Wednesday, May 2, 2012

จราจรกลาง

ทนายความคนหนึ่ง ปัจจุบันเป็นนายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นใน จ.นครราชสีมา ข้องใจการปฏิบัติงานของตำรวจในจังหวัด สงสัยว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

เมื่อต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เขาขับรถผ่านไปทาง อ.ปักธงชัย มีด่านตำรวจเรียกให้หยุดตรวจ เขาโดนใบสั่งในข้อหาป้ายเสียภาษีประจำปีหมดอายุ

ที่จุดตรวจมีตำรวจตั้งโต๊ะให้บริการปรับ มีร้อยเวรควบคุม

ใช้ตำรวจราว 10 นาย

ระหว่างรอปรับอยู่ราว 15 นาที พบว่ามีรถคันอื่นถูกปรับข้อหาต่างๆราว 10 คัน

เขาสอบถามตำรวจชุดนั้นได้ความว่า ตำรวจตั้งด่านผลัดละ 3 ชั่วโมง

คิดคร่าวๆว่า ในการตั้งด่านแต่ละครั้งจะมีรถถูกปรับอย่างต่ำ 100 คัน หากถูกปรับคันละ 300 บาท รวมแล้วค่าปรับคนผลัดละ 3 หมื่นบาท

เดือนละเป็นแสน!

อีกไม่กี่วันต่อมา ทนายความคนเดียวกันนั้นก็ได้รับจดหมายเรียกให้ไปชำระค่าปรับในข้อหา “ขับรถเร็ว” อีกครั้งหนึ่ง

หมายเรียกระบุให้ไปเสียค่าปรับที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาหรือไปชำระทางไปรษณีย์ก็ได้

ในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นจึงเกิดความข้องใจเกี่ยวกับส่วนแบ่งจากเงินค่าปรับและวิธีการจับกุม

เรื่องส่วนแบ่งค่าปรับควรมีการส่งเป็นเงินรายได้แผ่นดินให้กับท้องถิ่นที่พบการกระทำผิด

กรณีนี้ไม่เคยมีการนำส่ง ไม่ว่าจะเป็นข้อหาอะไร

สอบถามเพื่อนผู้บริหารท้องถิ่นด้วยกันก็ได้รับการยืนยันเหมือนกันว่า ไม่มีการนำส่งรายได้จากการตั้งด่านลักษณะนี้

เงินรายได้จากค่าปรับเดือนละกว่าล้านบาท จัดสรรแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆอย่างไร

ชุดที่ไปตั้งด่านมีกัน 10 กว่านายเท่านั้น

หากแบ่งกันแค่ชุดทำงานก็ได้ไปคนละเป็นแสนบาทต่อเดือน

ส่วน เรื่องวิธีการจับกุมน่าสงสัยว่า ตำรวจชุดที่ไปตั้งด่านใช้ชื่อว่า “จราจรกลาง” เป็นชุดที่รวมตำรวจใน จ.นครราชสีมา อ้างว่ามีอำนาจไปตั้งด่านในทุกพื้นที่ของจังหวัด

จริงๆแล้วมีอำนาจหรือไม่

การไปตั้งด่านตั้งหน้าตั้งตาจับเพื่อหวังส่วนแบ่งค่าปรับแบบนี้ทำให้ตำรวจท้องที่เสียชื่อ ชาวบ้านไม่รู้คิดว่าเป็นตำรวจท้องที่

จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบและสั่งการให้ถูกต้อง

ตอนนี้การจัดชุด “จราจรกลาง” ของจังหวัดออกไปตั้งด่านจับ-ปรับกำลังแพร่ระบาดไปยังจังหวัดต่างๆใน ผบช.ภ.3

ถูกต้องแค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่ารายได้ดี.

“เพลิงมรกต”

::จราจรกลาง เลขที่1 วิภาวดี เพลิงมรกต ไทยรัฐออนไลน์ วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม 2555

No comments:

Post a Comment