Thursday, October 6, 2011

จากนักร้องสู่นักโทษ ชีวิตที่ก้าวพลาดของ 'แพท: ฎีกาพิพากษายืนจำคุก 50 ปี

ศาลฎีกาพิพากษายืน จำคุก 50 ปี จากนักร้องสู่นักโทษ ชีวิตที่ก้าวพลาดของ 'แพท

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2547 คนไทยทั่วประเทศโดยเฉพาะวัยรุ่นชายหญิง ต้องตกตะลึง เมื่อทราบข่าวการจับกุมตัว นายวรยศ บุญทองนุ่ม หรือ แพท นักร้องนำวงพาวเวอร์แพท นักร้องหนุ่มอนาคตไกลสังกัดค่ายเพลงในเครือบริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ในข้อหามียาเสพติด (ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อนหน้าการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 สืบทราบว่า นายชุง คิง ฟุ ชาวฮ่องกง มีพฤติกรรมเป็นเอเย่นต์ค้ายาอีรายใหญ่ จึงให้สายลับติดต่อขอซื้อยา ซึ่งสายสืบต้องใช้ความพยายามอย่างหนักนานนับเดือนเพื่อให้เข้าถึงตัวนายชุง คิง ฟุ ที่มีความระแวดระวังตัวสูง จนกระทั่งสามารถนัดให้นายชุง คิง ฟุ เจรจาซื้อขายยาเสพติด ในช่วงบ่ายวันที่ 5 พ.ค. 47 ที่ร้านกาแฟภายในห้างฟู้ดแลนด์ สาขารามคำแหง โดยมีกำลังตำรวจเฝ้าสังเกตการณ์อยู่โดยรอบ

หลังจากพูดคุยประมาณ 30 นาที สายลับจึงขับรถพานายชุง คิง ฟุ ไปที่ห้างเดอะมอลล์ 3 รามคำแหง เสนอขอซื้อยาอี 1,000 เม็ด ราคา 150,000 บาท แต่นายชุง คิง ฟุ เกี่ยงขอดูเงินให้แน่ใจก่อน จึงมีการนัดอีกครั้งในเวลา 15.30 น. เพื่อขอดูเงิน ที่ห้างเดอะมอลล์ 2 รามคำแหง โดยเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายสำเนาเงินของกลางไว้เป็นหลักฐานแล้ว

เมื่อนายชุง คิง ฟุ ตรวจนับเงินของกลางจนพอใจแล้ว จึงพาสายลับไปที่ลานจอดรถอาคารชุดบดินทร์ สวีทโฮม 2 ซอยลาดพร้าว 94 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. เพื่อไปรับยาอี โดยนายชุง คิง ฟุ ได้โทรศัพท์ไปหาชายอีกคนหนึ่งให้ลงมาพบที่ลานจอดรถ

ปรากฏว่าชายที่ลงมาพบ คือ นักร้องหนุ่มที่กำลังโด่งดังอยู่ในเวลานั้นที่รู้จักกันในนาม "แพท พาวเวอร์แพท" !!!

เมื่อเจรจากันได้พักหนึ่ง แพท หรือนายวรยศ ได้เดินกลับขึ้นไปบนอาคาร ก่อนจะกลับลงไปอีกครั้งพร้อมกับถุงกระดาษสีขาว ยื่นส่งให้นายชุง คิงฟุ และส่งต่อมาถึงมือสายลับ เมื่อเปิดดูพบว่าเป็นยาอี 10 ถุง บรรจุถุงละ 100 เม็ด รวม 1,000 เม็ด สายลับจึงส่งสัญญาณให้ตำรวจที่แอบซุ่มอยู่แสดงตัวเข้าจับกุมทันที โดยที่นักร้องหนุ่ม และนายชุง คิง ฟุ ไม่ทันได้กระดิกตัว

หลังถูกจับ นักร้องหนุ่มยอมเปิดปากสารภาพ และบอกว่าในห้องพักเลขที่ 312 ซึ่งพักอยู่กับ น.ส.จารุวรรณ แฟนสาว แต่ในระหว่างจับกุมไม่ได้อยู่ในห้อง ยังมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่อีก เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้น พบยาอี 1,989 เม็ด ยาเคชนิดน้ำจำนวน 4 ขวด และกัญชา 1 ห่อ และ แพท ยังเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่าลูกค้ายาเสพติดของเขาส่วนใหญ่จะเป็นคนในวงการบันเทิง ดารานักร้องชนิดที่เอ่ยชื่อออกมา คนได้ยินคงต้องร้องเสียงหลง และลูกหลานของผู้มีอิทธิพล เพราะในเวลานั้น ยาอี มีราคาที่แพงมาก

นอกจากนี้ แพท และ นายชุง คิง ฟุ ให้การซัดทอดว่า น.ส. จารุวรรณเป็นผู้ร่วมค้ายาอีด้วย ซึ่งต่อมาวันที่ 9 มิ.ย. 47 ตำรวจกองปราบฯ ก็สามารถจับกุม น.ส.จารุวรรณ ได้ที่ อ.เมืองตาก แต่ น.ส.จารุวรรณ ปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดแต่อย่างใด ซึ่งในเวลาต่อมา ในชั้นพิจารณาคดี ศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้อง น.ส.จารุวรรณ

ขณะที่นายชุง คิง ฟุ ศาลพิพากษาว่ามีความผิดฐานครอบ ครองยาอี จำคุกตลอดชีวิต ปรับ 1 ล้านบาท และฐานจำหน่ายยาอี จำคุกตลอดชีวิต และปรับ 1 ล้านบาทเช่นกัน แต่คำรับสารภาพฐานจำหน่ายยาอีเป็นประโยชน์ โทษจำคุกตลอดชีวิตให้ลดลงเหลือ 25 ปี และปรับ 5 แสนบาท โทษฐานเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จำคุก 2 เดือน เมื่อใช้โทษสูงสุดเป็นเกณฑ์แล้ว ให้จำคุกจำเลยตลอดชีวิต ปรับ 1.5 ล้านบาท

ส่วนนักร้องหนุ่ม มีความผิดฐานมียาอีในครอบครอง ให้จำคุกตลอดชีวิต ปรับ 1 ล้านบาท ฐานจำหน่ายยาอี จำคุกตลอดชีวิต ปรับ 1 ล้านบาท มีกัญชาเพื่อเสพ จำคุก 4 เดือน มียาเคเพื่อจำหน่าย จำคุก 5 ปี คำรับสารภาพมีประโยชน์ คงลดโทษ ให้กึ่งหนึ่ง ให้รับโทษฐานครอบครองจำคุก 25 ปี ปรับ 5 แสนบาท ฐานจำหน่าย 25 ปี ปรับ 5 แสนบาท ฐานมี กัญชา จำคุก 2 เดือน ครอบครองยาเค จำคุก 2 ปี 6 เดือน ทั้งนี้ กฎหมายอาญาให้ลงโทษแล้วไม่เกิน 50 ปี คงจำคุกเป็นเวลา 50 ปี ปรับ 1 ล้านบาท

หลังจากต้องไปใช้ชีวิตประมาณ 4 ปีในเรือนจำบางขวาง จ.นนทบุรี ได้มีการยื่นอุทธรณ์ขอลดโทษ แต่ศาลยังคงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ระหว่างนั้น แพท ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ตามเข้าไปสัมภาษณ์ในเรือนจำ โดยยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้ลดโทษเลยแม้แต่ปีเดียว แต่ทำใจไว้แล้ว และได้ใช้เวลาว่างในนั้นเรียนต่อจนจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) และทำตัวให้เป็นประโยชน์ ชักชวนเพื่อนที่เคยเล่นกีตาร์ด้วยกัน ให้ช่วยหาสื่อการสอนมาให้ เอาไว้สอนเพื่อนนักโทษ

ชีวิตในนั้นยังได้ปรับมุมมองให้แพท ได้เรียนรู้คนหลากหลายสถานะ แตกต่างที่มา หลายสังคม ช่วยให้เขามองชีวิตได้แตกฉานขึ้น ที่สำคัญยังมีความยังอยู่ที่การต่อสู้คดีในชั้นฎีกา

แต่สุดท้ายความหวังของแพทก็ต้องดับวูบไป เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกตลอดชีวิต และปรับ 1 ล้านบาท

เป็นอุทาหรณ์อย่าดีสำหรับผู้ที่กำลังหลงผิด

พลิกแฟ้มอาชญากรรม : ไทยรัฐออนไลน์ 7 ตุลาคม 2554
-------------
สงสัยว่่า แพท ไปได้ยาเสพติดต่าง ๆ นี้จากใครหนอ... ต้องพิสูจน์นะท่านตำรวจ ยกมันทั้งแก๊ง

No comments:

Post a Comment