Monday, October 4, 2010

เข็มทิศชีวิต : ที่พึ่งภายใน

ทันทีที่เรากล้าหาญเผชิญหน้ากับสิ่งที่อยู่ในใจตัวเองจนรู้ชัด ว่าเราจริงจังกับตัวเอง จนสามารถทำในสิ่งที่ถูกต้องและควรทำได้ เราจะรู้สึกถึงพลังมหาศาลของศักยภาพในตัวเอง...

เรื่อง : ฐิตินาถ ณ พัทลุง

เขียนต้นฉบับไปหลายเรื่อง จนในที่สุดต้องบอกตัวเองว่ายังไงท่านผู้อ่านก็จะหาข้อความระหว่างบรรทัด เชื่อมโยงไปยังเรื่องราวที่เป็นข่าวหน้าหนึ่งมาตลอดสองสัปดาห์อยู่ดี ก็เขียนกันตรงๆ เสียเลย เพราะผู้อ่านคอลัมน์นี้รักการเรียนรู้ และมองเห็นสิ่งดีงามในทุกๆ อย่างมาปรับใช้ในชีวิตตนเองได้เสมออยู่แล้ว

ดิฉันพบว่าชีวิตจะส่งของขวัญมาพอเหมาะพอเจาะพอดีกับความสามารถของเราที่ จะเรียนรู้และเติบโตเสมอ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วตอนที่เจอเรื่องหนี้ก็เพื่อให้เราได้มาพบธรรมะ ได้เห็นว่าไม่มีอะไรเลยเราก็มีความสุขได้จากภายในตัวเราเองก่อน ทันทีที่เรามีความสุขได้จากภายในตัวเอง มีสติ มีปัญญา การแก้ปัญหาต่างๆ ก็เป็นเรื่องง่าย กลายเป็นว่าความท้าทายที่เข้ามาช่วงเวลาสั้นๆ กลับทำให้เรามีทรัพย์ภายใน ที่ทำให้ชีวิตเรามั่นคง ทั้งภายนอกและภายในได้ทำประโยชน์ให้ผู้อื่นและตนเอง

ชีวิตจะหาวิธีส่งบทเรียนใหม่ๆ มาให้เราเสมอ แต่ทุกเรื่องในชีวิตสิ่งแรกที่ได้คือ ให้เรารู้ว่านี่ไงล่ะคนอื่นมาทำอะไรไม่ดีในชีวิตเราก็เพื่อให้เราซาบซึ้งใจ กับพ่อแม่ ว่าความรักของพ่อแม่นั้นยิ่งใหญ่นัก อะไรที่พ่อแม่อาจพลาดพลั้งบ้างก็เล็กน้อยนักถ้าเทียบกับที่คนอื่นทำกับเรา ต้องขอบคุณคนที่ทำไม่ดีกับเราเพราะเขาอุตส่าห์เอาตัวเองเป็นอุปกรณ์เพื่อให้ เรารักพ่อแม่มากขึ้น

ทุกบทเรียนในชีวิต ต้องการให้เราเกิดความเข้าใจจนซาบซึ้งว่าเป็นความหวังดีของชีวิต จนสามารถขอบคุณสิ่งที่เกิดขึ้นได้ว่าเข้ามาเพียงเพื่อให้เราเกิดความเข้าใจ ในผู้คนและตนเองอย่างลึกซึ้งแล้วชีวิตเราจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเสมอ เหมือนต้นไม้ที่ออกดอกในหน้าแล้งยามขาดน้ำ แล้วเติบโตขยายพันธุ์กว้างไกล

สอง การมีศรัทธาเป็นสิ่งสำคัญ แต่ศรัทธาในตัวเองสำคัญที่สุด นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนเราถึงต้องทำความดี เพราะในเวลาหนึ่งที่อาจไม่มีใครเชื่อเราเลย อย่างน้อยมีเราคนนึงล่ะ ที่เชื่อและภูมิใจในตัวเราเอง การหันกลับไปมองข้างหลังแล้วรู้ว่าเราทำความดีงามอะไรมา และมองไปข้างหน้ารู้ว่าเรามีชีวิตอย่างมีวัตถุประสงค์เพื่อขัดเกลาตัวเราเอง ทำให้เราชัดเจนว่าเราจะเลือกทำอะไรและเลือกไม่ทำอะไร ทำให้เราเข้มแข็งกับสิ่งที่เจอตรงหน้าอย่างกล้าหาญ ด้วยความรู้อย่างเต็มเปี่ยมว่า แล้วในที่สุด ตั้งแต่วันที่สิ่งนี้เกิดจนถึงวันที่จบลง มันให้ประโยชน์กับเราอย่างล้นเหลือยอดเยี่ยมก่อนใคร

สาม สิ่งที่กีดขวางในชีวิตคนมากกว่าอุปสรรคและความท้าทายคือการซ่อนตัวอยู่ในมุม สบายของตัวเอง หลายคนบอกตัวเองว่าแบบนี้ก็ดีแล้วแต่ชีวิตขาดพลังลงไปทุกวัน เพราะแทนที่จะลงมือทำสิ่งที่ต้องทำกลับเอาพลังไปทำเรื่องที่แค่ย้ายความสนใจ ไปได้เพียงชั่วคราว

หลอกตัวเองว่าปล่อยวางแต่ที่จริงแล้วกลัวที่จะบ่งฝีในชีวิตของตัวเอง เลยไปยุ่งเรื่องคนอื่นหรือทำสิ่งที่ไม่สำคัญในชีวิตจนหมดพลังซังกะตายไป เรื่อยๆ แทนที่จะค่อยๆ ทำให้ตัวเองเข้มแข็งเตรียมความพร้อม จนจิตใจมั่นคงในการลงมือทำสิ่งที่ควรทำ ก้าวข้ามความกลัวความยากลำบากที่อาจต้องเจอบ้างระหว่างทาง

คนที่หวั่นไหว ยามคนชมก็ลอย คนติก็จม เพราะไม่รู้ชัดว่าตัวเองเป็นใคร ต้องรอให้คนอื่นมาบอก แต่เมื่อเราหมั่นตรวจสอบขัดเกลาตัวเองอยู่เสมอ เราจะรู้ชัดว่าข้างในนี้เป็นใคร ทำอะไรอยู่และต้องทำอย่างไรจึงประสบผลสำเร็จเป็นประโยชน์ต่อมหาชนและตนเอง

ทันทีที่เรากล้าหาญเผชิญหน้ากับสิ่งที่อยู่ในใจตัวเองจนรู้ชัดว่าเราจริง จังกับตัวเอง จนสามารถทำในสิ่งที่ถูกต้องและควรทำได้ เราจะรู้สึกถึงพลังมหาศาลของศักยภาพในตัวเอง เพราะการปรากฏขึ้นของความท้าทายในชีวิตก็เพื่อให้เราได้ค้นพบศักยภาพสูงสุด ของความเป็นมนุษย์ในการเรียนรู้เข้าใจ มีความสามารถที่จะรัก ศรัทธา มั่นคงได้ในทุกสถานการณ์

ในที่สุดแล้วไม่ว่าจะลงมือทำอะไร ต้องเห็นประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่กว่าของตัวเราเองเสมอ เห็นเราในเขา-เห็นเขาในเรา มันเป็นเรื่องง่ายมากเหมือนเวลาที่นักกีฬาลงสนาม เราอาจจมลงไปในสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คิดว่าอีกฝ่ายเป็นคู่ต่อสู้จนลืมไปว่ามันไม่ใช่การเอาชนะกันและกัน แต่เป็นเรื่องของการเรียนรู้เพื่อประโยชน์ในระยะยาวในชีวิตของทุกฝ่าย จึงต้องจำให้ได้เสมอที่จะรักษาความปรารถนาดีให้เป็นเครื่องหล่อเลี้ยง ขับเคลื่อนการกระทำ เพราะชีวิตปรารถนาดีที่สุดกับเรา ส่งสิ่งที่ดีที่สุดมาให้เราเสมอ

เพียงมองให้ลึกซึ้งพอ

ที่มา: เข็มทิศชีวิต: ที่พึ่งภายใน โดย ฐิตินาถ ณ พัทลุง โพสต์ทูเดย์ 03 ตุลาคม 2553

No comments:

Post a Comment