Thursday, May 6, 2010

มากกว่าความสวย คือความฉลาด

พอลล่า เทเลอร์: มากกว่าความสวย คือความฉลาด
สิ่งแรกที่นึกถึงเมื่อพูดถึง พอลล่า เทเลอร์ คือรอยยิ้มหวานๆที่แสนสดใส และจากบทสนทนานี้ การันตีว่ารอยยิ้มของผู้หญิงคนนี้สดใสและไร้มลพิษจริงๆ ในความสวยที่ถือเป็นสังขารอันไม่เที่ยงนี้ เธอซ่อนสิ่งที่เที่ยงกว่าไว้ภายใน คือความฉลาดและมุมมองชีวิตแบบบวกๆ วิธีคิดในการมองโลกของเธอ เป็นอย่างไร มาติดตามกัน


“จริงๆ แล้วพอลล่าเหมือนไม่มีศาสนา เพราะ นับถือหมดทั้งพุทธและคริสต์ ทางแม่เป็นพุทธ ส่วนพ่อเป็นคริสต์ ตอนเด็กอยู่ออสเตรเลียมีโอกาสได้ไปวัดแค่ปีละครั้งสองครั้ง ตอนคนไทยจัดงานแล้วรวมตัวกันไปทำบุญที่วัด นี่คือส่วนที่เป็นพุทธ แต่พอโตขึ้น ตั้งแต่ประถมจนจบไฮสกูลเรียนโรงเรียนคริสต์มาตลอด เลยทำกิจที่เกี่ยวกับคริสต์ ทั้งนี้ทั้งนั้นพอลล่าจะนำสิ่งที่ดีๆ ของแต่ละศาสนามาใช้ เพราะลึกๆ แล้วคิดว่าทุกศาสนาต่างก็อยากให้เราเป็นคนดี จะแตกต่างกันก็แค่วิธีสอนก็เท่านั้น”

บางคนมีศาสนาไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ถ้าถึงวันที่ชีวิตมีปัญหา ไม่สบายใจเมื่อไม่มีศาสนาจะแก้อย่างไร
ถ้ามีอะไรที่เครียดมากๆ แล้วการไปวัดช่วยได้ พอลล่าก็มาทางพุทธ เช่น ไปทำบุญทำทาน ปล่อยนกปล่อยปลา ทำหมด (ยิ้ม) แต่ส่วนใหญ่จะใช้วิธีระบายทุกข์ออกจากตัวด้วยการคุยกับเพื่อน การได้พูดคุยกับคนอื่น ทำให้เราได้รับแง่มุมที่อยู่นอกเหนือจากกรอบที่สมองเราจะคิดได้
ถ้าคิดเองก็อาจจะวนอยู่กับที่ ทำไมเป็นแบบนี้ ใครผิดใครถูก แต่พอเราคุยกับคนอื่น ทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วยังมีอีกมุมหนึ่ง

ปัญหาที่คนในวัยพอลล่าประสบพบเจอบ่อยๆ คือเรื่องความรัก บางคนหาทางออกด้วยการฆ่าตัวตาย พอลล่าเองแก้ปัญหานี้อย่างไร
ทุกครั้งที่มีปัญหา เช่น เลิกกับใครไป ทะเลาะกับคนนั้นคนนี้ หรือ งานที่อยากได้มากแต่สุดท้ายกลับไม่ได้ เมื่อพบกับความผิดหวังไม่ว่าเรื่องไหน พอลล่าเชื่อในคำพูดที่ว่า…Blessing in Disguise เหมือนกับว่า วันนี้เราไม่รู้หรอกว่าทำไมเราถึงไม่ได้งานนี้ ทำไมถึงเลิกกับแฟนที่รักมาก แต่ในอนาคต มันจะมีเรื่องที่ทำให้เราพูดว่า “อ๋อ...ถ้าเราได้งานนั้นไป เราก็จะไม่ได้งานนี้” หรือ “ถ้าเราไม่เลิกกับผู้ชายคนนั้น เราก็จะไม่เจอผู้ชายคนนี้” พอลล่าเชื่อว่าในอนาคตจะมีสิ่งอื่นมาทดแทนสิ่งที่เราเสียไปวันนี้ ตอนมีปัญหาเราอาจจะยังนึกไม่ออก แต่ถ้าสามารถผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้ วันหนึ่งเราจะเข้าใจ
สำหรับคนที่ฆ่าตัวตายเพราะความรัก พอลล่าว่าเขาคิดสั้นและมุมมองแคบ อยาก บอกว่า ถ้าเสียใจมากๆ อย่าเพิ่งทำอะไรตัวเอง วันหนึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจะมีคนมาทดแทนคนที่เขาจากไป แล้วคนนี้แหละที่จะทำให้เรารู้สึกว่า ในวันนั้นเราสูญเสียคนนั้นไปเพื่อจะได้มาเจอกับคนนี้นี่เอง

ตอนนี้การพูดถึงเรื่องศาสนาเป็นเหมือนแฟชั่น พอลล่าคิดเห็นอย่างไรในเรื่องนี้
ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องทำให้ใครเห็นหรือทำเพื่อให้มีเรื่องพูดกับคนอื่น โดย ส่วนตัวถ้าจะทำบุญก็ทำ ไม่ได้อยากให้ใครรู้ จริงๆ การทำบุญเป็นการทำเพื่อตัวเอง แต่ถ้าทำโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้คนอื่นเห็น ต้องถามว่าเราทำเพื่อใครกันแน่ เพื่อเขาหรือเพื่อเรา
จริงๆ พอลล่าชอบการบริจาคมากกว่าที่จะไปทำบุญที่วัด บางครั้งรู้สึกว่าการไปวัด เราทำเพื่อตัวเอง สร้างกุศลให้ตัวเอง แต่ถ้าทำทานหรือบริจาคเหมือนเราไปช่วยคนอื่น เช่น ช่วยเด็กตามมูลนิธิ พอลล่าชอบทำบุญกับเด็ก เพราะมองว่าเขาไม่มีทางเลือกในชีวิตเท่าผู้ใหญ่ ยังไม่มีอำนาจตัดสินใจทำอะไรด้วยตนเอง กว่าเขาจะเลือกอะไรได้ก็เมื่อตอนที่โตแล้วหรือรู้แล้วว่าอะไรผิดหรือถูก การไปช่วยเขาเหมือนให้โอกาสแก่เขา

ถ้ามีเงินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งให้ไปทำอะไรก็ได้แก่สังคม อยากนำไปทำอะไรครับ
อยากทำเรื่อง Education System ให้ดีขึ้นค่ะ ให้ สิทธิ์แก่เด็กทุกคนที่อยากเรียนหนังสือให้ได้เรียน ส่งให้เขาเรียนจนถึงระดับหนึ่ง หลังจากนั้นเขาจะเรียนต่อหรือไม่เรียนก็เป็นสิทธิ์ที่เขาจะเลือกเอง แต่อย่างน้อยขอให้เขาได้รับโอกาสก่อน ตอนนี้พอลล่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ในโครงการ
One Million Pixels of Love (ล้านพิกเซลแห่งรัก) ตอนที่ผู้จัดการบอกว่าเป็นโครงการของมูลนิธิศุภนิมิตฯ
ยอมรับว่าตอนแรกไม่รู้จัก แต่ผู้จัดการบอกว่าเกี่ยวกับการกุศลเลยทำ ตอนหลังพอได้รู้ว่ามูลนิธิศุภนิมิตฯ ก็คือWorld Vision ก็ร้องอ๋อ เพราะรู้จักที่ออสเตรเลีย ตอนเรียนจบพอลล่าและเพื่อนๆ ในห้องเคยช่วยกันเรี่ยไรเงินคนละเหรียญสองเหรียญ รวบรวมแล้วนำไปให้เด็กในโครงการนี้เพื่อเป็นค่าเล่าเรียน
หน้าที่ของพรีเซ็นเตอร์คือช่วยหาเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือเด็กยากไร้ และ ช่วยส่งเสริมสุขภาพแม่และเด็กในโครงการ อมก๋อย เป็นโครงการเกี่ยวกับเรื่องโภชนาการ ไม่ว่าใครก็ทำได้ แค่ส่งเงินให้เดือนละ 540 บาท เงินจำนวนนี้แค่ยอมที่จะไม่ซื้อเสื้อตัวหนึ่งก็ช่วยพวกเขาได้แล้ว ตอนนี้พอลล่าพกใบสมัครเพื่ออุปการะเด็กของมูลนิธิศุภนิมิตฯ ประมาณ 8 ใบติดตัว จะเอาไปให้เพื่อนบังคับเลยว่าต้องช่วย (หัวเราะ) เงินแค่นี้แต่ช่วยชีวิตคนอื่นได้มากมาย ทำเถอะ ไม่ยากเลยด้วย เพราะตอนนี้เขามีวิธีใหม่ คือส่ง sms พิมพ์คำว่า Love ส่งไปที่
หมายเลข 4520020 (ค่าส่งครั้งละ 6 บาท เฉพาะผู้ใช้ทรูมูฟและดีแทคเท่านั้น) ไม่ต้องกรอกใบสมัคร หมด
ข้ออ้างว่าไม่สะดวก แค่นั่งอยู่กับที่แล้วกระดิกนิ้วก็ได้ทำบุญ เป็นอะไรที่ง่ายที่สุดแล้วที่จะทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคม

มีความรู้สึกผิดในใจครั้งไหนที่หากกลับไปแก้ได้ก็อยากกลับไปแก้
วันหนึ่งพอลล่าไปเดินสยามตอนค่ำๆ ระหว่าง กำลังเปิดประตูรถมีน้องผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาหา บอกว่าทำกระเป๋าเงินหาย ไม่มีเงินกลับบ้าน ขอตังค์หน่อย พอลล่านึกถึงเรื่องที่พี่คนหนึ่งที่กองถ่ายเคยเล่าให้ฟังว่าเดี๋ยวนี้มีการ โกงแบบนี้ เลยร้องอ๋อทันที แล้วบอกไปว่า “นี่โกงใช่ไหม” เขายังไม่ทันอธิบาย เพื่อนพอลล่าที่ตามมาถามว่ามีอะไร แล้วบอกให้น้องคนนี้ไปซะ
ทั้งที่ใจเรารู้ว่าเขาโกง แต่อีกความรู้สึกคือ ถ้า เขาไม่ได้โกงล่ะถ้าเขาไม่มีเงินกลับบ้านจริงๆ เงินร้อยสองร้อยที่เสียไปจะมีผลอะไรกับชีวิตเราไหม ก็ไม่มี พอคิดได้ก็อยากกลับไปเอาเงินให้เขา แต่เขาหายไปแล้ว ช่วงแรกรู้สึกว่าดีใจ ไม่โดนหลอก แต่อีกใจก็รู้สึกผิดว่าถ้าเขาไม่ได้หลอก ถ้าเขาลำบากจริงๆ แต่เราไม่ช่วยเขา คิดแต่เรื่องนี้อยู่สองสามวัน โทร.ไปหาพี่ที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟังตอนแรกว่า “ฮือ...สตอรี่ของพี่ทำให้หนูเสียใจ”

อะไรในชีวิตตอนนี้ที่จะทำให้พอลล่าทุกข์ได้มากที่สุด
ความรักค่ะ พอลล่าเป็นคนที่แคร์เรื่องความรักมาก ไม่ ใช่แค่ความรักแบบแฟนอย่างเดียวนะ แต่เป็นความรักที่มีต่อเพื่อนด้วย ถ้าทะเลาะกับเพื่อนเมื่อไร จะรู้สึกแย่ทันที มองว่ารีเลชั่นชิปเป็นสิ่งที่เติมเต็มชีวิต ลองสังเกตสิ ถ้ารีเลชั่นชิปในชีวิตเต็ม ไม่ว่าทำงานอะไรที่ไหน ก็มีแรงทำอย่างเต็มที่ แต่ถ้ามีปัญหา เช่น ทะเลาะกับแฟน กับเพื่อน หรือพ่อแม่ งานจะตก ไม่ค่อยอยากไปทำงาน ต่อให้ทำงานมีเงินเยอะแยะ แต่ไม่มีคนแชร์ด้วย ชีวิตก็ไม่มีความสุขหรอกค่ะ

ขอถามถึง Secret ที่ทำให้เป็นคนยิ้มแย้มสดใสได้ตลอดเวลา
พยายามทำทุกอย่างให้ตัวเองมีความสุขตลอด พอลล่าใช้ชีวิตค่อนข้างดี และเป็นคนที่ค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเองในการทำงาน จะทำงานที่อยากทำเท่านั้น เพื่อที่จะได้มีแรงลุกขึ้นไปทำทุกวัน ไม่มีอะไรกดดัน พอเป็นอย่างนี้ไม่ว่าเราจะไปไหนก็แฮ็ปปี้ มีรอยยิ้ม แต่บางครั้งก็มีนะที่ยิ้มไม่ออก เพราะในการรับงานก็มีพลาด เช่น ตกลงไว้อย่างหนึ่ง แต่พอไปถึงกลับเป็นอีกอย่าง เจอทีมงานไม่น่ารักก็ทำให้เครียดได้ แต่แม้จะไม่ชอบ ก็จะพยายามหาจุดดีของงานนั้นออกมาให้ได้ก่อน เพื่อจะได้มีแรงทำในตอนนั้น หลังจากนั้นก็จะระวังตัวขึ้น ไม่ต้องไปเจอเขาอีก รูปที่ถ่ายไปก็ไม่ต้องดูให้เครียด

พอลล่ามีโอกาสได้ไปแข่ง The Amazing Race Asia มาด้วย ได้ประสบการณ์หรือแง่คิดที่ดี ติดไม้ติดมือกลับมาบ้างไหม
หลายคนบอกที่พอลล่าสมัครไปก็เพื่อจะได้มีงานตามมา หรือ บอกว่าพอลล่าคงมองในแง่ธุรกิจแน่ๆ แต่ขอบอกว่าไม่ได้คิดตรงนั้นเลย บางคนก็ถามว่า ภาพจะออกมาดีหรือ มันเป็นเรียลิตี้นะ คนอาจจะเกลียดพอลล่าไปเลย หาเรื่องใส่ตัวหรือเปล่า แต่พอลล่าไม่คิดตรงนั้น คิดแค่ว่าเกมมันสนุก อยากไปเล่น ก็เท่านั้น
พอแข่งจบก็รู้สึกว่าเลือกไม่ผิด ชอบทุกอย่างในรายการ ทั้งเพื่อนใหม่ที่ได้เจอ กิจกรรม ที่ได้ทำ บางวันต้องเดินทางไกลไม่ได้หยุดจากฟิลิปปินส์ ไปฮ่องกง ไปนิวซีแลนด์ เหนื่อยมาก แต่ได้เห็นอะไรเจ๋งๆ ตลอดทาง ความที่ทุกภารกิจล้วนสร้างความตื่นเต้น เลยรู้สึกว่าตลอดหนึ่งเดือนที่ถ่ายทำนั้นเหมือนไม่ได้หายใจ อะดรีนาลินหลั่งตลอด ชีวิตทั้งชีวิตอยู่กับซองสีเหลืองที่เขาให้มา แม้แต่ตอนนอนยังฝันถึงเกมการแข่งขัน ตื่นขึ้นมาก็ต้องแข่งต่อ
ที่หนักสุดคือการท้าทายความกลัวในใจตัวเอง อย่าง ช็อตแรกต้องปีนจากตึกที่มีความสูงประมาณ 60 ชั้นไปยังอีกตึกหนึ่ง มันสูงมากและพอลล่าก็กลัวมาก ตามกติกา ถ้ามีอะไรน่ากลัว เขาจะมีตัวเลือกให้ จะไม่ปีนข้ามตึกก็ได้ จะวิ่งขึ้นบันไดก็ได้ แต่ความที่เป็นเกมแข่งกับเวลาการปีนข้ามตึกใช้เวลา10 นาทีแต่ถ้าวิ่งขึ้นบันไดใช้เวลาถึง 40 นาที เลยเลือกปีนข้ามตึก ตอนปีนขาสั่นและกลัวสุดๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้คือทุกอย่างในชีวิตคน ขึ้นอยู่กับความกลัวหรือไม่กลัวนี่แหละ
ถ้าเราเอาความกลัวออกไปจากชีวิต เราจะสามารถทำอะไรได้อีกเยอะมาก หลาย สิ่งที่เราเลือกที่จะไม่ทำก็เพราะความกลัวที่มีในใจ ในครั้งนั้นพอลล่าปีนตึกได้สำเร็จ พอข้ามไปได้รู้สึกว่า “เอ๊ะ เราก็ไม่ตายนี่” นี่เป็น Secret อย่างหนึ่งก็ว่าได้ จำไว้ “อย่าให้ความกลัว หยุดเราจากความสำเร็จ”

วางเป้าหมายในชีวิตไว้อย่างไรบ้าง
ยังไม่รู้ว่าทำอะไรแน่นอน แต่ไม่ว่าจะทำอะไร อยากให้ชีวิตมีความสุข อาจจะยังทำงานตรงนี้ มีครอบครัว แต่ยังไงขอให้มีความสุข จะแต่งงาน จะมีลูกกี่คน จะรวย จะจน ไม่รู้ แต่ขอให้แฮ็ปปี้ก็พอ

เคล็บลับการสร้างสุขของพอลล่า

* เมื่อมีความทุกข์ จงระบายทุกข์ออกจากตัวด้วยการพูดคุยกับเพื่อน เพราะการได้พูดคุยกับคนอื่นจะทำให้ได้แง่คิดที่เราเองอาจนึกไม่ถึงl

* เมื่อ มีปัญหาหรือพลาดจากสิ่งที่หวัง ให้เชื่อในคำพูดที่ว่า Blessing in Disguise แม้วันนี้ไม่รู้ว่าทำไมถึงพลาดหวัง แต่วันหนึ่งเมื่อเวลาผ่านไปเราจะรู้ได้เอง

* วิธีสร้างความสุขให้ตัวเอง คือ พยายามทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุข เช่น ทำงานที่อยากทำ ฯลฯ

* จงอย่าปล่อยให้ความกลัวหยุดเราจากความสำเร็จ

ที่มา: Health & Wellness บมจ.ธนาคารกสิกรไทย kbeautifullife.com 06 พฤศจิกายน 2552

No comments:

Post a Comment