การสร้างเนื้อเยื่อของผิวหนังในผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุจากสารเคมี  ไฟไหม้ หรือความร้อน จนทำให้เกิดการหลุดลอกของผิวหนัง  ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ  แนวทางการรักษาปกติแพทย์จะนำผิวหนังส่วนดีของผู้ป่วยมาปิดบาดแผลเพื่อช่วย ให้การซ่อมแซมผิวหนัง  วิธีการดังกล่าวผู้ป่วยต้องสูญเสียเนื้อเยื่อจากอวัยวะดีบางส่วน  ก่อให้เกิดการเจ็บปวด และเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ฉะนี้...รศ.ดร.พร อนงค์ อร่ามวิทย์ ภาควิชาเภสัชกรรมปฏิบัติ คณะเภสัชศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงทำการวิจัยพัฒนา  “แผ่นเนื้อเยื่อปิดแผลจากโปรตีนกาวไหม” ขึ้น
แผ่นเนื้อเยื่อจากโปรตีนกาวไหมปิดแผลสด.
รศ.ดร.พรอนงค์ เปิดเผยว่า  ...ปัจจุบันหลายประเทศมีความพยายามที่จะพัฒนาวัสดุปิดแผลเพื่อใช้แทนผิวหนัง จริง แต่วัสดุที่ใช้มักเป็นการสังเคราะห์ทางเคมี  จึงขาดคุณสมบัติที่เหมาะสมทางชีวภาพ และมีสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ ทั้งนี้  จากการศึกษาข้อมูลงานวิจัยพบว่า โปรตีน เซริซิน (sericin)  นอกจากสามารถกระตุ้นการสร้างและเพิ่มการยึดเกาะกันของเซลล์ผิวหนังของมนุษย์  ยังดูดความชื้นได้ดี และมีการนำไปใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง
สำหรับ โปรตีนดังกล่าวมีอยู่ใน “กาวไหม”  ซึ่งมีลักษณะเหนียวคล้ายกาวและเคลือบอยู่รอบๆ เส้นไหม  โดยก่อนที่จะสาวไหมให้เป็นเส้นใย ชาวบ้านจะนำรังไหมไปต้มในสารละลายด่าง  เช่น สบู่ เกลือ เพื่อลอกกาวไหมนี้ออก  และน้ำต้มดังกล่าวจะถูกเททิ้งไปในธรรมชาติ  โดยไม่มีการนำไปใช้ประโยชน์ทั้งในทางการแพทย์หรือเชิงพาณิชย์...
การต้มก่อนนำไหมมาสาว.
ส่วนขั้นตอนการวิจัย  เริ่มแรกทำการเก็บตัวอย่างสายพันธุ์ไหมจากแหล่งที่มีการผลิตมากที่สุด  โดยบริษัทจุลไหมไทยให้การอนุเคราะห์ตัวอย่างมาประมาณ 40 สายพันธุ์  ซึ่งมีทั้งสีขาว เหลือง และชมพู และยังเก็บสายพันธุ์นางน้อยศรีสะเกษ  ที่ได้รับความนิยมในการเพาะเลี้ยงจากกลุ่มชาวบ้าน
...แล้วนำมาผ่าน ขบวนการสกัดด้วยความร้อนภายใต้ความดัน  เพราะจะทำให้โอกาสปนเปื้อนจากสารเคมีที่ใช้ในการสกัดต่ำมาก  อีกทั้งยังกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนัง โดย รังไหมสีขาว  สายพันธุ์จุล 1/1 จะมีโปรตีนเซริซิน  ที่มีประสิทธิภาพสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังมนุษย์ได้สูง  ก่อให้เกิดการแพ้ต่ำ อีกทั้งยังมีคุณภาพดีกว่าคอลลาเจนจากสัตว์  ซึ่งการค้นพบดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกของโลก...
เพื่อให้สะดวกต่อการ นำไปใช้ จึงขึ้นรูปเป็น แผ่นเนื้อเยื่อจากโปรตีนกาวไหม  ซึ่งใช้เวลาพัฒนานานเกือบ 3 ปี เริ่มต้นหากเอาโปรตีนกาวไหมมาเทขึ้นรูป  แผ่นที่ได้จะเปราะบาง จึงเพิ่มพอลิไวนิลแอลกอฮอล์  เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้น แล้วนำมาผ่านขบวนการเชื่อมโยงข้าม  ทำให้แผ่นโปรตีนกาวไหมละลายลดลง
...พร้อมทั้งเติมสารดูดความชื้นในปริมาณน้อยๆทำให้แผ่นเกิดความชุ่มชื้น ไม่แฉะ เสร็จแล้วนำไปทดสอบในหนูทดลองเปรียบเทียบ  โดยปิดแผ่นเนื้อเยื่อทิ้งไว้ไม่ต้องลอกออก  แผ่นดังกล่าวจะทำหน้าที่กระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังเกิดการเจริญเติบโตในระยะ เวลา 21 วัน บาดแผลจะสมานดีขึ้น...
สำหรับผู้ที่สนใจผลงานดังกล่าว  วันที่ 27 สิงหาคมนี้ มีการจัดรายการเจาะลึกวิจัย 4 มิติ ดำเนินรายการโดย  รศ.ดร.สุพัตรา สุภาพ ที่งาน Thailand Research Expo : 2011 ณ  ศูนย์ประชุมบางกอกคอนเวนช่ันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์.
เพ็ญพิชญา เตียว
ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2554

No comments:
Post a Comment