Tuesday, April 27, 2010

วิธีการดูแลผิวในหน้าร้อน


ปกติ อากาศเมืองไทยก็ร้อนมากมายอยู่แล้ว ยิ่งช่วงหน้าร้อนนี้ ยิ่งร้อนระอุมากเป็นทวีคูณ ทั้งอุณหภูมิความร้อน (และ อุณหภูมิทางการเมืองด้วย) ทราบหรือไม่ว่ารังสีจากแสงแดด ส่งผลร้ายต่อผิวเรามากมายเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเกิดผิวหมองคล้ำ กระ ฝ้า ริ้วรอยเหี่ยวย่น จนกระทั่งส่งผลให้เกิดเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ดังนั้น นายแพทย์รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ หัวหน้า ศูนย์ผิวหนัง ความงาม เลเซอร์ รพ.นครธน และ กรรมการผู้จัดการ รัสมิ์ภูมิคลินิกจึงแนะนำวิธีดูแลผิวในหน้าร้อนนี้ เพื่อช่วยป้องกันอันตรายของผิวจากแสงแดด

รังสี Ultraviolet หรือ UV ใน แสงแดดเป็นตัวก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสี โดยผลในระยะแรกจะส่งผลให้เม็ดสีเพิ่มจำนวนสูงขึ้น ทำให้ผิวหนังหมองคล้ำ เกิดกระและฝ้า และถ้าอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดการไหม้เกรียมแดด ผิวจะแสบไหม้ พุพอง และลอกได้แต่ถ้าในระยะยาว แสง UV จะทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินของผิว หนังเสื่อมสลายไปได้เร็วขึ้น ทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น และผิวหนังหย่อนยาน อีกทั้งแสง UV ยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ผิวหนังใน ระยะยาว ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย

เมื่อทราบอันตายจากแสงแดดดังนี้แล้ว เราควรหันมาใส่ใจดูแลผิวพรรณของตัวเอง เพื่อรับมือกับแสงแดดในหน้าร้อนดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการออกกลางแจ้ง โดยเฉพาะช่วงที่แสงแดดจัดๆ ได้แก่ ช่วง10.00 -16.00 น.และไม่ เพียงแต่เลี่ยงการออกกลางแจ้งเท่านั้น เพราะแม้อยู่ในร่ม แต่ใกล้แสงแดด รังสี UVจากแสง แดดก็สะท้อนมาถึงผิวเราได้ ปริมาณเท่ากับ 50% ของการยืนกลางแจ้ง
  • ควร ป้องกันผิวที่สัมผัสกับแสงแดดให้น้อยที่สุด โดยอาจใช้ตัวช่วย เช่น ใส่หมวกปีกกว้าง กางร่ม สวมแว่นกันแดดที่กันไม่ให้แสงแดดทำอันตรายต่อเลนส์ตาและจอประสาทตา รวมทั้งใส่เสื้อแขนยาว
  • ทาครีมกัน แดดเป็นประจำทุกวัน และทาอย่างถูกวิธี โดยจากประสบการณ์ของแพทย์พบว่าคนไข้ส่วนมากยังทาครีมกันแดดไม่ถูกวิธี โดยต้องเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสมกับกิจกรรม เพราะ ถ้าปกติทำงานใน office การใช้ครีมกันแดดSPF ไม่เกิน 30 น่าจะ เพียงพอ แต่ถ้าต้องออกข้างนอก ควรทาครีมกันแดดSPFมากกว่า30 และถ้า ต้องออกกลางแจ้งทั้งวัน ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก2 ชั่วโมง
  • ส่วน กิจกรรมที่ต้องมีเหงื่ออกตลอดเวลา หรือ ต้องออกกำลังกายในน้ำ เช่น การดำน้ำ แนะนำให้ทาครีมกันแดดชนิดกันน้ำ และการทาครีมกันแดดให้ได้ค่าSPFเท่ากับ ที่ระบุไว้ที่ผลิตภัณฑ์ เราต้องใช้เนื้อครีมต่อหนึ่งหน้า ประมาณ 0.5-1 กรัม หรือคิด ง่ายๆ คือ บีบเนื้อครีมออกมาประมาณเกือบหนึ่งข้อนิ้วชี้ ในการทาครีมกันแดดต่อหนึ่งหน้าหนึ่งครั้ง
  • ไม่เพียง แต่ในหน้าหนาวเท่านั้นที่ความชุ่มชื้นจะระเหยจากผิว ในช่วงหน้าร้อน ความร้อนจากแสงแดดก็เป็นตัวที่ทำให้ความชุ่มชื้นสูญเสียออกไปในอากาศ ดังนั้นจึงควรทาครีมบำรุงผิว ทั้งผิวหน้าและผิวกายเป็นประจำทุกวัน
  • ช่วงหน้า ร้อน เหงื่อออกก่อให้เกิดการหมักหมมได้ง่าย ซึ่งก่อให้เกิดกลิ่นตัว และมีโอกาสเป็นเชื้อรา โดยเฉพาะในที่อับชื้น โดยอาจเกิดปัญหาเชื้อราที่รักแร้ และขาหนีบ รวมทั้งอาจเกิดเกลื้อนตามลำตัวได้ง่าย ดังนั้น ถ้าออกกำลังกาย หรือเหงื่อออก ควรอาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกาย เน้นการดูแลความสะอาดเป็นพิเศษในบริเวณที่อับชื้น และหลังอาบน้ำควรเช็ดร่างกายให้แห้งสนิท ก่อนที่จะใส่เสื้อผ้า
  • ดื่นน้ำ ปริมาณมากๆ เพราะความร้อนทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำไปได้เยอะ ดังนั้น การดื่มน้ำมากๆ นอกจากช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิวเราแล้ว ยังช่วยรักษาระบบสมดุลย์ร่างกายให้เป็นปกติอีกด้วย
  • ส่วนกรณีผู้ที่ออกไปตากแดดมา เกิดอาการผิวแสบร้อนไหม้เกรียม ควรจะปฏิบัติตัวดังนี้ครับ
  • ประคบผิว ด้วยแตงกวาปลอกเปลือกแล้วนำมาบดละเอียด พอกบริเวณผิวที่แสบร้อน และทิ้งไว้ 15-30นาที จึงล้างออก แต่ถ้าไม่มีแตงกวา วิธีง่ายๆ คือ การใช้น้ำเย็นประคบผิวบ่อยๆ
  • ควรทา น้ำมันเคลือบผิวไว้บ่อยๆ เพราะผิวที่ไหม้เกรียมแดด จะสูญเสียความชุ่มชื้นออกไป ทำให้ผิวแห้งตึง และอาจเกิดผื่นคันได้ง่าย กรณีที่ยังไม่ดีขึ้น ผิวยังมีอาการไหม้ แดง อักเสบมาก ควรทาครีมแก้แพ้ หรือพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
  • อย่าลืม ดื่มน้ำมากๆ และบ่อย ๆ เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียออกจากร่างกายและผิวหนังไป

สุดท้ายขอให้ผู้อ่านได้พักร้อนอย่างมีความสุข และมีผิวพรรณที่สวย และสุขภาพดีฝ่าไอร้อนตลอดฤดูร้อนนี้ครับ


ที่มา: สยามรัฐออนไลน์ 20 เมษายน 2553

No comments:

Post a Comment