดอำนาจ อาศัยช่วงจังหวะ สบโอกาสหรือฉวยโอกาสสร้างกระแส ก่อนหมดลมหายใจ ที่ผ่านมาบริหารงานล้มเหลว จึงสร้างกระแสจัดระเบียบสังคมหวังหาเสียงก่อนเลือกตั้ง ถ้าพวกคุณบริสุทธิ์ใจ หวังดีต่อบ้านเมือง ต่อสังคม เหตุใดถึงไม่ลงแขกลุยจับแต่เริ่ม ปล่อยกันมากนาน การที่อ้างเหตุผลต่างๆนานา ในขณะนี้คงไม่มีผล เพราะชาวบ้านเขากินข้าว ไม่ได้กินหญ้า เขารู้ใครทำใครไม่ทำ
ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุด ต่างฝ่ายต่างหันหน้าเข้าหากัน จับมือร่วมกันทำงานมากกว่า เปิดศึกโต้กันไปมา จนบ่อเกิดแห่งความขัดแย้งระหว่างหน่วยงาน ทำดีไม่ต้องกลัว ว่าชาวบ้านเขาไม่ชื่นชม ถ้าหน่วยงานพวกคุณทำงานด้วยจิตใจบริสุทธิ์ ไม่มีอะไรแอบแฝง แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความรักความสามัคคี ทำงานประสานร่วมกัน เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ที่ผ่านมา เราพยายามบอกชาวบ้านให้รักสามัคคีกัน รักใคร่กลมเกลียวกัน แต่พวกคุณประพฤติตนกลับกัน ในขณะที่ คุณตำรวจ เองก็ต้องเข้าใจด้วยว่า บ้างครั้งสังคมยังมีข้อกังขากับการทำงาน เราในฐานะผู้รักษากฎหมาย ก็ต้องแสดงให้เห็นถึง ความเป็นมืออาชีพไม่ลูบหน้าปะจมูก ล่าสุด ชาวบ้านซอยเพชรบุรี 39 เขาร้องเรียนมาว่ายัง มีสถานบันเทิงผิดกฎหมาย ที่อยู่ในซอยแอบเปิดเกินเวลา ไม่เกรงกลัวใครจับ ขณะที่เขาไล่จับกันยกใหญ่ เปิดกันถึงตี4 ตี5 มีสีกากีไปนั่งเฝ้าระวัง กลัวคนอื่นมาจับ แล้วอย่างนี้ มันหมายความว่าอย่างไร
เรื่องนี้คงต้องฝากไปยัง สน.ท้องที่ ที่รับผิดชอบ อย่าปิดตาข้างเดียว เพียงเกรงกลัว ว่า สถานบันเทิงดังกล่าวเส้นใหญ่ มีคนคุมดี มีเส้นสายในเส้นสายนอก ถ้าหมูยังไม่กลัวน้ำร้อน คงต้องให้ “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัย จินดา ผบช.น. ช่วยตรวจสอบ อย่าปล่อยให้ลูกน้องแหกตานาย เดียวหน่วยนอกเขามาบุกจับ เดียวหน้าแหกหมอไม่รับเย็บ ในขณะที่คนอื่นๆเขากำลังอยู่ในกรอบอยู่ในระเบียบ แต่มีบ้างโรงพักแหกกฎ มันจะทำให้หน่วยงานเสื่อม ไฟมันกำลังแรงอย่าไปโหมให้มันเผาพล่านมากขึ้น ถึงเวลาอด ก็ต้องอดอย่างเสือ ถึงเวลากิน ก็ต้องกินไม่มูมมาม อย่าเห็นแก่ได้ อย่าเห็นแก่กิน เดียวความย่อยยับมันจะตามมา ก็คงต้องฝากให้ผู้รับผิดชอบช่วยสร้างสังคมให้มันดี แล้วสิ่งดีๆมันจะเกิดในสังคมไทย

กูรูสีกากี

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์ วันศุกร์ ที่ 06 พฤษภาคม 2554

No comments:

Post a Comment