Friday, July 2, 2010

ท้องผูกเรื้อรัง ระวังริดสีดวงถามหา

ปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้คนเราอยู่ดีมีสุขได้นั้นคงหนีไม่พ้นเรื่องง่ายๆ เช่น กินได้ นอนหลับ ขับถ่ายสะดวก แต่หากระบบขับถ่ายติดขัดเสียแล้วย่อมกระทบต่อคุณภาพชีวิตไม่น้อยเลย และ “ท้องผูก” ก็เป็นปัญหาใหญ่ที่พบบ่อยๆ ซึ่งนอกจากจะสร้างความทุกข์ทรมานอย่างมากแล้วยังเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึง โอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรค “ริดสีดวงทวาร” อีกด้วย

“ท้องผูก” บ่อยครั้งจนต้องพึ่งยาระบายจนเป็นนิสัย และหากขับถ่ายแต่ละครั้งต้องเบ่งรุนแรงบ่อยๆ แล้วละก็ให้ระวัง “โรคริดสีดวงทวาร” จะถามหา เพราะโรคนี้มีความสัมพันธ์กับการเบ่งถ่ายรุนแรงและเรื้อรัง เนื่องจากท้องผูกหรือท้องเสียเรื้อรัง เป็นภาวะที่สามารถทำให้เลือดคั่งในเส้นเลือดดำที่ผนังรูทวาร ส่งผลให้กลุ่มเส้นเลือดและเนื้อเยื่อบริเวณส่วนปลายของลำไส้โตขึ้น ซึ่งปกติจะมีหน้าที่ป้องกันกล้ามเนื้อของทวารหนัก รวมทั้งหูรูดระหว่างขับถ่ายอุจจาระ และช่วยให้ทวารหนักปิดได้สนิทในขณะที่เราอยู่เฉย

อาการสำคัญ

ถ่ายเป็นเลือดสีแดงสด หรือพุ่งออกมาขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ และหมดไปเมื่อหยุดเบ่ง มีก้อนปลิ้นออกมาเวลาเบ่งถ่าย ก้นแฉะและคันก้น มีก้อนออกมาคาบริเวณทวารหนักและปวด

โรคริดสีดวงทวาร พบได้ตั้งแต่ช่วงอายุ 20 – 30 ปี อาการเริ่มแรกมักจะเป็นๆ หายๆ และจะรุนแรงขึ้นในช่วงอายุประมาณ 40-50 ปี

ปัจจัยที่ทำให้เกิดริดสีดวงทวารหนัก
 ท้องผูกเรื้อรัง ท้องเสียถ่ายอุจจาระบ่อยๆ นิสัยเบ่งอุจจาระมาก เพื่อพยายามเอาอุจจาระก้อนสุดท้ายออก ชอบนั่งถ่ายนานๆ เช่น อ่านหนังสือไปด้วย ชอบใช้ยาสวนหรือยาระบายพร่ำเพรื่อ หญิงตั้งครรภ์ ภาวะตับแข็ง อายุมากขึ้น รวมถึงผู้ที่ยกของหนักเป็นประจำ ด้วย

สาเหตุเหล่านี้ทำให้มีโอกาสที่กลุ่มเส้นเลือดและเนื้อเยื่อบริเวณส่วนปลายลำไส้โต และยืดออก ซึ่งการที่มีเลือดออกนั้นเกิดจากการบาดเจ็บของเส้นเลือดบริเวณดัง กล่าว กรณีที่พบบ่อยมักมาจากอุจจาระที่แข็งมากๆ ร่วมกับการเบ่งนานๆ ทำให้มีเลือดสดๆ ไหลออกจากทวารหนักได้

ริดสีดวงแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ ริดสีดวงภายใน และริดสีดวงภายนอก
ริดสีดวงภายในจะอยู่ภายในทวาร โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ระยะ
ระยะที่ 1 หัวริดสีดวงยังอยู่ภายในทวารหนัก มีอาการเลือดออกเพียงอย่างเดียว
ระยะที่ 2 หัวริดสีดวงยื่นออกมานอกทวารหนักเวลาเบ่งและเลื่อนกลับเข้าได้เองเมื่อหยุดเบ่ง
ระยะที่ 3 หัวริดสีดวงยื่นออกมาเวลาเบ่งและต้องดันกลับเข้าไปในทวารหนัก
ระยะที่ 4 หัวริดสีดวงโตมากและยื่นออกมาอยู่นอกทวารหนักตลอดเวลา ไม่สามารถดันกลับเข้าไปในทวารหนักได้

การรักษาริดสีดวงภายในจะมุ่งระงับอาการมากกว่าที่จะขจัดหัวริดสีดวงให้หมดไป การผ่าตัดจำเป็นในรายที่มีข้อบ่งชี้ชัดเจนเท่านั้น

การรักษาทั่วไป

ดูแล การขับถ่ายให้เป็นปกติ หมั่นออกกำลังกาย ดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานผักและผลไม้จะช่วยให้ขับถ่ายได้สะดวกขึ้น ถ้าก้นแฉะหรือชื้นต้องหมั่นล้างและเช็ดให้แห้ง ไม่ควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อมาเช็ดล้างทวารหนักเพราะจะทำให้อักเสบได้ ระวังการดื่มของมึนเมา เช่น เหล้า เบียร์ ซึ่งอาจทำให้หัวริดสีดวงพองมากขึ้น

การรักษาแบบเฉพาะเจาะจง มีหลายวิธี เช่น

การ ฉีดยา เพื่อทําให้หัวริดสีดวงยุบลง โดยฉีดยาเข้าไปในชั้นใต้เยื่อบุทําให้เกิดพังผืดรัดหลอดเลือดบริเวณริดสีดวง และรั้งเนื้อเยื่อริดสีดวงไม่ให้เลื่อนตัวลงมา ใช้กับผู้ป่วยที่มีเลือดออกและหัวริดสีดวงยื่นออกมาไม่มาก แพทย์จะทำการฉีดยาทุก 2-4 สัปดาห์จนอาการทุเลา ผลข้างเคียงอาจทําให้เวียนศีรษะและระคายเคืองทวารหนักเป็นระยะเวลาสั้นๆ ได้

การใช้ยางรัด จะใช้ในกรณีที่หัวริดสีดวงที่ยื่นออกมามีขั้วขนาดเหมาะที่จะรัดได้ เพื่อให้หัวริดสีดวงหลุดออก และพังผืดที่เกิดจากแผลจะรั้งริดสีดวงที่เหลือให้หดกลับเข้าไปในทวารหนัก ไม่ควรทําในรายที่มีภูมิคุมกันผิดปกติ หรือมีภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ถ้ามีอาการเจ็บมากควรเอายางที่รัดออกทันที ผลข้างเคียงหลังการรัดอาจมีอาการระคายเคืองหรือปวดถ่วงในทวารหนัก แต่อาการไม่รุนแรงมากนักและกินเวลานานประมาณ 24-48 ชั่วโมง บรรเทาโดยให้ยาระงับปวด เมื่อหัวริดสีดวงหลุดจะมีเลือดออกประมาณ 3-7 วัน แต่มักออกไม่มากและหยุดได้เอง ข้อพึงระวังคือหัวริดสีดวงอาจอักเสบ บวม เจ็บ และยื่นออกมาได้ หรืออาจเกิดภาวะติดเชื้อบริเวณทวารหนักซึ่งเกิดขึ้นได้น้อยมาก โดยผู้ป่วยจะมีอาการปวดบริเวณทวารหนัก มีไข้สูง และปัสสาวะไม่ออก ภาวะเช่นนี้อาจรุนแรงมากจนผู้ป่วยถึงแก่กรรมได้ควรรีบนำผู้ป่วยเข้ารับการ รักษาในโรงพยาบาล

การจี้ริดสีดวงทวารด้วยอินฟราเรด เพื่อให้ริดสีดวงทวารยุบลงและหยุดอาการเลือดออก ทำในกรณีที่ริดสีดวงยังอยู่ในระยะที่ 1 และ 2 หลังการจี้ 1-2 สัปดาห์อาจมีผลข้างเคียงคือมีเลือดออกจากแผลได้ แต่จะไม่มากและสามารถหยุดได้เอง

การผ่าตัด ใช้หลักในการตัดเนื้อเยื่อทวารหนักส่วนเกิน และเย็บดึงรั้งริดสีดวงทวารส่วนที่เหลือขึ้นไปในทวารหนัก การรักษาโดยการผ่าตัดจะทำก็ต่อเมื่อหัวริดสีดวงใหญ่และยื่นออกมา หรือตั้งแต่ระยะที่ 3 เป็นต้นไป อาจเสริมด้วยการตกแต่งขอบทวารหนัก เช่น ตัดติ่งหนัง หรือขยายปากทวาร หรือตกแต่งแผลที่มีร่วมด้วย หลังผ่าตัดจะได้รับยาแก้ปวดและยาช่วยให้อุจจาระไม่แข็งมาก ควรแช่น้ำอุ่นจะทำให้กล้ามเนื้อหูรูดคลายเกร็งและทุเลาปวดได้

ปัจจุบัน ยังมีการรักษาโดยการเย็บหลอดเลือดที่วิ่งมาที่หัวริดสีดวงทวารหนัก โดยใช้เครื่องตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Doppler Ultrasound) เข้ามาช่วย และถ้าเป็นระยะที่ 3 ซึ่งมีก้อนยื่นออกมา ก็สามารถเย็บหัวริดสีดวงเข้าไปด้านใน โดยไม่มีการตัดเนื้อเยื่อออก ทำให้ไม่เจ็บเหมือนการตัดหัวริดสีดวงออก ซึ่งผลข้างเคียงน้อยและไม่รุนแรงเหมือนการตัดด้วยเครื่องมือตัดเย็บหัว ริดสีดวงที่เรียกว่า Hemorrhoid Stapler

สำหรับริดสีดวงภายนอกเป็น เส้นเลือดดำที่อยู่รอบริมปากทวารหนักที่พองออกเวลาเบ่งถ่ายอุจจาระ และจะยุบลงเมื่อหยุดเบ่ง จะมีปัญหาก็ต่อเมื่อเกิดลิ่มเลือดที่ทำให้เส้นเลือดอุดตัน และเกิดเป็นตุ่มแข็งที่ขอบทวารหนักหลังถ่ายอุจจาระ จะทำให้เจ็บมากภายใน 3 – 4 วันแรก และถ้าปล่อยไว้อาจแตกมีเลือดซึมหรือมีก้อนเลือดหลุดออกมาหรือยุบลงจนเป็น ปกติภายใน 2 สัปดาห์ บางรายจะยุบไม่หมดทำให้ผิวหนังขอบทวารหนักแข็งนูนออกเป็นติ่ง

แนวทางในการรักษา

ถ้าเป็นก้อนเล็กและไม่เจ็บมากก็ไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด แต่ถ้าเป็นก้อนใหญ่และเจ็บมากควรผ่าเอาก้อนเลือดที่คั่งออกโดยใช้ยาชาฉีด เฉพาะที่ ซึ่งผู้ป่วยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ (โดย โรงพยาบาลเวชธานี) 2 กรกฎาคม 2553

No comments:

Post a Comment