Saturday, June 12, 2010

เด็กนอนเป็นเวลาปัญญาดี ยิ่งนอนตั้งแต่หัวค่ำยิ่งหัวไวยิ่งกว่าเพื่อน

นักวิจัยสหรัฐฯ พบในการศึกษาขนาดใหญ่ ที่สุดครั้งหนึ่งว่า เด็กที่มีพ่อแม่บังคับให้เข้านอนเป็นเวลาจะปัญญาดีกว่าเพื่อน

นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันเออาร์ไอระหว่างชาติอันเป็นหน่วยงานวิจัยที่ไม่หวังผล กำไร ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ยังพบด้วยว่าเด็กหนุ่มสาวที่เข้านอนเป็นเวลา จะเก่งภาษา การอ่านและเลข มากกว่าเพื่อนที่ไม่ได้ทำตัวเช่นนั้น ยิ่งกว่านั้นยิ่งคนไหนนอนแต่ หัวค่ำยิ่งกว่าคนอื่น ก็จะยิ่งเรียนรู้อะไรได้เร็ว

สำหรับเด็กเล็กระดับอนุบาล ถ้าหากนอนน้อยกว่าเวลาที่แนะนำคือ ไม่ถึง 11 ชม. มักจะเรียนไม่ทันเพื่อน

การศึกษาเพื่อต้องการเรียนรู้ผลการพัฒนา ของเด็กวัย 4 ขวบ ได้ทำกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นเด็กเล็กจำนวนถึง 8,000 คน

ผลการศึกษาสรุปได้ว่าการเข้านอนเป็นเวลาอย่างสม่ำเสมอ เป็นตัวพยากรณ์ของผลการพัฒนาการอันดีงาม ที่ถูกร่องถูกรอยที่สุด

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ 12 มิถุนายน 2553

=-=-=-=-=
สอนเด็กให้ดี ต้องไม่ตีไม่ตะคอก

การดุด่าว่ากล่าวเด็กด้วยข้อหาเล็กๆ น้อยๆ ทุกย่างก้าวที่พลาดพลั้งไปนั้น รังแต่จะเป็นการทำให้เด็กต่อต้านแข็งขืนมากยิ่งขึ้นเสียเปล่า

แน่นอน ว่าการฝึกเด็กให้มีวินัยนั้นเป็นสิ่งจำเป็น และจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่ต้องกระทำอย่างระมัดระวัง นุ่มนวล และด้วยความรัก มิใช่อยากให้เด็กเป็นคนดี แล้วตะคอกเอาๆ

จะให้เด็กทำตัวดีมีวินัยได้ อย่างไร ลองมาดูเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสำหรับใช้สอนเด็กกัน จากเว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ไทม์ออฟอินเดียของอินเดีย (http://timesofindia.indiatimes.com)

- วิธีหนึ่งที่ง่ายและได้ผลคือลองยกตัวอย่างให้เด็กทำตาม เพราะเด็กมีแนวโน้มจะเลียนแบบผู้ใหญ่ ถ้าต้องการสร้างนิสัยให้เด็กทำอะไร ผู้ใหญ่ก็ต้องทำด้วย ยกตัวอย่างเรื่องทิ้งขยะลงถัง หรือทำเตียงให้ เรียบร้อยเมื่อลุกจากที่นอน เด็กก็จะเรียนรู้ได้โดยอัตโนมัติและทำตาม

- ถ้าหากเด็กเป็นพวกชอบดื้อในที่สาธารณะ ผู้ใหญ่ต้องอดทนและบอกเหตุผลไปก่อน ถ้าเด็กยังไม่ เอาใจใส่ หรือทำพฤติกรรมไม่ดีอยู่อีก ให้เดินหนีห่างออกมา อย่างไรก็ตาม ต้องจำไว้ว่าจะไม่ขึ้นเสียงหรือตีเด็ก เพราะนั่นจะเท่ากับทำให้เด็กยิ่งลงไปชักดิ้นชักงอ เรียกร้องความสนใจมากขึ้น

- ควรปฏิบัติกับเด็กเหมือนคนโตๆแล้วอยู่ เสมอ เพราะเด็กเองก็อยากได้รับความสำคัญจากผู้ใหญ่ ควรให้คำชมเด็กเมื่อเขาหรือเธอทำงานเสร็จเรียบร้อยดี รวมไปถึงการตัดสินใจเลือกอะไรต่างๆที่เหมาะสม เช่น กล่าวชมว่าเด็กแต่งตัวสวย หรือเลือกรองเท้าได้เหมาะดี เป็นต้น

- พยายามอย่าดุด่าว่ากล่าวเด็ก หากระเบิดอารมณ์เสียออกมา นั่นจะเป็นการเผยจุดอ่อนและเด็กจะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าจะเลือกใช้มัน ให้เกิดผลต่อไปอย่างไร นี่ยังรวมไปถึงเรื่องมารยาทที่ต้องสอนเด็กให้พูดแบบมีหางเสียง และรู้จักพูดขอโทษหากไปผลักโดนใคร

- ถ้าเด็กประพฤติตัวไม่ดีต่อหน้าแขก อย่าตะโกนใส่เด็ก ควรรอจนกว่ากลับถึงบ้านแล้วอธิบายให้ฟังอย่างเข้มงวดว่าพฤติกรรมที่ทำลงไป แล้วนั้นไม่เป็นที่ยอมรับ และต้องเตือนด้วยว่าหากทำซ้ำอีกจะมีมาตรการขั้นเด็ดขาด

อย่าลืมว่าเด็กก็มีหัวใจ ไม่ใช่ว่าอยากให้ได้ดีแล้วทั้งตี ทั้งตะคอกใส่ แล้วอย่างนั้นจะไปได้ถึงไหนกัน

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ 12 มิถุนายน 2553

No comments:

Post a Comment