Tuesday, April 20, 2010

นักเรียนนอกทุนรัฐบาล

สมัยนี้หลักสูตรปริญญาโท ปริญญาเอกมีอยู่มากทั้งในกรุงและต่างจังหวัดทั้งรัฐและเอกชน

โฆษณาเรียกลูกค้ากันต่าง ๆ นานา หลายแพ็กเกจหลายโปรโมชั่น เสียว ๆ ว่าสักวันอาจมีหลุดมาว่า "จ่ายครบจบแน่"

ค่าใช้จ่ายในการศึกษาแพงหูฉี่ระดับเงินแสน ก็ต้องจ่ายจนครบนั่นแหละขอรับ

มีเงินน้อยแต่อยากเรียน ท่านว่าต้องหาสปอนเซอร์

หากเป็นข้าราชการก็พอมีทางเลือกขอทุนไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท ปริญญาเอกทั้งภายในและภายนอกประเทศโดยทางราชการออกค่าใช้จ่ายให้หมด

ส่วนจบตรีมาใหม่ ๆ ก็มีโอกาสเป็นนักเรียนนอกโดยเงินหลวงด้วยเหมือนกัน อาศัยหัวดีหน่อยสอบชิงทุนรัฐบาลเอา

เป็นนักเรียนนอกย่อมดูหรู เท่ เพอร์เฟกต์น่าอิจฉาตั้งแต่นิยายน้ำเน่าสมัยก่อน แต่อะไรที่มันเหลือง ๆ ไม่ใช่ทองเสมอไป อาจเป็นขี้ เอ๊ย อุนจิก็ได้

ปรากฏว่ามีคดีปกครองของนักเรียนนอกทุนรัฐบาลดังกล่าวมากมาย ออกแนวรันทดซะอีกแน่ะ

คดีนี้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปลีกเวลาไล่ปิดเน็ตมาฟ้องนักเรียนทุน ของกระทรวงรายหนึ่งต่อศาลปกครอง

โทษฐานส่งไปเรียนที่สหรัฐอเมริกาในหลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอก สาขาชีวเคมี ที่มหาวิทยาลัยดังแห่งหนึ่ง

เรียนไม่จบครับท่าน

แล้วกระทำผิดสัญญาการรับทุนรัฐบาลไม่กลับมาปฏิบัติราชการชดใช้ทุน จึงต้องรับผิดขอให้ศาลพิพากษาให้นักเรียนทุนผู้ถูกฟ้องคดีร่วมกับผู้ค้ำ ประกันสัญญาผู้ถูกฟ้องคดีที่สองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินร่วมแสนห้ากับอีก แสนหกหมื่นกว่าดอลลาร์สหรัฐพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดจุดห้านับแต่วันฟ้องจน กว่าชำระเสร็จ

ฝ่ายนักเรียนผู้ถูกฟ้องคดีนั้นเล่าเธอก็มีเหตุผล

การที่เรียนไม่จบนั้นเพราะอุปสรรคในการทดลองวิจัยอันเป็นข้อจำกัดทางด้านสติ ปัญญา แม้จะได้รับการขยายเวลาศึกษาต่อจากสำนักงาน ก.พ.ก็ตาม และที่ไม่อาจกลับประเทศตามกำหนดเพราะข้อจำกัดทางด้านการเงิน

ประการสำคัญกลับประเทศมาแล้วก็มิได้นิ่งเฉยวิ่งเต้นติดต่อกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อชดใช้ทุนแต่การณ์กลับปรากฏว่าส่วนราชการทุกแห่งล้วนปฏิเสธโดยอ้างว่า ไม่มีตำแหน่งว่างหรือตำแหน่งนั้นต้องจบปริญญาโท

ต้องการทำงานชดใช้ให้หลวงจริง ๆ เพราะยังไง ๆ ก็ดีกว่าการเรียกร้องให้ชำระเงินซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีและผู้ค้ำประกันมีฐานะยาก จนไม่อาจชดใช้เงินตามที่เรียกร้องได้

ผู้ถูกฟ้องคดีไม่มีเส้นนักการเมืองจึงขอให้ศาลได้มีคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้อง คดีได้ทำงานเป็นการชดใช้เงินให้ราชการก็แล้วกันขอรับ

ศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองผิดสัญญาการรับทุนจาก รัฐบาล พิพากษาให้ชำระเงินตามจำนวนที่ผู้ฟ้องคดีมีคำขอทุกประการ

ผู้ถูกฟ้องคดีอุทธรณ์

ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า วัตถุประสงค์ของสัญญาต้องการให้ผู้รับทุนการศึกษาเข้ารับราชการภายหลังจาก สำเร็จการศึกษาเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ

มิใช่มุ่งต่อการเรียกให้ผู้รับทุนรัฐบาลต้องชดใช้ทุนเป็นตัวเงินสำคัญ

ผู้ฟ้องคดีกลับมาล่าช้าไปถึงสองปีเศษหลังจากผิดสัญญามิได้กลับภายในยี่สิบ วันนับแต่มีหนังสือเรียกตัวกลับ ก็เนื่องจากพยายามศึกษาให้สำเร็จตามหลักสูตร

ประกอบกับ สำนักงาน ก.พ.มีหนังสืออนุมัติขยายเวลาการศึกษา ทำให้ผู้ถูกฟ้องคดีเข้าใจว่าให้ผู้ถูกฟ้องคดีศึกษาจนจบปริญญาโทแล้วจึงเดิน ทางกลับประเทศ การที่ผู้ถูกฟ้องคดีมิได้กลับตามกำหนดดังกล่าวจึงเป็นกรณีที่มีเหตุผลและไม่ ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ถูกฟ้องคดีได้เข้าทำงานในหน่วยงานของเอกชนรายใด

การให้ผู้ถูกฟ้องคดีเข้าปฏิบัติราชการชดใช้ทุนจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม มากกว่าการเรียกให้ชดใช้เงินคืน

เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีได้ร้องขอเข้ารับราชการเพื่อชดใช้ทุนอันเป็นการปฏิบัติ การเพื่อชำระหนี้ตามสัญญาแล้ว แต่ผู้ฟ้องคดีไม่จัดให้ผู้ถูกฟ้องคดีเข้ารับราชการอันเป็นการไม่ยอมรับชำระ หนี้

พฤติการณ์ยังถือไม่ได้ว่าผู้ฟ้องคดีเป็นฝ่ายผิดสัญญาตามฟ้อง

เห็นว่า คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายต่างมีส่วนก่อเหตุทำให้การบังคับตามสัญญานั้นสิ้นสภาพลง ต่างไม่ประสงค์จะให้สัญญามีผลบังคับใช้ต่อไป ถือว่าสัญญาพิพาทเลิกกันโดยปริยาย

คู่สัญญาต่างฝ่ายจะเรียกร้องค่าเสียหายจากกันไม่ได้ คู่สัญญาจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้ กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม

เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีรับเงินทุนจากรัฐบาลไว้แล้วจึงต้องคืนแก่ผู้ฟ้องคดีพร้อม ดอกเบี้ยนับแต่เวลาได้รับเงินไว้แล้วตามมาตรา ๓๙๑ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ส่วนผู้ถูกฟ้องคดีที่สองในฐานะผู้ค้ำประกันต้องร่วมรับผิดด้วย

พิพากษาแก้ เป็นให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองชดใช้เงินคืนผู้ฟ้องคดีสี่แสนเก้าหมื่นสี่พัน บาทกับอีกห้าหมื่นสามพันสี่ร้อยเจ็ดสิบแปดดอลลาร์สหรัฐพร้อมดอกเบี้ยผิดนัด ร้อยละเจ็ดจุดห้าต่อปี ให้คืนค่าธรรมเนียมศาลตามส่วนของการชนะคดี (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.๑๖๐/๒๕๔๙)

อุตส่าห์ขอทำงานใช้หนี้แล้วนะเนี่ย.

พิสิษฐ์ พลรักษ์เขตต์
praepim@yahoo.com

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์ กฎหมายข้างตัว

No comments:

Post a Comment