Thursday, June 10, 2010

ประเมินผลงานไม่ผ่าน (รศ.)

ได้มีโอกาสรับฟังการสนทนาของผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการศึกษาเรื่องการจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาโท ปริญญาเอกสมัยนี้

หลายเรื่องฟังแล้วสะดุ้ง ต้องเอามานินทาให้ท่านผู้อ่านฟังต่อประสาคนรักชอบกัน

ท่านว่า หลักสูตรปริญญาโทสมัยนี้เปิดสอนกันทุกแห่ง ไม่ว่ามหาวิทยาลัยของรัฐหรือเอกชน เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ตั้งมานาน หรือเพิ่งเปิดสด ๆ ร้อน ๆ ชนิดยังจำชื่อตัวเองไม่ได้

เปิดมากเป็นร้อยแห่งนะครับท่าน การแข่งขันเพื่อหาลูกค้ามาเรียนจึงดุเดือดเลือดพล่าน

กลยุทธ์ในการทำตลาดหาลูกค้าไม่เป็นรองธุรกิจใหญ่ ๆ อย่างตลาดเบียร์ ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง

ทหารม้าเขามีสโลแกน รวดเร็ว รุนแรง เด็ดขาด ส่วนที่ได้ฟังมาอย่าบอกใครต่อเชียวนะท่าน เขาว่า น้อย สั้น แน่นอน

เรียนน้อย ใช้เวลาสั้น จ่ายค่าเรียนครบจบแน่ คาดว่าต่อไปอาจมีหลักสูตรสองสามเดือนจบเป็นมหาบัณฑิตแบบเบ็ดเสร็จ

ที่ตื่นเต้นเร้าใจมีการขายแบรนด์มหาวิทยาลัยดัง ๆ ไปเปิดตามต่างจังหวัดเก็บค่าเรียนแบ่งเปอร์เซ็นต์กินหัวคิวตามที่ตกลงกัน

มีหลายเรื่องหลากรสฟังเพลิดเพลินน่ากลุ้มใจแทน จึงขอนำมานินทาต่อพอเป็นกระสาย จริงเท็จอยู่ที่ท่านอาจารย์ผู้ใหญ่ผู้สนทนากัน

นี่เป็นปัญหาหนึ่งของการเรียนการสอนทุกวันนี้ ส่วนที่เป็นปัญหาของครูบาอาจารย์ท่านโดยตรงไม่ต้องแอบนำมานินทา เพราะมีเป็นคดีฟ้องร้องกันที่ศาลปกครองอยู่หลายคดี

ท่านผู้ช่วยศาสตราจารย์ระดับแปด มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง ยื่นเรื่องพร้อมแบบประวัติส่วนตัวและผลงานทางวิชาการเพื่อรับการประเมินขอ กำหนดตำแหน่งรองศาสตราจารย์

สภาวิชาการเป็นผู้พิจารณาแล้วรายงาน อ.ก.ม. มหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ โดยอธิการบดีเป็นผู้ออกคำสั่งแต่งตั้ง

มีรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการทำหน้าที่เลขานุการสภาวิชาการ และร่วมกับประธานกรรมการประจำสาขาวิชานิติศาสตร์และผู้อำนวยการสำนักวิชาการ เสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิมาทำหน้าที่ประเมินผลงานทางวิชาการของท่านอาจารย์ผู้ เสนอผลงานเพื่อรายงานสภาวิชาการดังกล่าว

ปรากฏว่าคณะผู้ทรงคุณวุฒิเห็นว่าผลงานไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด

รองอธิการบดีในฐานะเลขานุการสภาวิชาการแจ้งผลการพิจารณาไปยังประธานกรรมการประจำสาขาวิชานิติศาสตร์เพื่อทราบและแจ้งให้ผู้ฟ้องคดีทราบ

และนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาสภาวิชาการซึ่งปรากฏว่าไม่มีความเห็นเปลี่ยนแปลงความเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ

ไม่ได้กลัวถูกยุบนะเฟ้ย

ตำแหน่งรองศาสตราจารย์จึงเอวังด้วยประการฉะนี้

เอ๊ะ มันแปลก ๆ อยู่นะ เพราะกว่าจะได้รับแจ้งผลการพิจารณาผลงานนานถึงสองเดือน แตกต่างจากผู้ขอรับการประเมินรายอื่นซึ่งใช้การพิจารณาไม่กี่วันหลังจากได้ รับเรื่องจากเจ้าหน้าที่

เมื่อขอทราบรายละเอียดผลการพิจารณาของผู้ถูกฟ้องคดีและขอรับสำเนารายละเอียด การพิจารณาอาจารย์รายอื่นที่เสนอเช่นเดียวกันเพื่อประกอบการเขียนอุทธรณ์

ก็ไม่ได้รับแจ้ง ทำหนังสือทวงถามก็แล้ว ยื่นอุทธรณ์ก็แล้ว หามีผลประการใดไม่

ความเสียหายที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองศาสตราจารย์ ต้องเสียโอกาสได้รับค่าตอบแทนทางวิชาการเพิ่มอีกเดือนละเก้าพันเก้าร้อยบาท เสียสิทธิรับเงินเดือนในตำแหน่งรองศาสตราจารย์ สิทธิในการเหมาจ่ายที่เพิ่มขึ้นที่จะต้องไปปฏิบัติกิจกรรมทั่วประเทศ ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก ค่าพาหนะเหมาจ่าย ค่าตอบแทนการสอนเสริม สิริรวมแล้วห้าแสนบาทถ้วน

คิดจำนวนเงินได้ละเอียดยุบยิบเพราะต้องนำมาฟ้องท่านรองอธิการบดีต่อศาล ปกครองเพื่อขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในจำนวนนี้พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง จนกว่าจะชำระเสร็จ

ศาลปกครองชั้นต้นเห็นว่าเป็นการยื่นฟ้องเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามที่กฎหมาย กำหนด มีคำสั่งไม่รับฟ้อง ให้จำหน่ายคดี คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดให้แก่ผู้ฟ้องคดี

ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์คำสั่ง

ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า ท่านอธิการบดีเป็นผู้มอบหมายรองอธิการบดีผู้ถูกฟ้องคดีให้ทำหน้าที่กำกับ ดูแลฝ่ายวิชาการ และแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เลขานุการสภาวิชาการ

อันมีอำนาจหน้าที่ตามกระบวนการประเมินผลงานดังได้กล่าวมาแล้ว

เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายอันเป็นการปฏิบัติ หน้าที่ในฐานะเลขานุการสภาวิชาการในการแจ้งผลการพิจารณาของสภาวิชาการ และไม่อาจเสนอให้ อ.ก.ม. มหาวิทยาลัยอนุมัติให้อธิการบดีมีคำสั่งแต่งตั้งต่อไป

ผู้ถูกฟ้องคดีไม่มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ

ส่วนการขอเอกสารทั้งหลายของผู้ฟ้องคดีเป็นกรณีการใช้สิทธิขอสำเนาข้อมูลข่าว สารตามมาตรา ๙ วรรคสามแห่ง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยในฐานะหน่วยงานของรัฐดังกล่าว

ผู้ถูกฟ้องคดีไม่ใช่เจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ตามที่ผู้ฟ้องคดีร้องขอ

ความเสียหายที่ผู้ฟ้องคดีได้รับจึงมิใช่ผลของการละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือ ปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า ผู้ฟ้องคดีจึงมิใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ตามมาตรา ๔๒ วรรคหนึ่งแห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ ไม่มีสิทธิฟ้องคดีนี้

ที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วยในผล

มีคำสั่งยืนตาม ไม่รับฟ้องไว้พิจารณา (คำสั่งที่ ๑๙๙/๒๕๕๐).

พิสิษฐ์ พลรักษ์เขตต์
praepim@yahoo.com

ที่มา: ประเมินผลงานไม่ผ่าน กฎหมายข้างตัว เดลินิวส์ออนไลน์ วันเสาร์ที่ 01 พฤษภาคม 2553
-=-=-=-

ต้องฟ้อง อธิการในฐานะ ประธาน อ.ก.ม. มั๊ง อิอิ..

No comments:

Post a Comment