Sunday, May 9, 2010

ฉี่–ใครว่าไม่สำคัญ (1)

เรื่องปัสสาวะ–ขอโทษนะครับ ขอพูดแบบชาวบ้านว่าเรื่องฉี่นี้สำคัญมากสำหรับชีวิตของมนุษย์และสัตว์

สำคัญมากสำหรับสุขภาพ ถ้าฉี่ไม่ได้ หรือฉี่ไม่ออก เราก็ต้องตาย

แม้ แต่เรื่องการเมือง เข้าใจว่าคนไทยเกือบทั้งชาติคงได้ทั้งดูและฟังข่าวเมื่อเย็นวันที่ 28 มีนาคมนะครับ กำลังเจรจาเรื่องสำคัญระดับประวัติศาสตร์ของชาติทีเดียวละ บรรยากาศกำลังดี พูดจารู้สึกเข้าใจกันได้ ดูแล้วก็น่ารักทั้งคู่

อยู่ๆเกิดปวดฉี่ขึ้นมา ต้องหยุดพักการเจรจาเพื่อไปฉี่ พอทำธุระเสร็จแล้วก็หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสพูดจากันต่อไปได้

เห็นไหมครับว่าเรื่องฉี่สำคัญอย่างไร ผมเฝ้าดูเหตุการณ์วันนั้นอย่างใจจดใจจ่อ

เลยตัดสินใจว่าจะเขียนเรื่องสำคัญ คือ เรื่องฉี่อาทิตย์นี้

จะ ขอพูดแต่ถึงเรื่องฉี่ในด้านสุขภาพเท่านั้น เรื่องฉี่การเมืองผมจะไม่พูดถึง เพราะยังไม่รู้ผลว่าจะเป็นอย่างไร เห็นว่าจะเจรจากันต่อวันรุ่งขึ้น (วันที่ 29)

ขอให้ลงเอยกันด้วยดีเถิด ในฐานะประชาชนคนเดินถนนคนหนึ่ง ผมทุกข์กายทุกข์ใจแสนสาหัสกับเหตุการณ์ของบ้านเมืองแบบนี้

ขอพูดถึงเรื่องฉี่กับสุขภาพต่อไป

ที่ว่าฉี่ไม่ออกแล้วจะต้องตายนั้น ความจริงเราจะไม่ตายทันทีหรอกครับ

แต่เราจะเริ่มอ่อนแอและเจ็บปวดไปทีละน้อยๆ ในขณะเดียวกัน แต่ละส่วนหรือแต่ละระบบของร่างกายก็จะค่อยๆเริ่มตายไป

- จากฉี่ไม่ออก จะมีอาการพิการไปถึงไต

- จากไตก็จะติดต่อไปถึงระบบหายใจ (ปอด หลอดลม หัวใจ)

- จากระบบหายใจก็เข้าถึงหัวใจเลย

- จากหัวใจก็ถึงสมอง

ถึงตอนนี้ก็แปลว่าจบแล้ว จบจริงๆครับ ทั้งกายทั้งใจไปพร้อมกันหมดแล้วจะเหลืออะไร

มาลองพิจารณาดูกันก่อนไหมครับ ว่าการฉี่ ตามปกตินั้นคืออย่างไร

น้ำและของเหลวทุกอย่างนั้นเมื่อเรากลืนเข้าไปแล้ว จะต้องผ่านไต

ไต จะต้องทำหน้าที่กลั่นกรองของสกปรก ไตจะขับออกมาเก็บไว้ที่กระเพาะปัสสาวะ ของดีๆที่ยังเป็นประโยชน์สำหรับร่างกายก็จะเก็บกลับย้อนไปไว้เลี้ยงร่างกาย ต่อไป

ต่อไปนี้เป็นวิธีสังเกตว่าฉี่ของเราเป็นปกติหรือไม่

อัตราปกติของปริมาณปัสสาวะนั้น เราคิดเป็นปริมาณต่อวัน

วันหนึ่งๆเราฉี่อย่างต่ำ 800 มิลลิลิตรหรือ ML ต่อวัน และอย่างมากที่สุด 2,000 มล.หรือ ML

ถ้า 2,000 มล. ก็เท่ากับน้ำ 2 ลิตร

ถ้า 800 มล. ก็เกือบจะเท่ากับน้ำหนึ่งลิตร (คิดง่ายๆ 500 มล.ก็เท่ากับครึ่งลิตร + ด้วย 300 มล. ก็เกือบเท่าหนึ่งลิตรนั่นแหละครับ)

เคยคุยกันอย่างนี้ก็มีเพื่อนๆถามว่าปริมาณที่ว่ามานี้ เกี่ยวข้องกับคนตัวใหญ่หรือตัวเล็กหรือเปล่า?

ขอ ตอบว่าเรื่องขนาดของคนคงไม่เกี่ยวมากนัก เว้นแต่ว่าบางคนมีขนาดผิดปกติ เช่น เตี้ยเป็นคนแคระ สูงไม่ถึงหนึ่งเมตร หรือสูงผิดปกติตั้งสองเมตรครึ่งขึ้นไป อย่างนี้ปริมาณปัสสาวะก็คงมากน้อยต่างกว่าคนปกติมาก

แต่จริงๆแล้วปริมาณของปัสสาวะจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง

1. สำคัญที่สุดก็คือ คุณเป็นคนกินน้ำตามปกติธรรมดาหรือเปล่า ถ้าคุณกินน้ำแบบชีวจิต คือ วันละประมาณ 4-6 แก้ว ปัสสาวะของคุณก็จะออกมาประมาณ 800 มล. หรือเกือบหนึ่งลิตรต่อวัน หรือถ้าคุณเป็นคนเล่นกีฬาหนักๆ อย่างผมที่เวลาผมออกกำลังรำตะบองหรือเล่นเทนนิส เหงื่อผมจะออกขนาดบิดเสื้อ เหงื่อจะออกมาเป็นน้ำไหลโจ๊กทีเดียว

ถ้าอย่างนั้นผมก็จะดื่มน้ำเยอะๆ บางครั้งทั้งร้อนและเหงื่อออกมาก จะดื่มรวดเดียว ประมาณหนึ่งลิตร แล้วจึงต่อด้วยทยอยดื่ม ห่างกันประมาณ 10 นาที 20 นาที เรื่อยๆจนดื่มได้ประมาณลิตรครึ่งถึง 2 ลิตร

โปรดสังเกตนะครับว่า ผมใช้คำว่า ทยอยดื่ม นั่นก็คือเมื่อร้อนมากและเหงื่อออกมาก เราก็จะกระหายน้ำมาก บางครั้งกระหายน้ำจนรู้สึกตาลายเหมือนจะเป็นลม

เมื่อ เป็นอย่างนี้เราก็มักจะดื่มน้ำมาก ดื่มเอาๆเหมือนคนที่หลงไปอยู่กลางทะเลทราย และความที่คุณเชื่อว่าเหงื่อออกมากหมดแรง คุณก็เลยคิดว่าต้องดื่มน้ำทดแทนให้มันท่วมตัวคุณไปหมด

ถ้าเป็นอย่างนั้น ร่างกายคุณรับไม่ได้ กระเพาะของคุณก็รับไม่ไหว เมื่อรับไม่ไหว คุณก็จะอาเจียนออกมา แล้วคุณก็จะเป็นลม

เพราะ ฉะนั้น ถ้าคุณเป็นคนชอบออกกำลังหรือเล่นกีฬาหนักๆบ่อยๆ ก็ให้รู้จักวิธีดื่มน้ำทดแทนให้ถูกต้อง วิธีดีที่สุด ก่อนออกกำลังกายหนัก ดื่มน้ำเสียก่อนสัก 2-3 อึก

ต่อจากนั้น เมื่อหลังออกกำลังกายสักครึ่งชั่วโมง เหงื่อออกมากแล้ว ดื่มน้ำครั้งละครึ่งแก้ว จนรู้สึกว่าร่างกายได้น้ำพอเพียงแล้ว ก็ไปอาบน้ำอาบท่า อาบน้ำเย็นแล้วถูเนื้อถูตัวให้สะอาด จะสบายเหมือนขึ้นสวรรค์

อยากจะให้ระวังอะไรอีกอย่างหนึ่งครับ เรื่องข่าวลือ พักหนึ่งเมื่อหลายปีที่ผ่านมา อยู่ๆก็มีตำรามาจากไหนก็ไม่ทราบ ให้ดื่มน้ำรักษาโรค

เขา จะบอกว่าตื่นเช้าขึ้นมาให้ดื่มน้ำก่อน 5 แก้ว และต่อจากนั้นให้ดื่มน้ำให้ได้ตลอดวันต้องให้ได้น้ำถึง 3 ลิตร บางคนเขาบอกว่าป่วยมาก ต้องรักษาอาการป่วยด้วยการดื่มน้ำถึงวันละ 5 ลิตร

ผมสนใจจึงพยายามค้นคว้าตำราต่างๆถึงเรื่องการกินน้ำแบบนี้ ไม่เคยเห็นมีในตำราการแพทย์แบบไหนเลยครับ

และของจริงที่ได้พบมาก็คือ มีผู้เชื่อเรื่องนี้ และปฏิบัติแบบนี้ ป่วยหนักและถึงแก่ชีวิตมาแล้วก็มี

อาการ ป่วยที่ผู้ปฏิบัติตามสูตรกินน้ำมากเกินปกตินี้ เรียกว่า POLYURIA เป็นอาการป่วยจากการที่กินน้ำมากเกินวันละ 2,000 ML หรือ 2 ลิตร (กินเป็นประจำ)

อาการของ POLYURIA จะเกี่ยวข้องมากสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน หรือกำลังมีอาการเกือบจะเป็นเบาหวานอยู่แล้ว อาการหนักซึ่งจะเป็นต่อไปก็คือ ไตวาย ตัวบวม หายใจไม่ออก ระบบไตและหัวใจล้มเหลว

นอกจากนั้น อาการของ POLYURIA ยังเกี่ยวข้องไปถึงผู้ป่วยไทรอยด์ และผู้ที่ป่วยด้วยการขับถ่ายปัสสาวะผิดปกติ เนื่องมาจากระบบฮอร์โมนโดยเฉพาะฮอร์โมน ALDOSTERONE ผิดปกติร่วมกัน

แถม ยังมีอาการผิดปกติที่ระบบเลือด พลาสมาในเลือดจะมีปริมาณสูงอย่างรวดเร็ว ยิ่งทำให้โรคไตและโรคหัวใจมีอาการหนักจนบางครั้งแก้ไขไม่ทัน

เพราะ ฉะนั้น ข่าวลือเกี่ยวกับยาวิเศษและการรักษาตัวแบบแปลกๆนั้น ฟังหูไว้หูและกรุณาพิจารณาดูให้ดีถึงเหตุผลด้วยนะครับว่าควรเชื่อได้หรือไม่

ยังไม่จบครับ ยังมีอีกหลายตอนสำคัญๆทั้งนั้น อย่าลืมตัดเก็บไว้ด้วย

*****
สาทิส อินทรกำแหง

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ 4 เมษายน 2553

No comments:

Post a Comment