ขออนุญาตท่านผู้อ่านเข้าคลุกวงในการจัดซื้อจัดจ้างกับทางราชการอีกวัน แฟน ๆ ในวงการขอร้องมาอีกบางประเด็น
เรื่องการขอขยายกำหนดเวลาทำงานตามสัญญาของเอกชน ผู้ไม่มีเส้น ขอขยายเมื่อไร ท่านไม่ค่อยให้หรือให้มากะพร่องกะแพร่งเต็มทีทั้ง ๆ ที่มีเหตุจำเป็นจริง ๆ
ทำไม่เสร็จตามกำหนดเวลา ต้องจ่ายค่าปรับเป็นรายวันแทบล้มละลาย
อันที่จริงน่าเห็นใจทั้งสองฝ่าย ทางราชการผู้ว่าจ้างจะซี้ซั้วอนุญาตตะพึด เขาก็หาว่ามีนอกมีใน งานก็ล่าช้า ยุ่งยากไปถึงการเบิกจ่ายงบประมาณ
ส่วนทางเอกชนผู้รับจ้างนั้นเล่า เห็นเขาเรียกว่าเสี่ยผู้รับเหมาดูมีสตุ้งสตางค์น่าอิจฉา แต่จะรู้บ้างไหมเนี่ยว่ากว่าจะได้งานมาสักโครงการโคตรเหนื่อยฉิบหาย
ป.ล. คำว่าฉิบหายไม่หยาบนะขอรับ เป็นภาษาอุทานในคำพระคำเจ้า
ทำงานไม่แล้วเสร็จตามกำหนด โดนยกแรกก็คือการปรับกรณีก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา ถูกสั่งปรับเป็นรายวัน การยึดหลักประกันซองรอคิวอันเหมาะสมต่อไป
แหม ถ้าเพียงเจ้านายท่านเมตตาอนุญาตให้ขยายเวลาได้ตามที่ขอ เรื่องย่อมจบด้วยดี
เป็นดุลพินิจของท่านตามสัญญาอย่างเต็มที่ว่าจะให้ขยายได้เท่าใดเพื่อให้ได้ เนื้องาน แต่ดันไม่อนุญาตเสียดื้อ ๆ ทั้งที่เอกชนเขามีเหตุความจำเป็น จะฟ้องขอความเป็นธรรมต่อศาลปกครอง ได้ไหม
ห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่งพบปัญหานี้เต็ม ๆ เมื่อตกลงทำสัญญารับจ้างกรุงเทพมหานครก่อสร้างสะพานคนเดินข้ามถนน
สัญญากำหนดให้ก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลา ๑๘๐ วัน ถ้าไม่เสร็จตามกำหนดปรับวันละสองหมื่นกว่าบาท
ถึงเวลาทำงานจริงมีปัญหาอุปสรรคเยอะแยะไปหมด ดูท่าไม่เสร็จแน่ ๆ จึงขอขยายเวลาก่อสร้างออกไปอีก ๑๐๐ วัน
ท่านขยายให้แค่ห้าสิบเอ็ดวัน อุทธรณ์ไปอีก ท่านเพิ่มให้อีก ตั้งสามวันรวมเป็นห้าสิบสี่วัน
ให้แค่นี้ ยังไงก็ไม่ทัน นี่ขอโดยความสงบ สันติ อหิงสาแล้วนะเฟ้ย ยังโดนปรับหมดตูดแน่ จึงฟ้องกรุงเทพมหานครผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ ๒ ต่อศาลปกครอง
โทษฐานอนุมัติให้ขยายเวลาเพียงห้าสิบสี่วันนั้นนะ มีผลทำให้ห้างหุ้นส่วนผู้ฟ้องคดีถูกปรับเป็นรายวันวันละสองหมื่นกว่าบาท จึงเป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่เป็นธรรม ขอให้ศาลปกครองสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีต่ออายุสัญญาออกไปอีกสี่สิบหกวัน ขอให้เพิกถอนคำสั่งเดิม และพิจารณาคำขอใหม่
ศาลปกครองชั้นต้น วินิจฉัยว่าสัญญาระหว่างผู้ฟ้องคดีกับผู้ถูกฟ้องคดีเป็นสัญญาทางปกครองกรณี นี้หากผู้ฟ้องคดีเห็นว่าการต่อ อายุสัญญาดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ชอบที่จะปฏิเสธไม่จ่ายเงินค่าปรับ ประกอบกับยังไม่ปรากฏว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ได้ทำการหักเงินค่าปรับจากผู้ฟ้องคดีไว้แล้วแต่อย่างใด จึงยังไม่อาจถือได้ว่าได้มีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิตามสัญญาทางปกครอง ผู้ฟ้องคดีไม่มีสิทธิฟ้องคดี มีคำสั่งไม่รับฟ้องไว้พิจารณา
ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฟ้อง ยังไง ๆ ก็ต้องจ่ายค่าปรับแน่จึงเป็นผู้ที่อาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า ตามสัญญากำหนดว่าการขยายกำหนดเวลาทำงานอยู่ในดุลพินิจของผู้ว่าจ้างที่จะพิจารณาตามที่เห็นสมควร
การขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีอนุมัติการต่ออายุสัญญาจ้างให้ผู้ฟ้อง คดีออกไปอีก ๔๖ วัน และให้เพิกถอนคำสั่งอนุมัติและผลการพิจารณาอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีที่ให้ต่อ เพียง ๕๔ วัน ซึ่งเป็นดุลพินิจของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่จะอนุมัติให้หรือไม่ก็ได้
และ เป็นคำขอให้ศาลปกครองสั่งให้กระทำการหรืองดเว้น กระทำการนอกเหนือหรือเกินไปกว่าที่กำหนดในสัญญา
ซึ่งศาลไม่อาจออกคำบังคับได้ตามมาตรา ๗๒ วรรคหนึ่ง (๓) แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ
และเมื่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ใช้ดุลพินิจในการอนุมัติให้มีการต่ออายุสัญญาตามที่กำหนดไว้ในสัญญาดังกล่าว จึงเป็นการใช้สิทธิตามสัญญา
มิใช่การใช้อำนาจตามกฎหมาย ของเจ้าหน้าที่ที่มีผลเป็นการสร้างนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลในอันที่จะ ก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน ระงับ หรือมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีที่จะมีลักษณะเป็น คำสั่งทางปกครอง ตามมาตรา ๕ แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙
กรณีพิพาทในคดีนี้จึง มิใช่คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งทางปกครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
และในกรณีที่ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าการที่ผู้ถูกฟ้องคดี ไม่คืนหลักประกันตามสัญญา ให้แก่ผู้ฟ้องคดีเป็นการกระทำที่ปราศจากมูลอันจะอ้างได้ตามข้อกำหนดในสัญญา ผู้ฟ้องคดีย่อมมี สิทธิเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการหรือฟ้องคดีต่อศาลปกครอง และยกเหตุเช่นว่านั้นขึ้นต่อสู้ได้
มีคำสั่งยืน ตามคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น (คำสั่งที่ ๘๖๓/ ๒๕๔๙)
ก้มหน้าก้มตาจ่ายค่าปรับเป็นการปรองดองกับ กทม.เสีย โดยดี.
พิสิษฐ์ พลรักษ์เขตต์
praepim @ yahoo.com
ที่มา: ขยายเวลาทำงาน กฎหมายข้างตัว เดลินิวส์ออนไลน์ วันเสาร์ ที่ 19 มิถุนายน 2553
No comments:
Post a Comment