Monday, July 29, 2013

ระบุ10จุดเสี่ยงอุบัติเหตุไม่ใช่จุดอันตราย

ระบุ10จุดเสี่ยงอุบัติเหตุไม่ใช่จุดอันตราย



จากที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ได้เปิดเผย 10 จุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อยบนถนนสายหลักทั่วกรุงเทพฯ ประกอบด้วย 1. ถนนเพชรบุรี บริเวณแยกอโศก – เพชรบุรี 2 ทางด่วนขั้นที่ 2. บริเวณต่างระดับพญาไท 3. ถนนสุขุมวิท บริเวณซอยสุขุมวิท 24 4. ถนนลาดพร้าว บริเวณซอยลาดพร้าว 101 5. ถนนพระราม 2 บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 2 6. ถนนเคหะร่มเกล้า บริเวณสามแยกโรงเรียนอรรถญาสาธิต 7. ถนนอ่อนนุช (สุขุมวิท 77) บริเวณตลาดอ่อนนุช หน้าศูนย์การค้าบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า 8. ถนนสุวินทวงศ์ บริเวณสุวินทวงศ์ขาออก ช่วงกิโลเมตรที่ 52 – 55 9.ถนนพระราม 9 บริเวณสี่แยกพระราม 9 – ประดิษฐ์มนูธรรม และ 10.ถนนนวมินทร์ บริเวณหน้าการเคหะแห่งชาติ นายธนา วิชัยสาร ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักวิศวกรรมจราจร ไปตรวจสอบทั้ง 10 จุดเสี่ยงนี้โดยเร่งด่วน หากเป็นสาเหตุมาจากทางด้านกายภาพจะได้มีการปรับปรุงแก้ไข ทั้งในเรื่องของไฟฟ้าส่องสว่าง อุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น

นายสุธน อาณากุล ผู้อำนวยการสำนักวิศวกรรมจราจร สจส. กล่าวว่า จะประสานขอข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งคาดว่าผลการสำรวจที่นำมาเปิดเผยนี้ น่าจะมาจากการบันทึกของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นจะต้องมีการแจ้งเจ้าหน้าที่หรือลงบันทึกไว้ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นข้อมูลที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งแต่อาจจะไม่ใช่จุดที่เกิดอันตรายร้ายแรง ที่สุ่มเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิต เช่นกรณีรถตกทางยกระดับบริเวณทางแยก ที่กทม.ได้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ดูดซับแรงกระแทก (แคลช คูชั่น) ไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามในเรื่องของความปลอดภัยกทม.ได้ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องซึ่งจะมีการสำรวจและซ่อมแซมอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยต่างๆ ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นป้ายเตือนต่างๆ ที่มีทั้งบริเวณหัวเกาะ ทางร่วมทางแยก ป้ายเตือนเหนือศรีษะ อุปกรณ์ป้ายสะท้อนแสง หมุดสะท้อนแสง การ์ดเรล รวมทั้งการตีเส้นจราจร ที่เมื่อใช้งานนานๆ เส้นจะเลือน โดยแต่ละปีกทม.ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อซ่อมแซมและจัดหาอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยเป็นวงเงินกว่า 100 ล้านบาท ทุกปี ซึ่งในทั้ง 10 จุดที่เป็นจุดเสี่ยงนี้จะเข้าไปแก้ไขโดยเร่งด่วน อย่างไรก็ตามขณะนี้กทม.ได้เพิ่มความปลอดภัยบนผิวการจราจรเพิ่มขึ้น โดยได้ติดตั้งป้ายไฟเตือนที่ใช้พลังงานโซล่าเซล ในจุดทางร่วมทางแยกที่เป็นจุดเสี่ยงซึ่งสามารถติดตั้งและใช้งานได้เร็วไม่ต้องรอการเดินสายจ่ายกระแสไฟฟ้า รวมทั้งการตีเส้นจราจรให้หนาขึ้นจากเดิมจะตีเส้นความกว้าง 10 เซนติเมตร เพิ่มเป็น 15 เซนติเมตรเพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนและยืดระยะเวลาที่เส้นจราจรเลือน ทำให้ประชาชนขับขี่รถได้ปลอดภัยมากขึ้น

ที่มา:: เดลินิวส์ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม 2556

No comments:

Post a Comment