Friday, February 11, 2011

วัยรุ่นไทย พร่องอีคิว-พร้อมเสียตัว

อีคิวเด็กไทยสัมพันธ์กับพฤติกรรมทางเพศและความเข้มแข็งทางจิตใจของวัยรุ่น โดยเฉพาะเรื่องการควบคุมอารมณ์ แนะไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความรักด้วยวิธีที่เสี่ยง ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์...

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า จากข้อมูลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนไทยที่เผยแพร่ในเว็บไซต์เด็กดีด อทคอม ระบุว่า วัยรุ่นไทยให้ความสนใจ และให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์มากที่สุดถึง 47.8% รองลงมา คือ วัยทำงาน 12.6% และคู่สมรส 12.5% และยังระบุอีกว่ากิจกรรมที่วัยรุ่นนิยมทำกันมากที่สุดในวันวาเลนไทน์ สูงสุดถึง 42.58% คือ การไปดูหนัง ฟังเพลง ทานข้าวกับคนรัก และอยู่กันสองต่อสอง ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้สามารถนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายมาก จากเหตุผลหลายประการ เช่น ความรัก อารมณ์พาไป อยากรู้อยากลอง ความพอใจ รวมถึงวุฒิภาวะที่มีอยู่น้อย ขาดความยับยั้งชั่งใจ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น สอดคล้องกับผลการสำรวจของกระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุว่าปัจจุบันวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น เริ่มตั้งแต่อายุ 15-17 ปี ผลที่ตามมาก็คือการทำแท้ง โดยพบว่า 61.3% ของผู้หญิงที่ทำแท้ง เป็นเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี และ 29.9% มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ในจำนวนนี้ 24.7% เป็นนักเรียน นักศึกษา

รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร จนนำไปสู่ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะในวัยรุ่น เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข จากข้อมูลของกรมสุขภาพจิต พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) กับพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นไทยมีความสัมพันธ์กัน รวมถึงความเข้มแข็งทางจิตใจก็มีผลต่อการแสดงออกของพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสม หรือไม่เหมาะสม ทั้งนี้ การลดความเสี่ยงของการมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม จำเป็นต้องพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ทั้ง 3 ด้าน คือ ดี เก่ง และสุข โดยพัฒนาในเรื่องการควบคุมอารมณ์ตนเอง การรู้ถูกผิด การตัดสินใจแก้ปัญหา และการสร้างความภาคภูมิใจในตนเอง ซึ่งจะทำให้วัยรุ่นสามารถตัดสินใจได้อย่างมีสติ เป็นตัวของตัวเอง ไม่กลัวคนรักโกรธ มั่นใจในคุณค่าของตนเอง ไม่ตกเป็นเหยื่อของการท้าทาย และไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความรักหรือความกล้าของตนเองด้วยวิธีที่เสี่ยง

ที่มา: วัยรุ่นไทย พร่องอีคิว-พร้อมเสียตัว ทีมข่าวการศึกษา ไทยรัฐออนไลน์ วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554

เด็กไทยเสียตัววาเลนไทน์ ไม่เว้นแม้ส้วมปั๊มยันกระท่อม

กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แฉ วัยรุ่น 12% นิยมเสียตัววันวาเลนไทน์ ห้องพักแหล่งฮิตมีเซ็กส์ ไม่เว้นส้วมปั๊มยันกระท่อม...

นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) กล่าวว่า ปัจจุบัน เด็กและเยาวชนมีพฤติกรรมชิงสุกก่อนห่ามมากขึ้น โดยถือเอาวันวาเลนไทน์ เป็นวันเริ่มต้นมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร

พม.โดยศูนย์การเฝ้า ระวังและเตือนภัยทางสังคมได้สำรวจข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงเกี่ยว กับเด็กและเยาวชนช่วงวาเลนไทน์ ทุกปีโดยปีที่ผ่านมา พบการมีเพศสัมพันธ์ถึง ร้อยยะ 9.4 ในจำนวนนี้จะใช้สถานที่ในบ้าน/ห้องส่วนตัว ร้อยละ 8.8 หอพัก/ห้องเช่า ร้อยละ 7.5 บ้านเพื่อน/แฟน ร้อยละ 6.9 นอกนั้นใช้โรงแรมและที่สาธารณะมุมมิดชิด

โดยภาพรวมจากการสำรวจของ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา พบว่า วัยรุ่นนิยมมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหรือคนรักในวันวาเลนไทน์ถึงร้อยละ 12 โดยใช้สถานที่บ้าน/ห้องส่วนตัวบ้านเพื่อน/บ้านแฟน หอพัก/ห้องเช่า โรงแรม/สถานที่สาธารณะ เช่น สวนสาธารณะ ห้องน้ำปั๊มน้ำมัน และกระท่อม ตามลำดับ

นายอิสสระ กล่าวอีกว่า ช่วงวันวาเลนไทน์นี้ จึงอยากรณรงค์ให้ทุกภาคส่วน สอดส่องดูแลเด็กและเยาวชนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสถาบันครอบครัวผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานให้อยู่ในสายตา หากิจกรรมสร้างสรรค์ในครอบครัวสถาบันการศึกษา มีกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้นักเรียน มีความประพฤติที่เหมาะสม และมีความรับผิดชอบต่อสังคมรวมทั้งความร่วมมือจากเครือข่ายต่างๆ ที่ต้องทำงานอย่างบูรณาการร่วมกัน ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับหน่วยงานหลักในการรายงานสถานการณ์แจ้งข้อมูลและ ป้องกันในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการเสนอข่าวสารเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อกระตุ้นเตือนและสร้างจิตสำนึก สร้างทัศนคติเชิงบวก ที่สำคัญคือเยาวชนซึ่งยังอยู่ในวัยเรียนควรคำนึงถึงประเพณีไทย รักนวลสงวนตัว ไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว หากไปเที่ยวที่ใดก็ควรมีเพื่อนที่ไว้วางใจได้ไปด้วย ในส่วนของสถานบริการ ก็ควรดูแลไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่ากำหนดเข้าไปใช้บริการ

อย่างไรก็ตาม ยังปรากฎว่ามีสถานบริการหลายแห่งที่ลักลอบให้เด็กเข้าไปเพราะหวังผลประโยชน์ ทางธุรกิจเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควรกวดขัน สถานบริการอย่างจริงจัง ทั้งในเรื่องของเวลาเปิด-ปิดและอายุของผู้เข้าไปใช้บริการด้วย

ที่มา: ทีมข่าวการศึกษา ไทยรัฐออนไลน์ วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554

.

No comments:

Post a Comment