อาหารของไทยน่ากลัวจริง ๆ ไม่รู้ อ.ย. จะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่อีกนานเท่าไร เพื่อนผมร้องเรียน คุณภาพของน้ำดื่ม ที่เอกชนส่งให้คณะต่าง ๆ ใน ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ผ่านทางเวป ก็เงียบ ไม่รู้ท่านทำอะไรของท่าน
===
นิติภูมิ นวรัตน์
ผู้อ่านท่านที่เคารพ ห้วงที่ผ่านมา ผมพบผู้คนที่ป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเยอะจริงๆ ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลแต่ละที มีแต่เสียงร้องไห้โหยหวนของญาติซึ่งร่ำอาลัยผู้วายชนม์ สังเกตอย่างหนึ่งว่า เพื่อนที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งมักจะมีนิวาสสถานบ้านช่องอยู่ในจังหวัดที่มีโรง งานมาก นางอรดา มั่นวิมล เพื่อนรักของผมที่เพิ่งฌาปนกิจศพไปเมื่อวาน ก็ย้ายบ้านจากเขตบางกอกน้อย มาอยู่ในเขตโรงงาน ไม่นานก็เป็นมะเร็ง
ผม เคยไปที่อำเภอแห่งหนึ่ง มีคนเอามรณบัตรมาให้ดูเกือบ 30 ใบ ตายในวันเวลาเรียงเคียงกัน สาเหตุของการตาย มะเร็ง มะเร็ง มะเร็ง มะเร็ง ไม่มีโรคอื่นเลย ผมถ่ายภาพยนตร์สารคดีพวกนี้ไว้เยอะ มีมากมายหลายสิบม้วน เด็กเล็กๆนี่แหละ เท้าเปื่อยรักษาเท่าใดก็ไม่หาย ไม่ได้เป็นแค่เด็กคนเดียวนะครับ เป็นกันทั้งหมู่บ้าน
อยู่ในเรือกสวน ไร่นามาตั้งแต่ทวดปู่ย่าตายาย วันดีคืนดีก็มีโรงงานมาตั้งเต็มพรืดทั้งตำบล น้ำก็ทานไม่ได้ คุณยายคนหนึ่งโพงน้ำจากโข่ขึ้นมาให้ผมดู น้ำมีกลิ่นเหม็นมาก จะไปดื่มได้อย่างไร ต้องเดือดร้อนซื้อน้ำขวดมาทาน ต้นทุนการดำรงชีวิตเพิ่มอีกเดือนละหลายร้อยบาท เกิดเป็นคนจนนี่ครับ จะย้ายบ้านเรือนไปอยู่ที่ไหนก็ไม่มีทุน ไปร้องแรกแหกกระเชอที่ไหนก็ไม่มีใครฟัง ลูกหลานป้าเป็นคนมีการศึกษาน้อย ทุกวันนี้ก็นึกซะว่า เราเกิดมามีกรรม โทษอะไรไม่ได้ก็ต้องโทษกรรม ที่บรรพบุรุษดันมาตั้งรกรากอยู่ในตำบลหนแห่งที่หลวงท่านอนุญาตให้โรงงานมา ตั้งเต็มพรืดไปหมด
โถ จะไปร้องแรกแหกกระเชอที่ไหนกันละครับคุณป้า เดี๋ยวนี้พวกบริษัทที่ปล่อยสารพิษเข้าไปในน้ำกับอากาศ เขามี CSR หรือ Corporate Social Responsibility ที่ดัดจริตแปลกันว่า "ความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจ" ไอ้ CSR นี่แหละตัวลวงโลก พวกนี้จะพาดารานักร้องไปปลูกป่าชายเลนบ้าง โยนเศษสตางค์พานักเรียนไปทำประโยชน์นั่น ประโยชน์นี่ พวกนี้มีความภูมิใจและเชื่ออย่างจริงจังซะด้วยนะครับ ว่าพวกตนทำประโยชน์ให้สังคม นำและทำประโยชน์ ให้กับชุมชน พวกสื่อสารมวลชนทั้งหลายเฮโลสาระพา อา เอากะเขาด้วย โดยที่ไม่เคยมองมุมของคนในชุมชนนั้นอีกจำนวนไม่น้อย ที่กำลังนอนพะงาบๆ กำลังจะตายอยู่ในโรงพยาบาล เด็กนักเรียนอีกเป็นร้อยนับพันที่คันศีรษะ เกากันจนผมจะหลุดหมดหัวอยู่แล้ว
นิติภูมิมีลูกศิษย์คนหนึ่ง คุณแม่เธอเป็นเจ้าของสะพานปลา ด้วยความรักอาจารย์ หนูไม่อยากให้อาจารย์ทานปลาทู หรือปลาจากทะเลทุกประเภท แทบจะไม่มีปลาประเภทไหนดอกค่ะ ที่เมื่อเอาขึ้นมาจากทะเลแล้ว ไม่นำมาแช่ฟอร์มาลินน้ำยาแช่ศพ อาจารย์อย่าทานปลาเลยดีกว่า ปลาน้ำจืดตามแม่น้ำคลองหลายแห่งเป็นแหล่งสะสมแคดเมียมและปรอท สารพวกนี้ถูกแอบปล่อยจากโรงงานลงในแม่น้ำลำคลอง เมื่อโลหะหนักเหล่านี้ไปสะสมในร่างกายก็จะทำให้ระบบประสาทถูกทำลายได้
ผม เคยได้รับทุนไปทำสารคดีเกี่ยวกับเรื่องความมีอายุยืนยาวของมนุษย์ในหลาย ประเทศ ทั้งมองโกเลีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ กรีซ บัลแกเรีย ฯลฯ พบว่า เรื่องอาหาร อากาศ อะไรพวกนี้มีส่วนสำคัญต่อชีวิตที่ดีมีคุณภาพมาก บางประเทศดีโดยธรรมชาติ บางประเทศดีเพราะมีการจัดการที่ดี ผมว่าถึงเวลาแล้วละครับ ที่เรื่องคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยจะต้องกลายเป็นวาระแห่งชาติกันซะที
ผม เขียนต้นฉบับวันนี้ขณะที่จะไปเชียงใหม่ เทียวเที่ยวไปในอำเภอต่างๆของไทย ผมเห็นด้วยกับสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา (สทพ.) ที่ลำดับสถานที่ในประเทศไทยที่น่าอยู่ หรือเมืองน่าอยู่ ชุมชนน่าอยู่ ที่ท่านจัดไว้ โดยใช้ดัชนีความน่าอยู่ 5 มิติมาพิจารณาคือ มิติความปลอดภัย มิติความมีคุณภาพชีวิตที่ดี มิติการบริหารจัดการที่ดีตามหลักธรรมาภิบาล และมิติความเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม
จากการลงไปเก็บ ข้อมูลอย่างละเอียด 124 เทศบาลทั่วประเทศ เมืองน่าอยู่ลำดับ 1 ถึง 10 ของประเทศไทยมีดังนี้ (ผมเรียนไปแล้วนะครับว่าผมเห็นด้วยอย่างมาก และเคยเดินทางไปเยือนทุกแห่ง)
1. เมืองพนัสนิคม จ.ชลบุรี 2. เมืองแม่ฮ่องสอน 3. เมืองน่าน 4. เมืองพิจิตร 5. เมืองมุกดาหาร 6. เมืองพะเยา 7. เมืองแสนสุข จ.ชลบุรี 8. เมืองนครพนม 9. เมืองกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และ 10. เมืองท่าบ่อ จ.หนองคาย.
นิติภูมิ นวรัตน์
www.nitipoom.com
e-mail: nitipoom@nitipoom.com
ไทยรัฐออนไลน์ 23 ตุลาคม 2552 http://www.thairath.co.th/content/oversea/41393
No comments:
Post a Comment