“พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต” ได้นำเอาปัญหาและเหตุการณ์รอบตัวมาสนทนาธรรมในรูปแบบที่เข้าใจง่าย พร้อมทั้งชี้ทางออกของปัญหาที่ว่าหนักอึ้งให้กลายเป็นเรื่องเบาๆ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถแก้ไขได้ทั้งนั้น
“ช่วงนี้คนไทยเป็นโรคเครียดกันมากขึ้น ความเครียดเป็นโทษต่อร่างกาย ก็อยากให้มองเป็นเรื่องขำๆ ไปซะ มองชีวิตในแง่บวกทุกวัน ทุกชั่วโมง เราต้องเอาธรรมะมากู้วิกฤติ คนที่ไม่เคยเข้าวัด บางคนพอได้ธรรมะดีๆ ไปสักข้อสองข้อ ชีวิตดีขึ้นก็มีเยอะ ลองปรับความคิดตามหลักพุทธศาสนาว่ามันไม่มีอะไรแน่นอน วันนี้ดี พรุ่งนี้แย่ ล้วนเป็นธรรมชาติที่ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน จำไว้ว่าความทุกข์จากโลกเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันไม่ได้มีไว้ให้แบก ทุกอย่างเกิดจากเหตุและผล ฉะนั้น เมื่อผลของเหตุทำให้เราเกิดทุกข์ เราก็ต้องไปดับทุกข์ที่นั่น มองหาสาเหตุหรือต้นตอแล้วขุดขึ้นมาแก้ไขตรงนั้นเลย เมื่อความทุกข์ไม่มี ปัญหาสังคมไม่เกิด ชีวิตก็จะสงบสุข การแก้ปัญหาแบบอริยสัจ 4 การเสียสละ หรือแม้แต่การมองโลกในแง่ดี มันไม่เคยตกยุค เพราะอย่างนี้ธรรมะถึงยังช่วยกู้วิกฤติได้ทุกสถานการณ์”
ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่นี้ พระมหาสมปองยังแนะให้คนไทยทุกคนใช้ชีวิตบนความไม่ประมาท ยึดปรัชญาหลัก ‘เศรษฐกิจพอเพียง’ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระราชทาน แล้วเราก็จะมีความสุขทุกๆ วัน ทุกๆ เดือนเป็นต้นไป ปัญหาบางสิ่งบางอย่างถ้าได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด นั่นคือความหมายของความสามัคคีที่ไม่ใช่เพียงแค่การรวมกำลังกาย แต่ยังรวมกำลังใจและกำลังสมองเข้าด้วยกัน โดยมีธรรมะเป็นเครื่องกำกับให้เดินไปได้อย่างถูกทำนองครองธรรม สุดท้ายขอให้ยิ้ม หัวเราะ มีความสุข ร่าเริง เพื่อเป็นกำลังใจต่อชีวิต วันไหนที่หงุดหงิด ชีวิตก็ขาดทุน ฉะนั้น เรามาสร้างกำไรให้ชีวิตด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกันดีกว่า เจริญพร
No comments:
Post a Comment