Tuesday, October 5, 2010

(ฟ้องทางการฐาน)ไม่ให้ข้อมูลข่าวสาร

สมัยก่อนโน้น เรื่องที่ชาวบ้านจะเดินเทิ่ง ๆ ไปสอบถามเรื่องราวข้อมูลกับท่านนายอำเภอ หรือข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของตน

เป็นเรื่องที่วิญญูชนทั้งหลายเห็นพ้องต้องกันว่าไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง อาจถูกบ้องหูเอ็ดตะโรแข้งขาอ่อนกลับมา อย่างเบาะ ๆ ถูกมองว่าหัวหมอ ชีวิตจะอยู่ยากขึ้น สมัยนี้กลับกัน เรื่องข้อมูลข่าวสารของทางราชการต้องเปิดกันแบบโอเพ่น ท่านว่า เปิดเผยเป็นหลัก ปกปิดเป็นข้อยกเว้น มี พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ บังคับใช้ ตามนั้น

ในทางคดีปกครอง ยังเป็นขั้นตอนหนึ่งทางกฎหมายที่ต้องกระทำก่อนฟ้องคดีตามมาตรา ๔๒ วรรคสองแห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒

มีกฎหมายบังคับให้เปิดกันสว่างกันขนาดนี้ ยังมีปัญหาคลุมเครือกันต้องฟ้องร้องเป็นคดี จึงต้องเตรียมตัวให้เข้าสเปกในทางคดีปกครองดังกล่าว

ผู้ฟ้องคดีรายนี้เป็นคนต่างด้าวชาวรัสเซีย ถูกพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจับกุมและกักขังเพื่อส่งตัวกลับประทาน โทษ ไม่ใช่มิสเตอร์วิคเตอร์ บูท นะครับ เรื่องนี้ใบ้รับประทาน สิบ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารก็เอาไม่อยู่ เลยคดีปกครองไปแล้วขอรับในการนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกหนังสือแจ้งคำสั่งออกนอกประเทศ ติดตามด้วยคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้แก่ผู้ฟ้องคดี

ทั้งสองคำสั่งปรากฏแต่เพียงลายมือชื่อของพนักงานเจ้าหน้าที่ ไม่ได้ระบุชื่อและตำแหน่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ออกคำสั่ง

ผู้ฟ้องคดีเปิด พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ เห็นจะจะในมาตรา ๓๖ ที่กำหนดให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองเท่า นั้นที่เป็นผู้มีอำนาจเพิกถอนการให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว

แต่ลายมือชื่อในคำสั่งทั้งสองมันกำกวม น่าสงสัยว่ามิใช่ลายมือชื่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายดังกล่าวนี่หว่า ยังงี้ต้องถามให้หายข้องใจ

จึงทำหนังสือสอบถามถึงผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ช่วยกรุณาบอกหน่อยว่าไผเป็นผู้ลงนาม ขอทั้งชื่อและตำแหน่ง

ไหมล่ะ เป็นอัมพาตหมดทั้งสำนักงานเพราะเงียบฉี่ไร้คำตอบและความเคลื่อนไหวใด ๆ

จึงฟ้องต่อศาลปกครองขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้บัญชาการสำนักงาน ตรวจคนเข้าเมืองผู้ถูกฟ้องคดีเปิดเผยชื่อและตำแหน่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ดำเนินการจับกุมและมีคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของผู้ฟ้องคดี

ได้ความประการใดจะได้ต่อยอดเล่นเป็นคดีต่อไป

พี่แกมัวแต่เปิดดู พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ ลืมเปิด ดู พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๑๓ ที่กำหนดให้กรณีทางราชการที่ถูกขอดูข้อมูลข่าวสารทำยึกยักเล่นตัว

ท่านให้ร้องเรียนต่อ คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการเสียก่อน ได้ผลประการใดยังไม่สะเด็ดน้ำจึงให้ว่ากล่าวกันต่อไป

เป็นขั้นตอนและวิธีการที่กฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะ ซึ่งตามมาตรา ๔๒ วรรคสองแห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ บังคับว่าต้องไปดำเนินการเสียก่อนฟ้องคดีปกครอง

ศาลปกครองชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องไว้พิจารณา เนื่องจากผู้ฟ้องคดีมิได้ดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีการที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยเฉพาะตามมาตรา ๔๒ วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ

ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ อ้างว่าเป็นการเลือกปฏิบัติเพราะเห็นผู้ฟ้องคดีเป็นชาวต่างชาติ จึงนำความเดือดร้อนเสียหายมาฟ้องต่อศาลปกครองได้เลย ไม่จำต้องปฏิบัติตามมาตรา ๑๓ ของ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ก่อน

ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า จะเป็นบุคคลต่างชาติหรือไม่ การฟ้องคดีปกครองต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการฟ้องคดีตามมาตรา ๔๒ วรรคสองแห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ เสียก่อนนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครอง

คดีนี้ มาตรา ๔๔ แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ประกอบกับมาตรา ๑๓ แห่ง พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ กำหนดให้ผู้ที่เห็นว่าหน่วยงานของรัฐไม่ดำเนินการจัดหาข้อมูลข่าวสารให้แก่ ตน

หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าหรือเห็นว่าตนไม่ได้รับความสะดวกโดยไม่มีเหตุอันสมควรจากการขอข้อมูลข่าวสาร

มีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร เพื่อมีคำวินิจฉัย

จึงต้องถือว่ากฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดวิธีการและขั้นตอนสำหรับการแก้ไขความเดือดร้อนหรือเสียหายไว้โดยเฉพาะ

เป็นเงื่อนไขที่ผู้ฟ้องคดีต้องปฏิบัติเสียก่อนจึงจะนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครองได้ ตามมาตรา ๔๒ วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ

มีคำสั่ง ไม่รับฟ้อง ยืนตามศาลปกครองชั้นต้น (คำสั่งที่ ๘๐๙/ ๒๕๔๙)

แขกบังกลาเทศขายโรตีขายถั่วหลายคนเล่าให้ฟังว่า จ่ายเดือนละพันบาทสะดวกกว่ามาก ไม่มีคดี ส่วนจ่ายใครบ้างความไม่แจ้ง อันนี้แขกกลัวมั่ก ๆ ไม่เล่าให้ฟัง

พิสิษฐ์ พลรักษ์เขตต์

ที่มา: กฎหมายข้างตัว เดลินิวส์ออนไลน์ วันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2553

No comments:

Post a Comment