Wednesday, October 12, 2011

ชูวิทย์จวกพณ. มาม่า30บ. ขูดเลือดน้ำท่วม

ชูวิทย์จวกพณ. มาม่า 30 บ. ขูดเลือดน้ำท่วม (ราคาปกติซองละ 5-6 บาท)

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย สุดทนกระซวกไส้ ก.พาณิชย์และกรมการค้าภายในทำงานสุดแย่ ปล่อยชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม ถูกขูดเลือดต้องซื้อมาม่าซองละ 30 บาทประทังชีวิต…

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวว่า ตนได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะใน จ.อยุธยา จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบว่า ความเป็นอยู่ของชาวบ้านลำบากมาก โดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่รอบนอกจากเขตชุมชนหรือเขตเมือง ที่ต้องถูกตัดน้ำตัดไฟ ยังต้องขึ้นไปอยู่บนชั้นสอง หรือหลังคาบ้าน เพราะห่วงบ้าน เนื่องจากยังมีขโมยชุกชุมที่เข้าไปซ้ำเติม โดยเฉพาะกลางคืนไม่มีไฟฟ้าเสี่ยงต่อการถูกสัตว์เลื้อยคลานมีพิษกัด ขณะที่อาหารเครื่องอุปโภคบริโภคก็ขาดแคลน น้ำดื่มจากเดิมขวดละ 7 บาท มีการนำไปขายสูงถึงขวดละ 30 บาท มาม่า จากซองละ 5 บาท ขึ้นไป 30 บาท หรืออย่างอิฐบล๊อค จากราคาเดิมก้อนละ 3-4 บาท พุ่งไปก้อนละ 10 -12 บาท อิฐมวลเบาเดิมราคาก้อนละ 18-19 บาท พุ่งไป 22-25 บาท ทรายบรรจุถุง จากเดิมขายไปเกินถุงละ 30-40 บาท วันนี้ไปหาซื้อแทบไม่มี หรือมีก็ถูกโขกไปถึงถุงละ 80-100 บาท ซ้ำเติมทุกข์ชาวบ้าน

นอกจากนี้ ถุงยังชีพที่คนใจบุญนำมาบริจาคก็กระจุกตัวแจกกันเฉพาะเขตชุมชน หรือตัวเมืองและมีการเวียนเทียนมารับของแจก จากนั้นก็นำไปแยกถุง ก่อนนำใส่เรือไปขายในพื้นที่รอบนอก เพราะคนที่เอามาบริจาคก็บริจาคเฉพาะเขตชุมชน แต่ไม่มีเรือติดเครื่องยนต์เพื่อนำของไปบริจาคในพื้นที่รอบนอก ถือเป็นการซ้ำเติมทุกข์อย่างมาก หนำซ้ำค่าเช่าเรือเพื่อให้ขนของหนีน้ำ หรือไปรับญาติพี่น้องคนป่วยที่ติดอยู่ในบ้านของชาวบ้านด้วยกันเอง ก็ขูดเลือดขูดเนื้อ เรียกราคาสูงถึงเที่ยวละ 500 บาทขึ้นไป

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า ยังมีปัญหาการกักตุนสินค้าทั้งสินค้า อุปโภค บริโภค ที่ขณะนี้ขยายมาถึงกรุงเทพและเขตปริมณฑลแล้ว ซึ่งตนประสบด้วยตนเอง โดยไปหาซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดที่บิ๊กซีรามคำแหง พบชาวบ้านแย่งกันซื้อน้ำจนถึงขั้นทะเลาะชกต่อยกันที่ชั้นขายน้ำดื่ม ขณะที่บนชั้นน้ำดื่ม มาม่า อาหารแห้ง ปลากระป๋อง ก็ไม่มีขาย


ส่วนราคาผลไม้พืชผักสดต่างๆในกรุงเทพ ก็เพิ่มขึ้นทั้งหมด อย่างละ 10-20 บาท แม่ค้าต่างอ้างว่าของขึ้นราคา ก็อยากถามว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหาอย่างนี้หรือ หรือแค่การสั่งการเหมือนสั่งน้ำมูก แต่ฝ่ายปฏิบัติกลับไม่มาตรวจสอบ มันก็ไม่มีผลในทางปฏิบัติ เวลานี้ชาวบ้านต่างด่าถึงกระทรวงพาณิชย์และกรมการค้าภายในว่า ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ทำไมไม่ออกมาจัดการปัญหา

“ทำไมคนที่เกี่ยวข้อง ผู้ใหญ่ในรัฐบาล ไม่ลงมาดูแลปัญหาทุกข์สุขชาวบ้านกลับเปิดช่องให้พ่อค้าหน้าเลือดขูดรีดซ้ำเติมเพิ่มความทุกข์ให้ชาวบ้าน ทั้งที่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีงานทำ บ้านจมน้ำ และต้องเก็บเงินไว้ใช้ในยามจำเป็น เสมือนผีถึงหลุมจะถูกโขกสับอย่างไรก็ต้องยอม ผมขอแนะให้รัฐบาลควรใช้เครือข่ายระบบราชการ และองค์กรการปกครองท้องถิ่นในการแจกจ่ายถุงยังชีพให้ชาวบ้านได้ทั่วถึงกว่านี้ โดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่รอบนอกเขตเมือง เขตชุมชน อย่าสักแต่สั่ง แต่ไม่ติตตามผลว่าสั่งแล้วระดับปฏิบัตินำไปทำจริงหรือไม่

จึงขอเตือนหากไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยเฉพาะเครื่องอุปโภคบริโภค ที่จำเป็นในชีวิตต้องเข้าถึงชาวบ้านรอบนอกให้มากกว่านี้ ไม่เช่นนี้ ที่สุดแล้วอาจเกิดปัญหาจลาจล การฉกชิง ปล้นจี้ร้านค้าสะดวก เพราะชาวบ้านไม่มีเงินแต่ท้องหิว มันจะเป็นปัญหาสังคมตามมา โดยเฉพาะปัญหาพ่อค้าโก่งราคาสินค้าต่างๆ ที่เอาเปรียบชาวบ้าน รัฐบาลต้องเร่งจัดการให้เห็นเป็นตัวอย่าง” นายชูวิทย์กล่าว

ที่มา: ทีมข่าวการเมือง ไทยรัฐออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2554
===================

เปรียบเทียบคนไทยที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมกับคนญี่ปุ่นที่ได้ผลกระทบจากสึนามิ แล้วรู้สังเวชที่คนไทยเห็นแก่ได้ ไม่ได้มองเห็นความทุกข์ยากของเพื่อนร่วมชาติ .. ประเทศพัฒนาแล้วกับประเทศด้อยพัฒนา เห็นชัีดๆ ว่าไทยยังด้อยพัฒนาอีกมาก

No comments:

Post a Comment