Monday, July 4, 2011

ปรับมากไป

ฝนตกหนักบ้างแล้งบ้าง ไม่เป็นปัญหาเฉพาะเกษตรกรแต่ยังมีปัญหาถึงผู้รับเหมาก่อสร้างด้วย

ฝนตกบ่อย ๆ ทำงานไม่ได้ ส่งงานให้ส่วนราชการผู้ว่าจ้างไม่ทันครับท่าน

ส่งงานไม่ทันตามกำหนดในสัญญา ถูกปรับทุนหายกำไรหด เผลอ ๆ แจ๊กพอตแตกถูกเลิกสัญญา ขึ้นบัญชีดำที่ในวงการเรียกกันว่าบัญชีหนังหมาเป็นผู้ทิ้งงาน

ที่จริง ส่วนราชการว่าจ้างท่าน ก็ไม่ได้ดุร้ายขนาดผิดสัญญาส่งงานไม่ทันท่านจะเล่นกันให้เจ๊งลูกเดียว

กฎระเบียบที่เกี่ยวกับการนี้ ท่านกำหนดไว้ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้งส่วนราชการผู้ว่าจ้างและเอกชนผู้รับจัดซื้อจัดจ้าง

แต่การทำงานของข้าราชการ มีคำว่าต้องรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ ผู้ใดกระทำการอันได้ชื่อว่าไม่รักษาผลประโยชน์ของทางราชการแล้วไซร้

มีพวงมาลัยคล้องคอตั้งแต่ ไล่ออก ปลดออก ให้ออก ตัดเงินเดือนจนถึงว่ากล่าวตักเตือน

แต่ละอย่างน่าเข้าใกล้ซะที่ไหน

ว่ากันถึงเรื่องการปรับฐานส่งงานไม่ทันตามกำหนด หลวงท่านก็ไม่ได้ตึงไม้ตึงมือว่าจะปรับลูกเดียว มีเหตุสุดวิสัยควรผ่อนปรน ก็ยังให้มาคุยขยายเวลากันได้

แต่ไอ้ตรงนี้ก็ต้องระวังท่านผู้รับเหมาที่เขี้ยวโง้ง อาศัยเหตุขอขยายเวลาอยู่เรื่อยจนทางราชการแทบไม่ได้ประโยชนเรื่องมันจึงต้องปรับกันมั่ง

ห้ามมาอ้างแบบนักวิชาการว่าหน้าข้าวหน้าเหล้า นักเลงเขาไม่ทำกัน

องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)แห่งหนึ่งทำสัญญาจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัดคู่สัญญาให้ก่อสร้างสระน้ำ

ฝนตกหนักผิดฤดูกาลห้างผู้รับจ้างทำงานไม่ทันตามกำหนดแปดสิบวันขอขยายเวลาก่อสร้างอีกสี่สิบวันและของดค่าปรับ อบต.ผู้ว่าจ้างท่านก็ตกลงแต่ให้ขยายเวลาและงดค่าปรับแค่ ๒๕ วัน

ทำบันทึกแนบท้ายสัญญาจ้างไว้เป็นหลักฐานลายลักษณ์อักษร

ฝนยังตกหนักทำงานไม่เสร็จตามกำหนดยาวไปหน่อยจึงขอลดค่าปรับหน่อยเถอะท่าน

คราวนี้ อบต.ผู้ว่าจ้างขอคิดค่าปรับตามสัญญาซึ่งตกลงกันที่ ร้อยละ ๐.๒๐ ซึ่งห้างผู้รับจ้างเห็นว่า ไม่ถูกต้องตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุขององค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๘ เพราะงานนี้เป็นการจ้างซึ่งต้องการผลสำเร็จของงานทั้งหมดพร้อมกัน ตาม ข้อ ๕๖ แห่งระเบียบนี้ที่กำหนดค่าปรับเป็นรายวันในอัตรา ร้อยละ ๐.๐๑–๐.๑๐ ของราคางานจ้าง ท่านคิดตั้ง ๐.๒๐ มันเกินขนาดนะท่าน

เถียงข้อกฎหมายได้น่าฟัง อบต.ผู้ว่าจ้าง ตกลงทำบันทึกแนบท้ายสัญญาเอาแค่ ๐.๑๐ ตามนั้น

ไม่ทราบท่านกลับไปนอนคิดอีท่าไหน กลับมาใหม่ไม่เป็นนักโลงนักเลงละวะเตะสำรับวงข้าววงเหล้ากระจายขอคิดค่าปรับ ร้อยละ ๐.๒๐ เหมือนเดิม ให้ทำบันทึกตกลงใหม่เรียกค่าปรับเต็มพิกัด กรณีนี้ไม่เข้าข้อ ๕๖ มีไรมั้ย

มีเซ่ มีคดีที่ศาลปกครองไง ห้างผู้รับจ้างเป็นผู้ฟ้องคดีขอให้อบต.ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้หรือคืนเงินค่าปรับที่ปรับเกินอัตราพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง

ศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยว่าผู้ถูกฟ้องคดีกับผู้ฟ้องคดีทำบันทึกตกลงกันโดยสมัครใจ การขุดสระน้ำ ไม่เข้าลักษณะการจ้างที่ต้องการผลสำเร็จของงานพร้อมกัน ตามข้อ ๕๖ เมื่อปรับตามสัญญาในอัตราไม่เกิน ร้อยละ ๐.๒๐ จึงเป็นไปตามเงื่อนไขที่ตกลงในสัญญา พิพากษายกฟ้อง

ห้างผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์

ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัย ห้างผู้ฟ้องคดีผิดสัญญา ไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จตามที่กำหนดในสัญญา จึงต้องรับผิดต่ออบต.ผู้ถูกฟ้องคดี

ส่วนต้องรับผิดชำระค่าปรับเท่าใด ท่านว่าสัญญาขุดสระน้ำ ผู้รับจ้างต้องขุดให้แล้วเสร็จ จึงจะสามารถใช้และได้ประโยชน์จากสระน้ำ

สัญญาจ้างดังกล่าวจึงเป็นสัญญาที่ต้องการผลสำเร็จของงานพร้อมกัน และระเบียบกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวเป็นกฎหมายที่ให้อำนาจ อบต. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐดำเนินกิจการทางปกครองที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

ระเบียบดังกล่าวจึงเป็นกฎหมายมหาชนซึ่งลักษณะเป็นกฎหมายบังคับ (ius cogen) และเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย จึงมิอาจเลี่ยงที่จะไม่ปฏิบัติตามหรือตกลงเป็นอย่างอื่น

ข้อตกลงในเรื่องอัตราค่าปรับตามสัญญาที่ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติในข้อ ๕๖ วรรคหนึ่งของระเบียบดังกล่าว ไม่ว่าผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นคู่สัญญาฝ่ายเอกชนจะให้ความยินยอมหรือไม่ก็ตาม ผู้ถูกฟ้องคดีซึ่งเป็นส่วนราชการส่วนท้องถิ่นคู่สัญญาก็ไม่มีอำนาจทำข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเกินกว่าที่กฎหมายให้อำนาจไว้

ข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราค่าปรับที่กำหนดในสัญญาจ้างจึงใช้บังคับไม่ได้ ผู้ฟ้องคดีไม่จำเป็นต้องชำระค่าปรับเกินอัตราร้อยละ ๐.๑๐ ของราคางานที่จ้าง ผู้ถูกฟ้องคดีมีสิทธิปรับวันละ ๑,๓๑๘ บาท รวม ๒๑๗ วันเป็นเงินค่าปรับ ๒๘๖,๐๐๖ บาท

ท่านว่าเบี้ยปรับที่สูงเกิน ส่วนศาลมีอำนาจลดลงได้ตามมาตรา ๓๘๓วรรคหนึ่งแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

คดีนี้ วงเงินค่าจ้าง ๑,๓๑๘,๐๐๐ บาท ผู้ถูกฟ้องคดีไม่ได้รับความเสียหายแต่ ปรับผู้ฟ้องคดีถึง ๕๗๒,๐๑๒ บาท คิดเป็นร้อยละ ๔๓ ของวงเงินค่าจ้าง ค่าปรับจึงสูงเกินส่วน

และตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวกำหนดว่า กรณีคู่สัญญาไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาและต้องมีการปรับหากจำนวนเงินค่าปรับจะเกินร้อยละสิบของวงเงินค่าจ้างให้ประธานกรรมการบริหารบอกเลิกสัญญาโดยผ่านความเห็นชอบของผู้สั่งซื้อสั่งจ้างก่อน


เห็นได้ว่า ระเบียบดังกล่าวมีเจตนารมณ์ให้จำนวนเงินค่าปรับสูงสุดเพียงร้อยละสิบ ของวงเงินค่าจ้างกรณีที่เกิดความล่าช้าโดยผู้ว่าจ้างยังมิได้บอกเลิกสัญญา

ดังนั้นเงินค่าปรับที่เหมาะสมต้องชำระควรเป็นร้อยละสิบคือเป็นเงิน ๑๓๑,๘๐๐ บาท เมื่อผู้ฟ้องคดีหักค่าปรับไว้ ๕๗๒,๐๑๒ บาท จึงต้องคืนค่าปรับให้ผู้ฟ้องคดี ๔๔๐,๒๑๒ บาท แต่ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ขอคืนเงินค่าปรับจำนวน ๒๘๖,๐๐๖ บาท พร้อมดอกเบี้ยจึงให้คืนในจำนวน ๒๘๖,๐๐๖ บาท พร้อมดอกเบี้ยจนกว่าชำระเสร็จ พิพากษากลับเป็นให้คืนเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดให้แก่ผู้ฟ้องคดี (คำพิพากษาที่ อ. ๓๔๕/ ๒๕๕๐).

(สำหรับการคืนค่าปรับพร้อมดอกเบี้่ย ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายคืน คือ ร้อยละ 7.5 ตามที่กฎหมายกำหนดเด้อ)

คำวินิจฉัยศาลปกครองสูงสุดโดยละเอียดดูในเว็ปไซต์ได้ครับผม

พิสิษฐ์ พลรักษ์เขตต์

www.naipisit.com praepim @ yahoo.com

ที่มา: กฎหมายข้างตัว เดลินิวส์ออนไลน์ วันเสาร์ ที่ 11 มิถุนายน 2554

No comments:

Post a Comment