Sunday, May 9, 2010

ฉี่–ใครว่าไม่สำคัญ (3)

เรื่อง "ฉี่" เข้าตอนที่ 3 แล้วนะครับ อย่าลืมตัดเก็บรวมไว้

ขอย้ำ อีกครั้งหนึ่งครับ ว่าเรากำลังคุยกันแบบชาวบ้าน คือ พูดกันภาษาง่ายๆ และเป้าหมายสำคัญของบทความตอนนี้ อยู่ที่ว่า "อย่า เห็นว่าเรื่องฉี่เป็นเรื่องเล็ก ความจริงนั้นเราฉี่กันอยู่ทุกวันเป็นเรื่องธรรมดามาหลายสิบปีแล้ว" และถ้านับจำนวนครั้ง ลองคิดดูเล่นๆ นะครับ อย่างผมอายุ 85 นี่ฉี่มาแล้ว 196,150 เชียวนะครับ ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

เพราะเราฉี่กันเป็นเรื่องชีวิตประจำวัน ธรรมดาๆนี่แหละ ถ้ามีอะไรผิดปกตินิดๆหน่อยๆ เราก็มักจะไม่ได้สังเกต

แต่ เรื่องฉี่ผิดปกตินิดหน่อยนี่แหละเป็นเรื่องสำคัญ สำคัญถึงขนาดว่าอาจจะเป็นสัญญาณของการเจ็บป่วยเรื่องใหญ่ๆ ใหญ่ถึงขนาดต้องเสียชีวิตเลยก็เป็นได้

เพราะฉะนั้นผมจึงได้พยายามเอา เรื่องฉี่ แบบต่างๆ (ไม่ใช่นั่งฉี่, นอนฉี่, ยืนฉี่, หรือนั่งยองๆฉี่นะครับ แต่เป็นแบบชนิดของฉี่) มารวบรวมไว้ และพูดคุยกันภาษาชาวบ้านแบบง่ายๆ เราก็จะได้ทั้งความรู้และคลายเครียดจากเรื่องซึ่งกำลังแสนเครียดขณะนี้ลง บ้าง ดีไหมครับ

วิธีดูความผิดปกติของฉี่ได้พูดมาแล้ว 2 ครั้งนะครับ คือให้ดูว่า

1. ปัสสาวะฉี่มากน้อยอย่างไร

2. ฉี่มีสีอะไร

3. ฉี่มีกลิ่นอย่างไร (ดมห่างๆก็ได้หรอก ครับ คงไม่ถึงกับต้องเอาปัสสาวะมาป้ายจมูก หรอก)

4. เบ็ดเตล็ด ซึ่งในข้อนี้มีข้อปลีกย่อยหลาย อย่าง และท่านที่ป่วยเกี่ยวกับเบาหวาน หรือเกี่ยวกับไตและระบบปัสสาวะ แพทย์ประจำตัวของท่านต้องเตือนอยู่แล้วว่า ยาที่รับประทานอยู่นั้น จะให้ผลเกี่ยวกับปริมาณ-กลิ่น-และสีอย่างไร

และวิธีที่ดีที่สุด คุณหมอท่านก็จะสั่งให้ตรวจทางห้องแล็บอยู่แล้วว่า ปัสสาวะของคุณจะเป็นกรดเป็นด่าง จะมีโปรตีนหรือสารอื่นๆอย่างไรติดออกมาด้วย

มี อีกอย่างหนึ่งครับ ซึ่งควรจะอยู่ในข้อ สังเกตข้อเบ็ดเตล็ด หรือข้อ 4 แต่ครั้งที่แล้วไม่มี โอกาสจะรวมไว้ เพราะ หน้ากระดาษหมดเสียก่อน

ข้อปลีกย่อยอีก อย่างหนึ่งซึ่งเคยถูกถามบ่อยๆก็คือ ปัสสาวะมี ฟองมาก

ฟอง ในที่นี้เป็นฟองเกือบจะเหมือนโซดาเวลาเปิดขวด พอเราฉี่ออกมาปัสสาวะที่อยู่ในโถจะเป็นฟองมากผิดปกติ และถ้าเราสังเกต โดยละเอียดผสมกับเรื่อง ปริมาณปัสสาวะ รวมทั้ง เรื่องสีและกลิ่นด้วยแล้วก็จะรู้สึกว่า เอ เราน่าจะมีอะไรผิดปกติเกี่ยวแก่ระบบขับถ่ายปัสสาวะของ เราเสียแล้ว

ฉะนั้นให้ลองสังเกตด้วยนะครับว่า ฉี่ ของเรามีฟองมากผิดปกติหรือเปล่า

เรื่อง ฉี่มีฟองนี้เป็นเรื่องต้องพูดกันยาว และถ้าจะเอาเหตุผลกันให้ได้ว่าเป็นเพราะอะไรและเกี่ยวข้องกับโรคต่างๆอย่าง ไรบ้างแล้ว ต้องพูดกันยาว และต้องสาวกันไปถึง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวแก่ ความผิดปกติของอวัยวะต่างๆของระบบขับถ่าย (ปัสสาวะ ไต กระเพาะปัสสาวะ และแม้แต่อวัยวะ อื่นๆใกล้เคียงกัน เช่น ต่อมลูกหมากก็อาจจะเกี่ยวด้วย)

ยกตัวอย่างอาการ ป่วยอย่างหนึ่งเกี่ยวกับระบบปัสสาวะที่เรียกว่า ฟันโคนี่’ส ซินโดรม (FANCONI’s SYNDROME)

คำ ว่า SYNDROME นี้ผมเคยอธิบายให้แฟนๆฟังดูแล้วว่าอธิบายยาก เพราะมันจะเป็นอาการหลายอาการของโรคหลายโรค มารวมกันอยู่ในโรคเดียว ภาวะเดียวกัน ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไรแน่ เขาก็เลยเรียกว่า SYNDROME

เฉพาะ ฟันโคนี่’ส ซินโดรมนี้ อาการของเขาก็คือ ในปัสสาวะมีน้ำตาลกลูโคส ไบคาร์บอเนต ฟอสเฟต ยูริค แอซิด โปแตสเซียม โซเดียม และกรดแอมมิโน (โปรตีน) ออกมาพร้อมกับปัสสาวะ

อาการของฟันโคนี่’ส นี้ เกิดขึ้นได้ 2 แบบ คือ เป็นจากกรรมพันธุ์ และเป็นอาการซึ่งเกิดขึ้นมาพร้อมกับโรคไตและปัสสาวะก็ได้

ถ้าหากเป็นเพราะกรรมพันธุ์ ก็จะเป็นตั้งแต่ เด็กๆ อาการของผู้ป่วยจะมีปัสสาวะออกมากผิดปกติและฉี่บ่อยแต่อายุยังน้อย

ส่วน ผู้ที่ไม่เป็นเพราะกรรมพันธุ์นั้น จะมี อาการป่วยเมื่อมีอายุมากขึ้น บางคนป่วยเพราะทำงานคลุกคลีกับสถานที่มีโลหะหนักอยู่มาก เช่น ทำงานอยู่ในโรงงานแบตเตอรี่ เป็นต้น นอกไปจากนั้นก็อาจจะเป็นเพราะร่างกายขาดวิตามิน D มาเป็นเวลานาน หรือเพราะผ่าตัดเปลี่ยนไต หรือเป็นมะเร็งที่ไต หรือเพราะกินสารอาหารที่ทำให้เกิดแอมเมิลลอยด์เข้าไปเยอะ

อาการอีก อย่างของผู้ป่วยเป็นฟันโคนี่’ส ซินโดรม ก็คือ จะมีอาการปวดกระดูก ร่วมด้วย แต่อาการทั้ง หมดนั้นเพียงแต่สังเกตอาการอย่างเดียวคงไม่ พอ คงจะต้องให้แพทย์สั่งตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ และตรวจจากพิธีการทางห้องทดลองอีกหลายอย่าง

ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่าง ซึ่งอยากจะให้เพื่อนๆ ชาวชีวจิตได้รู้ล่วงหน้าว่า เมื่อสังเกตเห็นมีอาการ ผิดปกติเรื่องปริมาณปัสสาวะ สีปัสสาวะ กลิ่นปัสสาวะ และเมื่อกินยาบางอย่างเป็นประจำเป็นเวลานาน เกิดอาการผิดปกติทางระบบปัสสาวะขึ้นมา

ก็ขอให้สำเหนียกไว้ แล้วสังเกตต่อไป ถ้ายังมีอาการระยะยาว และอาจจะมีอาการอย่างอื่นเพิ่มขึ้นก็ต้องตรวจกันอย่างละเอียดแล้ว

ก่อนจะถึงโรคสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับฉี่หรือปัสสาวะ มีข้อสังเกตเพิ่มขึ้นก็คือ อาจจะมี อาการ เกี่ยวกับระบบอื่นๆอีก ดังนี้

1. ฉี่บ่อยเกินไป และฉี่ออกช้า หรือฉี่ๆ หยุดๆ ฉี่ไม่สุด ตื่นกลางคืนบ่อย อาจจะเกี่ยวกับโรคของต่อมลูกหมากด้วย (แฮะๆ คุณผู้หญิงไม่เกี่ยวนะครับ)

2. ฉี่บ่อย แถมยังมีอาการหิวง่าย พร้อมกับกระหายน้ำมากๆด้วย (ไม่เกี่ยวกับอากาศร้อน) ให้สงสัยว่าอาจจะเกี่ยวกับเบาหวานให้เช็กเลือด เช็กปัสสาวะ และเช็กน้ำตาลด่วน

3. รู้สึกปวดฉี่บ่อย พยายามกลั้นไว้ได้ บางครั้ง แต่ต่อมากลั้นปัสสาวะไม่ได้เลย เฉพาะ คุณผู้หญิง ให้สังเกตว่า คุณเครียดมากหรือเปล่า

4. ฉี่กลางคืนบ่อยยิ่งหน้าร้อนๆอย่าง นี้ ตื่นบ่อยมาก คุณชอบดื่มกาแฟหรือชามาก เกินไปหรือเปล่า ทุเลากาแฟ-ชาลงเสียบ้าง

5. ฉี่บ่อยอีกเหมือนกัน แต่ก่อนไม่เคยเป็น ให้ทบทวนดูว่า คุณกินยาลดความอ้วน ยาขับปัสสาวะ ยาลดไขมันมากเกินไปหรือเปล่า

6. กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ให้ดูว่ามีอะไรผิดปกติเรื่องระบบย่อย (ท้องเดิน ท้องเสีย ปวด ท้อง ท้องผูก) หรือคุณ มีอาการอัมพาต เส้น โลหิตในสมองแตก หรือเส้นเลือดอุดตัน

7. โรคเกี่ยวกับสมอง จะเกี่ยวกับการฉี่ผิดปกติทั้งสิ้น โรคนี้คู่กันกับเรื่องสมอง คงจะต้องพูดกันโดยละเอียดละครับ ทั้งการปฏิบัติตัว การป้องกันและการแก้ไข

คราวหน้าจะต้องขึ้นเรื่องโรคเกี่ยวกับฉี่แล้วนะครับ.

*******
สาทิส อินทรกำแหง

No comments:

Post a Comment