ยามมีความรัก หนุ่มสาวย่อมปรารถนาอยากให้แฟนมาคอยเทคแคร์, ดูแลและเอาใจใส่ ทั้งนั้นแหละเนอะ เพราะคนเราบางทีก็ใช่ว่าจะคว้าใครมาเป็นแฟนกันง่ายๆซะที่ไหน ดังนั้น พอ "รักลงล็อก" สามารถชวนใครมาเป็นแฟนได้ทั้งที ก็ควรยินดีปรีดาและทุ่มเท "รักนี้" ให้แก่กันและกันอย่างมีความหมายเข้าซี ซึ่งหลายท่านสมควรได้คะแนนเต็มด้านดูแล "รักของเรา" ได้สุดยอด...ไปเลย
แต่ เอ๊ะทำมั้ย ทำไมบางคู่พอรักๆกันไป ไหง เกิดความรู้สึกเสียวจี๊ดขึ้นมาก็ไม่รู้สิว่า ไม่เห็นจำเป็นต้องไปให้เวลากับแฟนมากนักก็ได้ จึงหันไปบ้างาน, ติดเพื่อน, ติดเกม (คอมพิวเตอร์), ชอบเที่ยวกลางคืน และมีข้ออ้างอีกสารพัดสารเพ จนทำให้ต้องห่างเหินจากแฟนไปอย่างน่าเสียดาย...ซึ่งอันที่จริงพวกที่เค้าทำ แบบนี้ คืออ้างว่าไม่มีเวลาให้แฟนน่ะ จะเสียดายรึเปล่าก็บ่ฮู้ แต่ผู้เขียนน่ะกลืนน้ำลายเอื้อกๆ เพราะเสียดายแทนซีฮ้า อ่ะก็พวกที่มีแฟนแล้ว มักใจเย็นคิดว่ามี "ของตาย" อยู่ในมือ จึงทำเป็นเพลินไม่สนใจว่าแฟนของตัวจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร...แล้วสักวันจะ รู้สึก! ว่าคุณได้พลาดเวลาที่ควรแบ่งปันทุกข์และสุขกับแฟนไปแล้วนะเฟ้ย ซึ่งตรงนี้มักเป็นต้นตอของปัญหาชีวิตคู่ตามมาเสมอ ดังนั้น หากคู่ใดไม่อยากมีปัญหาร้าวลึกกะแฟนจากจุดเริ่มต้นที่ว่า "มีรักแต่ดันไม่มีเวลา" ก็หาทางแก้ซะนะ
แต่เออ มีเหมือนกันที่บางคนไม่อยากให้แฟนมาอยู่ใกล้ๆเค้า ด้วยการ อ้างว่าอยู่ใกล้กันแล้วมันจั๊กเดียม แบบว่าจะทำอะไรก็ทำได้ไม่ถนัด เพราะแฟนมาคอยเซ้าซี้ทำให้เสียสมาธิอยู่นั่น...อ้าว! หรือบางทีอยู่ใกล้กัน แทนที่จะได้จู๋จี๋หยอกล้อกัน แต่เปล่าหรอก กลับหันมากัดกัน...เอ๊ย ทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องมากกว่า เช่น เผอิ้ญ...เกิดพูดอะไรไม่ถูกหูแฟนขึ้นมา ก็เอาแหละเริ่มเซ็งขี้หน้ากันแล้ว เนี่ยแสดงว่าเป็นคู่กรรมคู่เวรกันละซี ถึงอยู่ใกล้กลับทำให้ใจร้อนรน เป็นงี้ไปซะได้
เหตุนี้คู่เลิฟจึงควรเว้นวรรค ทำนองว่า เว้นระยะห่างจากกันเอาไว้มั่งก็ได้ เพราะเท่าที่พรรณนามาทั้งหมดก็ไม่ได้เชียร์ให้ต้องตัวติดกันซะหน่อย เพียงแต่อย่าห่างเหินหมางเมินในขณะที่รักกันก็พอ ซึ่งของแค่เนี้ยทำได้สบายมากหรอกรู้น่า
งั้นสัปดาห์นี้จึงอยากจะฝอย ถึงเรื่อง ทำไงคุณถึงรู้ว่าแฟนของคุณยังรักคุณอยู่ คงแจ๋วแหววไปเลยนิ เพราะอย่างว่าล่ะพอเป็นแฟนกันนานเข้า บางทีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจเริ่มสงสัยขึ้นมาก็ได้ว่า แฟนของตัวน่ะยังรักกันเหมือนเดิมอย่างเมื่อก่อนรึเปล่า? อ่ะก็เดี๋ยวนี้ อะไรๆมันเปลี่ยนกันง่ายๆนี่หว่า
ดังนั้น การสงสัยอย่างนี้จึงไม่ใช่ทำไปเพื่อจะหาเรื่องกันหรอกนะ แต่อยากได้รับการคอนเฟิร์มหรือยืนยันมากกว่า ว่าแฟนยังเลิฟคุณอยู่ไม่เสื่อมคลาย งั้นพิสูจน์จากสิ่งไหนกันดีล่ะ เอาละวา เริ่มจากสิ่งนี้ละกัน เช่น 1.เค้ายังอยากจูงมือคุณอยู่เลย แสดงว่าไม่ได้รังเกียจคุณซะหน่อย
เวลาที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน สังเกตเอาละกันว่า เค้าชอบคว้ามือคุณมาจูงไปนู่นไปนี่ด้วยกันเหมือนแต่ก่อนไหม? หากเค้ายังทำแบบนี้อยู่ ก้อหมาย ความว่าความรักที่เค้ามีต่อคุณยังไม่จางหายไปไหนน่ะสิจ๊ะ อู้หูเคยเห็นปะ ว่าบางคู่นะไม่รู้ เป็นไง ยิ่งอยู่ด้วยกันนานๆเข้าชักเดิน ถอยห่างจากกันแฮะ
บาง คู่รักกันมาปีนึงก็สมมติว่าเดินห่างกัน 5 ก้าวแล้ว ถ้ารักกันนาน 2 ปีก็เดินห่างกัน 10 ก้าว งี้หากรักกัน 5 ปี คงเดินห่างกันประมาณ 25 ก้าวไปเลยดิ เออทำงี้บางคู่อาจรู้สึกดี เพราะทำให้ไม่อึดอัดก็ได้ แต่จะมีสักกี่คู่เชียวที่ชอบแบบ นี้จริงๆ แหมมีแต่อยากให้แฟนเห็นความสำคัญของอีกฝ่ายมากกว่าสิยะ กระนั้นการเดินห่างกันของคู่รักเนี่ย เหมือนเป็นการกระทำโดยอัตโนมัติว่ามะ เหตุนี้ถ้าเค้า (แฟนคุณ) ยังคว้ามือคุณให้มาเดินเคียงกันละก็ เท่ากับเค้ายังเลิฟคุณล้ำลึกเหมือนเดิมไงล่ะ...ไชโย
2. เค้ายังอยากแต๊ะอั๋งทีเผลอกับคุณรึเปล่าล่ะ? ถ้าใช่ก็ชัวร์
ชัว ร์ว่า เค้ายังหลงเสน่ห์มหาระรวยที่คุณเคยแอบมาเป่ากระหม่อมเค้าไว้ไงล่ะ...อิอิ แต่ที่จริง คุณไม่ต้องใช้ "รากราคะ" หรือ "น้ำมันพราย" มาปลุกเร้าให้เค้าหลงคุณจนโงหัวไม่ขึ้นร้อก เพราะคุณน่ะ มีดีอยู่ในตัวอยู่แล้ว เช่น เป็นสาวน่ารักน่าจุ๊บ, มีกิริยามารยาทดี, พูดจาก็ไพเราะเสนาะหู แถมหุ่นยังเช้งกระเด๊ะเซ็กซี่อยู่เลย ซึ่งหากเป็นงี้ เค้าย่อมอยากสัมผัสเรือนร่างบางส่วนบนตัวคุณอยู่แหงๆ
อ่ะถ้าเค้ายัง อยากจุ๊บๆคุณ, อยากกอดคุณบ้าง หรืออยากอุ้มคุณ (ถ้าคุณไม่อ้วนจนเกินไป) ก็นั่นแหละ แสดงว่าเค้ายังมองว่าคุณคือคู่แท้สองโลก...เอ๊ย โลกเดียวกันกะเค้าแน่นอน
3. เค้ายังตามคุณไปช็อปปิ้งไหมล้า ถ้าคุณไปช็อปฯแล้วเค้ายังตามไปด้วยก็แหงซะ ว่า "รักนะ ...เด็กโง่" เอ้ามีหนุ่มจำนวนไม่น้อยเชียวนะที่ไม่สน, ไม่อยากและไม่ชอบไปช็อปปิ้งกับแฟนสาว เพราะเค้ารู้ดีนี่ว่า ผู้หญิงทั้งหลายน่ะ ถอดแบบมาเหมือนกันเด๊ะ คือชอบแวะชมโน่นชมนี่ แถมชอบเดินวนเวียนเข้าออกร้านนั้น ร้านนี้ตามห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดบิ๊กเบิ้ม ด้วยอาการนวยนาดและเดินได้ทั้งวี่ทั้งวัน ชนิดที่ว่า ต่อให้เป็นมิดไนต์เซลส์ หล่อนก็สามารถเดินเอ้อระเหยได้ถึงมิดไนต์ก็ละกัน
ซึ่ง หยั่งงี้แหละ ถึงทำให้หนุ่มๆไม่อยากไปเดินช็อปปิ้งกะแฟนสาวเท่าไหร่ แต่ถ้าเมื่อไรที่คุณชวนแฟนให้เป็นเพื่อนไปเดินซื้อของด้วยกันตามห้างฯได้ อยู่ละก็ เท่ากับเค้ายังแคร์คุณอย่างมากๆไงจ๊ะ
4. เค้ายังชอบพูดคุยกับคุณ โดยเฉพาะฮัลโหลๆหากันเสมอ นี่ก็รักนะแม่คุณ แทนที่เค้าจะโทร.ไประรี้ระริกจีบกิ๊กคนใหม่ แต่เอ๊ะ...เค้ายังอยากพูดคุยและโทร.มาหาคุณเพื่อเล่าเรื่องสารพัดสารเพให้ ฟังนี่หว่า เอ้างั้นย่อมเกิดจากความผูกพันกันมากๆ...ฟันธงให้ได้เลยจ้า
การ โทร.หากันวันละครั้งอย่าคิดว่าไม่สำคัญนะเฟ้ย เพราะถ้าไม่ชอบ, ไม่รัก, ไม่คิดถึงแล้วไซร้ จะยกมือถือมากดปุ่มโทร.หากันทำไมมิทราบ ว่าแต่การโทร.หา ขอให้เป็นโทร.มาเพราะคิดถึงจริงๆเถอะ ไม่ใช่โทร.มาสั่งให้ทำนู่นทำนี่ แต่โทร.เพราะห่วงใยมีใจให้กัน...โหแฟนใครวะน่ารักจังเยย
เมอร์ลิน
ที่มา: ร้อยแปดพันเก้า ไทยรัฐออนไลน์ 16 พฤษภาคม 2553
No comments:
Post a Comment